สินค้าประเภทโคมไฟในยุคปัจจุบัน นับได้ว่ามีหลากหลายรูปแบบด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นแบบตั้งโต๊ะ,แบบตั้งพื้น , แบบติดผนังและสุดท้ายก็คือแบบติดตั้งบนเพดาน ซึ่งในส่วนของโคมไฟเพดานนี้ นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่สร้างประโยชน์ให้กับผู้ใช้งานได้ไม่น้อยหน้าไปกว่าประเภทอื่น ๆ อีกทั้งยังคงมีรูปแบบเฉพาะที่นับได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและมีความสวยงามไม่ใช่น้อย
การติดตั้ง โคมไฟเพดาน ส่วนใหญ่มักจะติดตั้งตามห้องต่าง ๆ ภายในบ้าน โดยคุณสมบัติเด่น ๆ ก็คือสามารถให้แสงสว่างแบบวงกว้างและมีความสม่ำเสมออย่างน่าพึงพอใจ และสำหรับในตอนนี้ก็ถือได้ว่ามีหลายรูปแบบหลายชนิดด้วยกัน ส่วนชนิดที่ได้รับความนิยมอย่างมากที่สุดในตอนนี้ มีดังนี้
1. โคมไฟเพดาน แบบฝังฝ้า หรือ ดาวน์ไลท์
สำหรับโคมไฟชนิดแบบฝังฝ้า นับได้ว่าเป็น ไอเดียโคมไฟเพดาน ที่กำลังได้รับความนิยมอย่างมากที่สุด เนื่องจากโคมรูปแบบนี้จะสามารถนำไปใช้งานได้อย่างง่ายดาย อีกทั้งยังคงสามารถใช้งานได้กับทุกห้องภายในบ้าน เพราะสามารถให้แสงสว่างได้แบบทั่วถึง หากจะเลือกใช้ให้เป็นแสงสว่างหลัก ๆ เพื่อทำการจัดแสงก็ยังคงสามารถทำได้
ส่วนข้อเสียก็คือ การเลือกใช้แสงไฟจากโคมไฟเพดานชนิดนี้ ในส่วนของแสงสว่างที่คุณจะได้รับ อาจจะทำให้ห้องดูเหมือนขาดมิติและความสวยงามในบางจุดไป เพราะจะดูเหมือนว่าเรียบง่าย แต่ถ้าหากได้นำไปใช้ร่วมกับไฟชนิดอื่น ๆ ร่วมด้วย พร้อมทั้งมีการสร้างลูกเล่นตรงบริเวณเพดานของห้อง ก็จะทำให้เกิดความสวยงามและมีมิติได้เช่นเดียวกัน
2. โคมไฟเพดานแบบติดลอย
ในส่วนของโคมไฟชนิดแบบติดลอย นับได้ว่าเป็นชนิดที่มีน้ำหนักเบามาก ทำให้สามารถนำไปติดตั้งและยึดติดตรงฝ้าและเพดานได้อย่างง่ายดายโดยที่ไม่จำเป็นจะต้องเจาะฝ้าในรูปแบบเดียวกันกับการติดตั้งโคมไฟแบบดาวน์ไลท์โดยตรง หากอยากจะได้แสงสว่างหลัก ๆ หรือติดตั้งเพื่อที่จะรับแสงแบบเฉพาะจุดเพื่อที่จะทำให้ห้องหรือพื้นที่ภายในบ้านดูสวยงาม การเลือกใช้โคมไฟชนิดนี้นับได้ว่าสามารถตอบโจทย์ให้กับคุณได้อย่างแน่นอน
3. โคมไฟเพดานแบบซาลาเปา
โคมไฟเพดานที่ได้รับความนิยมอีกหนึ่งชนิดคงต้องยกให้กับรูปแบบซาลาเปา หรือที่เรียกอีกอย่างหนึ่งได้ว่า โคม 32W. ซึ่งถือได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่คนรุ่นใหม่มักจะเลือกใช้ เนื่องจากเป็นรูปแบบที่มีลวดลายที่ค่อนข้างจะหลากหลาย สามารถนำไปเลือกใช้หรือติดตั้งภายในห้องนอนได้อย่างน่าประทับใจเลยทีเดียว เพราะแสงที่จะได้รับคือแสงที่ดูนุ่มนวลและไม่ใช่แสงที่แยงตา บรรยากาศภายในห้องจึงดูดี อบอุ่น และน่าหลงใหลเป็นอย่างมากเลยทีเดียว
