Skip to content

Welcome to our store

Lounge Lovers
Previous article
Now Reading:
โต๊ะกินข้าวสำหรับ "Co-Living Space" ดีไซน์ที่รองรับผู้คนหลากหลายและกิจกรรมที่แตกต่าง
Next article

โต๊ะกินข้าวสำหรับ "Co-Living Space" ดีไซน์ที่รองรับผู้คนหลากหลายและกิจกรรมที่แตกต่าง

ในยุคที่ค่าครองชีพสูงขึ้นและไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่เปลี่ยนไป "Co-Living Space" หรือพื้นที่อยู่อาศัยร่วมกันกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะในกลุ่มคนทำงานรุ่นใหม่และนักศึกษา หัวใจสำคัญของพื้นที่เหล่านี้คือการออกแบบที่ต้องรองรับการใช้งานที่หลากหลายและผู้อยู่อาศัยที่มีความต้องการแตกต่างกัน โต๊ะกินข้าวจึงไม่ได้เป็นเพียงเฟอร์นิเจอร์สำหรับมื้ออาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นพื้นที่สำหรับการทำงาน การพบปะสังสรรค์ และกิจกรรมร่วมกันอีกด้วย

บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจแนวคิดการออกแบบโต๊ะกินข้าวสำหรับ Co-Living Space ที่ตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย พร้อมเทคนิคการเลือกที่เหมาะกับพื้นที่และการตกแต่งบ้านในรูปแบบใหม่ที่เน้นการแชร์พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพ

ความสำคัญของโต๊ะกินข้าวใน Co-Living Space

โต๊ะกินข้าวในพื้นที่ Co-Living ไม่ได้มีบทบาทเพียงแค่เป็นที่รับประทานอาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์กลางของกิจกรรมหลากหลายในชีวิตประจำวัน  ใช้พื้นที่โต๊ะกินข้าวเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ทั้งการทำงาน ประชุม ทำกิจกรรมสันทนาการ และรับประทานอาหารร่วมกัน

โต๊ะกินข้าวจึงกลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญที่ต้องได้รับการออกแบบอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของผู้อยู่อาศัยร่วมกัน ทั้งในแง่ของขนาด รูปทรง วัสดุ และฟังก์ชันการใช้งาน

ปัจจัยสำคัญในการเลือกโต๊ะกินข้าวสำหรับ Co-Living Space

1. ขนาดและรูปทรงที่เหมาะสมกับพื้นที่

การเลือกขนาดโต๊ะกินข้าวที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญอันดับแรก โดยเฉพาะใน Co-Living Space ที่มักมีพื้นที่จำกัด 

  • โต๊ะทรงกลม: เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีผู้อยู่อาศัย 3-4 คน เพราะช่วยให้ทุกคนมองเห็นกันได้ง่าย เหมาะกับการสนทนาและกิจกรรมกลุ่ม

  • โต๊ะทรงสี่เหลี่ยม: เหมาะกับพื้นที่ที่มีผู้อยู่อาศัยมากกว่า 4 คนขึ้นไป สามารถจัดวางชิดผนังเพื่อประหยัดพื้นที่ได้

  • โต๊ะแบบขยายได้: เป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับพื้นที่ที่มีการใช้งานหลากหลาย สามารถปรับขนาดได้ตามความต้องการ

2. วัสดุที่ทนทานและดูแลรักษาง่าย

เนื่องจากโต๊ะกินข้าวใน Co-Living Space มีการใช้งานหนักและหลากหลาย การเลือกวัสดุจึงเป็นปัจจัยสำคัญ:

  • ไม้จริง: ให้ความรู้สึกอบอุ่น แต่ต้องระวังเรื่องรอยขีดข่วนและความชื้น

  • ไม้อัด/ไม้ MDF เคลือบเมลามีน: ราคาไม่แพง ทนทาน ดูแลรักษาง่าย เหมาะกับการใช้งานหนัก

  • กระจก: ดูหรูหรา ทำความสะอาดง่าย แต่อาจเกิดรอยนิ้วมือได้ง่าย

  • โลหะ: ทนทานสูง เหมาะกับสไตล์อุตสาหกรรม (Industrial Style)


3. ฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย

โต๊ะกินข้าวที่ดีสำหรับ Co-Living Space ควรรองรับการใช้งานที่หลากหลาย:

