Skip to content

Welcome to our store

Lounge Lovers
Previous article
Now Reading:
9 ทริคแก้ปัญหา ทำอย่างไรถ้า โต๊ะกลางรับแขก ที่มีอยู่ไม่แมทช์กับห้อง
Next article

9 ทริคแก้ปัญหา ทำอย่างไรถ้า โต๊ะกลางรับแขก ที่มีอยู่ไม่แมทช์กับห้อง

 9 ทริคแก้ปัญหา ทำอย่างไรถ้า โต๊ะกลางรับแขก ที่มีอยู่ไม่แมทช์กับห้อง

โต๊ะกลางรับแขก ถือเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญ ซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางของพื้นที่รับแขกหรือพื้นที่นั่งเล่น รูปลักษณ์ดีไซน์ของโต๊ะกลางจึงควรมีความสอดคล้องต้องกัน เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับสไตล์โดยรวมของการตกแต่งห้อง เช่น โต๊ะกลางโซฟาไม้ สีเข้มจึงจะเหมาะกับห้องสไตล์รัสติกหรือสไตล์ดั้งเดิม ส่วน โต๊ะกลางขนาดเล็ก ที่มีดีไซน์เพรียวบาง ก็ย่อมเหมาะกับห้องสไตล์โมเดิร์นในพื้นที่ค่อนข้างจำกัด อย่างไรก็ตาม มีหลายครั้งที่เราอยากเริ่มตกแต่งห้องใหม่ แต่โต๊ะกลางตัวดีตัวเดิมกลับมีดีไซน์ที่ไม่แมทช์กับห้องเลยแม้แต่น้อย หากเราไม่อยากทิ้งโต๊ะกลางตัวเก่า และควักกระเป๋าซื้อโต๊ะกลางตัวใหม่ จะมีวิธีไหนที่จะเปลี่ยนโต๊ะกลางที่มีอยู่ให้แมทช์กับการตกแต่งและเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ ภายในห้องได้บ้าง ตามไปดูในบทความนี้กันเลย

เทคนิคแก้ไขให้ โต๊ะกลางรับแขก ตัวเดิมแมทช์กับห้องยิ่งขึ้น

แนวทางแก้ปัญหาโดยภาพรวม ก็คือการสร้างความกลมกลืนระหว่างโต๊ะกลางของเรากับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ และองค์ประกอบต่างๆ ภายในห้อง ซึ่งเทคนิคที่สามารถใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่

  1. ทาสีหรือเคลือบผิวใหม่
  2. การเปลี่ยนลุคให้ โต๊ะกลางรับแขก ด้วยการทาสีหรือเคลือบผิวทับ เป็นวิธีที่ง่ายและได้ผลแบบทันตาเห็น โดยเราสามารถเลือกเฉดสีใหม่ให้แก่โต๊ะกลาง รวมถึงเปลี่ยนลักษณะพื้นผิวให้ด้านหรือมันวาว เพื่อให้แมทช์กับองค์ประกอบอื่นภายในห้อง นอกจากนี้ ในกรณีที่เป็น โต๊ะกลางโซฟาไม้ เราก็สามารถเลือกสีทาไม้ที่มีเฉดต่างออกไปจากเดิม เพื่อเปลี่ยนภาพลักษณ์ของโต๊ะกลางให้มีบรรยากาศที่เข้ากับห้องได้ เช่น เปลี่ยนโต๊ะกลางไม้สีอ่อนให้มีเฉดเข้มขึ้นเพื่อให้แมทช์กับห้องสไตล์รัสติกหรือสไตล์ Traditional เป็นต้น

เทคนิคแก้ไขให้ โต๊ะกลางรับแขก ตัวเดิมแมทช์กับห้องยิ่งขึ้น

  1. ใช้การตกแต่งเป็นตัวช่วย
  2. การตกแต่งโต๊ะกลางเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเสริมความโดดเด่นและสร้างความกลมกลืนให้แก่โต๊ะ ยกตัวอย่างเช่น:

    • การวางไอเทมตกแต่ง เช่น หนังสือปกสวย ถาด ตะกร้า เทียนหอม หรือสิ่งของอื่นๆ ซึ่งมีสีสันหรือสไตล์ที่สอดคล้องกับการตกแต่งห้องโดยภาพรวม
    • การคลุมโต๊ะกลางด้วยผ้าปูโต๊ะเก๋ๆ ซึ่งมีสี ลวดลาย หรือ texture ที่เข้ากันได้กับสไตล์การแต่งห้องของเรา

    เทคนิคเล็กๆ นี้จะช่วยเชื่อมโยงโต๊ะกลางตัวเก่งให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของห้องโดยที่ดูไม่ขัดตา

  3. เติมเต็มด้วยวัสดุชนิดเดียวกัน
  4. หากโต๊ะกลางของเราทำจากชนิดวัสดุที่แตกต่างจากเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ ที่รายล้อมอยู่ ก็สามารถใช้วิธีเติมวัสดุที่มีความคล้ายคลึงกับองค์ประกอบอื่นภายในห้องเข้ามาตกแต่งโต๊ะกลาง เพื่อให้ภาพรวมของพื้นที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น ถาดโลหะ ชิ้นงานจากไม้ ตุ๊กตาผ้า หรือไอเทมตกแต่งจากแก้วและกระจก เป็นต้น