4. โคมไฟเพดาน แบบแขวน หรือ ห้อย
ขึ้นชื่อว่าเป็นโคมไฟเพดานชนิดแบบแขวนหรือห้อย หลายคนก็อาจจะนึกภาพออกได้ทันทีว่าเป็นไปในลักษณะไหนบ้าง แต่รู้หรือไม่ว่าชนิดนี้จะยังคงสามารถแบ่งออกได้เป็นอีก 2 กลุ่มด้วยกัน ได้แก่ แบบแขวนฝ้า และ แบบแขวนคาน
ในส่วนของแบบแขวนฝ้า มักจะเป็นโคมไฟที่มีน้ำหนักเบา มีทั้งแบบห้อยเดี่ยว ๆ หรือไม่ก็เป็นชุดเล็ก ๆ น้ำหนักจะไม่มากเท่าไหร่นัก ทำให้สามารถยึดติดและติดตั้งกับฝ้าและเพดานได้ง่าย ๆ
ส่วนแบบแขวนคาน ถือได้ว่าเป็นชนิดที่มีน้ำหนักค่อนข้างมากและดูเหมือนว่าจะมีน้ำหนักมากกว่าโคมไฟชนิดอื่น ๆ นั่นก็คือ โคมไฟระย้า หรือ แชนเดอเลียร์ ในส่วนของตัวยึดจะต้องมีความแข็งแรงและทนทานมากพอสมควร เพื่อที่จะสามารถยึดติดกับคานได้นั่นเอง
5. โคมไฟเพดานแบบสปอตไลท์
สำหรับโคมไฟเพดานชนิดนี้ เพียงแค่ชื่อก็ดูเก๋ มีความทันสมัย ทำให้คนรุ่นใหม่ต่างพากันสนใจที่จะเลือกใช้งานกันเป็นจำนวนมาก ส่วนใหญ่แล้วจะเหมาะสมต่อการนำไปติดตั้งภายในบ้านสไตล์ที่ดูโมเดิร์นเป็นหลัก เนื่องจากภาพลักษณ์โดยรวมที่ดูสวยงามและมีความพัฒนาไปจากเดิม อีกทั้งยังคงมีความยืดหยุ่นเป็นอย่างมาก สามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายรูปแบบด้วยกัน ส่วนแสงสว่างที่จะได้รับเป็นลักษณะแบบทั่วไป หรือใช้เน้นแสงสว่างในบางพื้นที่ได้เช่นเดียวกัน โดยโคมไฟชนิดนี้สามารถแบ่งออกได้อีก 2 รูปแบบด้วยกัน ดังนี้
โคมไฟเพดาน แบบติดราง
แบบนี้จะเป็นแบบที่สามารถนำโคมไฟหลายดวงมาติดบนรางได้ การจัดเรียงตำแหน่งของโคมไฟนั้น คุณสามารถจัดเรียงและกำหนดได้ด้วยตัวของคุณเอง
โคมไฟเพดาน แบบติดแป้น
แบบนี้จะเป็นการติดโคมแบบสปอตไลท์ชนิดเดี่ยว ๆ หรือดวงเดียวเท่านั้น หรือถ้าหากใครอยากจะยึดติดแบบหลายดวงแต่อยู่บนแป้นอันเดียวกันก็สามารถทำได้ แบบนี้จะสามารถหมุนองศาของหน้าไฟได้เป็นอย่างดี สามารถยึดติดกับฝ้าและเพดานได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งรางแต่อย่างใด
บทท้าย
สำหรับโคมไฟเพดานที่ได้รับความนิยมทั้ง 5 ชนิดนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นโคมไฟคุณภาพสามารถตอบโจทย์ให้กับผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ส่วนรูปแบบและสีสันที่จะทำให้เกิดความสวยงามและมีมิติที่นอกเหนือจากแสงสว่างที่เราจะได้รับ ยังคงมีมากมายหลากหลายรูปแบบและหลากหลายสีสันด้วยกัน
ส่งผลทำให้ผู้ใช้งานส่วนใหญ่ชื่นชอบและเลือกนำไปใช้งานได้ตามใจชอบมากยิ่งขึ้น อีกทั้งการเลือกใช้โคมไฟเพดานได้อย่างเหมาะสม จะช่วยทำให้ผู้ใช้งานได้รับประโยชน์มากยิ่งขึ้น เมื่อเป็นเช่นนี้ความคุ้มค่าก็จะเกิดขึ้นตามมาได้ในที่สุด