  • โต๊ะมีช่องเก็บของ: ช่วยประหยัดพื้นที่และเพิ่มความเป็นระเบียบ

  • โต๊ะที่มีปลั๊กไฟในตัว: เหมาะสำหรับการทำงานหรือประชุมออนไลน์

  • โต๊ะที่ปรับระดับได้: สามารถปรับเป็นโต๊ะกินข้าวหรือโต๊ะกาแฟได้ตามต้องการ

  • โต๊ะพับได้: เหมาะสำหรับพื้นที่จำกัด สามารถเก็บเมื่อไม่ใช้งาน

เทรนด์การออกแบบโต๊ะกินข้าวสำหรับ Co-Living Space 

1. Minimalist Design ที่เน้นความเรียบง่ายแต่มีประโยชน์ใช้สอยสูง

เทรนด์การออกแบบแบบมินิมอลยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในพื้นที่ Co-Living ที่ต้องการความเรียบง่ายแต่มีประโยชน์ใช้สอยสูง โต๊ะกินข้าวสไตล์มินิมอลมักมีลักษณะดังนี้:

  • เส้นสายเรียบง่าย ไม่มีลวดลายหรือการตกแต่งที่ซับซ้อน

  • สีโทนเรียบ เช่น ขาว เทา ดำ หรือสีไม้ธรรมชาติ

  • มีฟังก์ชันซ่อนอยู่ เช่น ลิ้นชักเก็บของหรือส่วนขยายที่ซ่อนอยู่


2. Modular Furniture ที่ปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ

เฟอร์นิเจอร์แบบโมดูลาร์กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในวงการการตกแต่งบ้านสำหรับ Co-Living Space โต๊ะกินข้าวแบบโมดูลาร์สามารถ:

  • แยกส่วนเป็นโต๊ะเล็กหลายตัวเมื่อต้องการใช้งานแยกกัน

  • รวมกันเป็นโต๊ะขนาดใหญ่สำหรับกิจกรรมกลุ่ม

  • ปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ตามลักษณะการใช้งาน


3. Smart Furniture ที่ผสานเทคโนโลยีเข้ากับการใช้งาน

โต๊ะกินข้าวอัจฉริยะกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นใน Co-Living Space โดยมีคุณสมบัติเช่น:

  • มีช่องชาร์จ USB และปลั๊กไฟในตัว

  • มีระบบไฟ LED ในตัวที่ปรับความสว่างได้

  • มีระบบควบคุมอุณหภูมิสำหรับวางอาหารร้อน

  • เชื่อมต่อกับระบบสมาร์ทโฮมได้


กรณีศึกษา: การออกแบบโต๊ะกินข้าวใน Co-Living Space ที่ประสบความสำเร็จในไทย

กรณีศึกษาที่ 1: Hive Sathorn Co-Living Space

Hive Sathorn เป็น Co-Living Space ชื่อดังในกรุงเทพฯ ที่ออกแบบโต๊ะกินข้าวแบบพิเศษสำหรับพื้นที่ส่วนกลาง โดยใช้โต๊ะทรงยาวขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับผู้อยู่อาศัยได้ถึง 20 คนในเวลาเดียวกัน โต๊ะนี้ถูกออกแบบให้มีส่วนที่แบ่งเป็นโซน:

  • โซนทำงานที่มีปลั๊กไฟและพอร์ต USB

  • โซนรับประทานอาหารที่มีพื้นผิวทนความร้อนและรอยขีดข่วน

  • โซนกิจกรรมกลุ่มที่มีพื้นที่กว้างขวาง

ผลลัพธ์: อัตราการใช้งานพื้นที่ส่วนกลางเพิ่มขึ้น 78% และความพึงพอใจของผู้อยู่อาศัยเพิ่มขึ้น 65% หลังจากติดตั้งโต๊ะรูปแบบใหม่

กรณีศึกษาที่ 2: Quarters Bangkok

Quarters Bangkok ใช้แนวคิด "Transformable Dining Table" โดยออกแบบโต๊ะกินข้าวที่สามารถปรับเปลี่ยนได้หลายรูปแบบ:

  • สามารถแยกเป็นโต๊ะเล็ก 6 ตัวสำหรับการใช้งานส่วนตัว

  • รวมกันเป็นโต๊ะขนาดใหญ่สำหรับกิจกรรมกลุ่ม

  • ปรับระดับความสูงได้เพื่อใช้เป็นโต๊ะทำงานหรือโต๊ะกินข้าว

ผลลัพธ์: ประหยัดพื้นที่ได้ 40% เมื่อเทียบกับการใช้โต๊ะแบบดั้งเดิม และเพิ่มความยืดหยุ่นในการใช้งานพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