เติมเต็มด้วยวัสดุชนิดเดียวกัน

  1. หาตัวเชื่อมให้กับสไตล์ที่แตกต่าง
  2. อีกหนึ่งเทคนิคง่ายๆ ก็คือการหาไอเทมหรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นเข้ามาเป็นตัวเชื่อมประสานระหว่างสไตล์ที่แตกต่างกันของโต๊ะกลางและองค์ประกอบอื่นของห้อง ยกตัวอย่างเช่น การวางโต๊ะกลางบนผืนพรมที่รวมเอาสีสันและสไตล์ของพื้น ผนัง หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ มาไว้ด้วยกัน หรือการใช้ โต๊ะกลางขนาดเล็ก อีกตัวที่มีดีไซน์กลมกลืนกับห้องมาวางซ้อนกัน เพื่อช่วยเกลี่ยให้รอยต่อระหว่างโต๊ะกลางกับสิ่งของรอบข้างดูเนียนตายิ่งขึ้น

หาตัวเชื่อมให้กับสไตล์ที่แตกต่าง

  1. จัดผังใหม่ให้สมดุล
  2. บางครั้ง การปรับเปลี่ยนเวียนย้ายตำแหน่งเฟอร์นิเจอร์ หรือจัดผังห้องใหม่ อาจช่วยให้ โต๊ะกลางรับแขก ที่แต่เดิมดูไม่เข้าพวก ดูกลืมกลืนเป็นส่วนหนึ่งของห้องมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะหากโต๊ะกลางมีขนาดค่อนข้างใหญ่หรือมีรูปทรงที่ยากต่อการจัดวาง แต่ทั้งนี้ ยังต้องตรวจเช็คให้ดีว่าการจัดผังห้องใหม่ของเราจะไม่เป็นอุปสรรคต่อการสัญจรและการเข้าถึงข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ภายในห้องด้วย

  3. Mix & Match อย่างตั้งใจ
  4. หนึ่งในเทคนิคสุดชาญฉลาด คือเราสามารถใช้วิธีปรับเปลี่ยนการตกแต่งห้องให้มีสไตล์แบบผสมผสาน ด้วยการตั้งใจเลือกเครื่องเรือนและไอเทมประดับตกแต่งอื่นๆ ที่มีความต่างลุคต่างสไตล์ ดูคล้ายจะไม่เข้ากัน มาวางไว้ในพื้นที่เดียวกันกับโต๊ะกลาง ทั้งนี้ก็เพื่อ mix and match สไตล์ที่หลากหลายและสร้างกลิ่นอายแบบ eclectic ให้กับพื้นที่นั่งเล่นอย่างตั้งใจนั่นเอง

หาตัวเชื่อมให้กับสไตล์ที่แตกต่าง

  1. สร้างจุดโฟกัสสายตา
  2. หากโต๊ะกลางของเรามีดีไซน์ที่แปลกตาและแตกต่างไปจากสิ่งของอื่นๆ ภายในห้อง เราก็อาจใช้จุดเด่นข้อนี้ให้เป็นประโยชน์ ด้วยการทำให้โต๊ะกลางกลายเป็นจุดโฟกัสสายตา โดยอาจใช้การตกแต่งที่ชวนให้สะดุดตา วางสิ่งของที่มีความสูง หรือสร้างเอกลักษณ์ให้กับโต๊ะ ทั้งนี้ก็เพื่อทำให้ตำแหน่งของโต๊ะกลางกลายเป็นจุดสนใจท่ามกลางสิ่งของเครื่องใช้ทั้งหมด แทนที่จะไปแข่งขันกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ

  3. เพิ่มแสงสว่าง
  4. เราสามารถใช้แสงสว่างไสวจากโคมไฟตั้งพื้นหรือโคมประดับติดผนังเพื่อช่วยดึงดูดสายตา และสร้างบรรยากาศที่เป็นหนึ่งเดียวกันให้กับห้อง วิธีนี้จะทำให้โต๊ะกลางดูเสมือนเป็นส่วนหนึ่งของพื้นที่ไปโดยปริยาย และไม่กลายเป็นส่วนที่แปลกแยกไปจากส่วนประกอบอื่นๆ

หาตัวเชื่อมให้กับสไตล์ที่แตกต่าง

  1. เติมองค์ประกอบจากธรรมชาติ
  2. อีกหนึ่งเทคนิคง่ายๆ ในการแก้ไขปัญหาข้อนี้ ก็คือการเติมองค์ประกอบที่เป็นธรรมชาติ อย่างกระถางต้นไม้หรือแจกันดอกไม้เข้ามาในพื้นที่ของโต๊ะกลาง ซึ่งพืชพรรณที่มีสีสันเหล่านี้จะช่วยเพิ่มชีวิตชีวาให้กับห้อง ทำให้พื้นที่นั่งเล่นดูมีไดนามิก และช่วยเชื่อมโยงโต๊ะกลางให้เข้ากับห้องได้อย่างแนบเนียนยิ่งขึ้น

หาตัวเชื่อมให้กับสไตล์ที่แตกต่าง

ทั้ง 9 วิธีนี้เป็นเทคนิคพื้นฐาน ที่จะช่วยแก้ไขความไม่แมทช์กันของ โต๊ะกลางรับแขก กับรูปแบบการตกแต่งห้อง ซึ่งวิธีเหล่านี้มีตั้งแต่การเปลี่ยนสี โต๊ะกลางโซฟาไม้ ให้เข้ากับสไตล์การแต่งห้อง หรือการใช้ โต๊ะกลางขนาดเล็ก เสริมเข้ามาเพื่อเชื่อมรอยต่อระหว่างโต๊ะกลางตัวหลักกับพื้นที่โดยรอบ ด้วยเทคนิคที่ว่ามานี้ ก็จะช่วยให้โต๊ะกลางตัวดีตัวเดิมสามารถเติมเต็มพื้นที่ได้อย่างกลมกลืน และไม่เป็นการรบกวนสมดุลทางสุนทรียภาพโดยรวมภายในห้องนั่นเอง

Cart

Close

Your cart is currently empty.

Start Shopping

Select options

Close