เทคนิคการเลือกโต๊ะกินข้าวที่เหมาะสมสำหรับ Co-Living Space

1. คำนึงถึงจำนวนผู้ใช้งานและพื้นที่ที่มี

ก่อนเลือกซื้อโต๊ะกินข้าว ควรคำนึงถึง:

  • จำนวนผู้อยู่อาศัยที่จะใช้งานโต๊ะพร้อมกัน

  • ขนาดของพื้นที่ที่จะวางโต๊ะ (ควรเหลือพื้นที่โดยรอบอย่างน้อย 90 ซม. สำหรับการเคลื่อนไหว)

  • รูปแบบการใช้งานหลักของโต๊ะ (รับประทานอาหาร ทำงาน หรือกิจกรรมอื่นๆ)


2. เลือกดีไซน์ที่เข้ากับสไตล์การตกแต่งโดยรวม

โต๊ะกินข้าวควรเข้ากับสไตล์การตกแต่งโดยรวมของ Co-Living Space:

  • สไตล์มินิมอล: เลือกโต๊ะเรียบง่าย สีโทนเรียบ เส้นสายตรง

  • สไตล์อุตสาหกรรม (Industrial): เลือกโต๊ะที่ทำจากไม้และเหล็ก มีความแข็งแรงทนทาน

  • สไตล์สแกนดิเนเวียน: เลือกโต๊ะไม้สีอ่อน ดีไซน์เรียบง่ายแต่มีความอบอุ่น

  • สไตล์ร่วมสมัย (Contemporary): เลือกโต๊ะที่มีการผสมผสานวัสดุและมีดีไซน์ทันสมัย


3. พิจารณาความคุ้มค่าในระยะยาว

การลงทุนในโต๊ะกินข้าวคุณภาพดีสำหรับ Co-Living Space อาจมีราคาสูงในตอนแรก แต่จะคุ้มค่าในระยะยาว:

  • เลือกวัสดุที่ทนทานต่อการใช้งานหนัก

  • พิจารณาการรับประกันและบริการหลังการขาย

  • คำนึงถึงความง่ายในการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนชิ้นส่วน

  • เลือกดีไซน์ที่ไม่ล้าสมัยง่าย

การเลือกโต๊ะกินข้าวที่เหมาะสมสำหรับ Co-Living Space

โต๊ะกินข้าวสำหรับ Co-Living Space ไม่ใช่เพียงเฟอร์นิเจอร์ธรรมดา แต่เป็นศูนย์กลางของกิจกรรมและการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อยู่อาศัย การเลือกโต๊ะที่เหมาะสมจึงควรคำนึงถึงความยืดหยุ่นในการใช้งาน ความทนทาน และการออกแบบที่ตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย

เทรนด์การออกแบบโต๊ะกินข้าวสำหรับ Co-Living Space ในปัจจุบันมุ่งเน้นไปที่ความเรียบง่ายแต่มีประโยชน์ใช้สอยสูง การปรับเปลี่ยนได้ตามความต้องการ และการผสานเทคโนโลยีเข้ากับการใช้งาน ซึ่งล้วนตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการความยืดหยุ่นและประสิทธิภาพในการใช้พื้นที่

การลงทุนในโต๊ะกินข้าวที่มีคุณภาพและออกแบบอย่างชาญฉลาดจะช่วยยกระดับประสบการณ์การอยู่อาศัยร่วมกัน สร้างบรรยากาศที่อบอุ่นและเป็นมิตร และส่งเสริมการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้อยู่อาศัย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของแนวคิด Co-Living

เชิญชวนให้ดำเนินการ (Call to Action)

ต้องการคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลือกโต๊ะกินข้าวที่เหมาะสมสำหรับ Co-Living Space ของคุณ? เยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราเพื่อดูคอลเลคชั่นโต๊ะกินข้าวดีไซน์พิเศษที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับพื้นที่ Co-Living พร้อมบริการให้คำปรึกษาฟรีจากผู้เชี่ยวชาญด้านการออกแบบภายใน

Cart

Close

Your cart is currently empty.

Start Shopping

Select options

Close