Skip to content

Welcome to Lounge Lovers Store

Lounge Lovers
Previous article
Now Reading:
สิ่งที่ “ควรทำ” และ “ไม่ควรทำ” ในการเลือกซื้อ เก้าอี้สุขภาพ
Next article

สิ่งที่ “ควรทำ” และ “ไม่ควรทำ” ในการเลือกซื้อ เก้าอี้สุขภาพ

สิ่งที่ “ควรทำ” และ “ไม่ควรทำ” ในการเลือกซื้อ เก้าอี้สุขภาพ

หนึ่งในตัวช่วยสำหรับคนทำงานออฟฟิศ คนที่ต้องนั่งหน้าจอเป็นประจำ หรือคนที่มักมีอาการปวดหลังบ่อยๆ ก็คือ เก้าอี้สุขภาพ หรือเก้าอี้เออร์โกโนมิค (Ergonomic Chair) ที่มีฟีเจอร์พิเศษที่รับกับสรีระในท่าทางการนั่ง ซึ่งช่วยป้องกันอาการเมื่อยล้า ตึงเกร็ง และปวดหลังจากการนั่งท่าเดิมนานๆ ได้ อย่างไรก็ตาม เก้าอี้เออร์โกโนมิคนั้นมีหลายรุ่นและหลากดีไซน์ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะเลือกตัวที่เหมาะสมกับการใช้งานจริงและคุ้มค่ากับการลงทุน วันนี้เราเลยจะมาแนะนำสิ่งที่ควรทำ (DOs) และไม่ควรทำ (DON’Ts) ในการเลือกซื้อ เก้าอี้สุขภาพ ซึ่งจะมีอะไรบ้าง ไปดูกันเลย

สิ่งที่ควรทำในการเลือกซื้อ เก้าอี้สุขภาพ (DOs)

1. ทดลองนั่งก่อนตัดสินใจ

ไม่ใช่เก้าอี้ทุกตัวจะเหมาะกับสรีระของทุกคน อีกทั้งเก้าอี้แต่ละรุ่นยังอาจมีคุณสมบัติที่เหมาะกับกิจกรรมที่แตกต่างกันไป หากเป็นไปได้เราจึงควรไปทดลองนั่งเก้าอี้รุ่นที่เราสนใจดูก่อน ว่านั่งได้สบายรับกับสรีระและเหมาะกับการใช้งานจริงหรือไม่

อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าหลายคนในยุคนี้อาจเลือกซื้อสินค้าในช่องทางออนไลน์เป็นหลัก ในกรณีไม่ได้ไปซื้อที่หน้าร้านและไม่มีโอกาสทดลองนั่งโดยตรง ก็อาจใช้วิธีคัดกรองจากแหล่งรีวิวที่น่าเชื่อถือ ซึ่งก็จะช่วยลดความผิดพลาดในการเลือกซื้อได้ในระดับหนึ่ง

สิ่งที่ควรทำในการเลือกซื้อ เก้าอี้สุขภาพ (DOs)

 

2. เลือกเก้าอี้ที่ปรับระดับได้

เก้าอี้สุขภาพ ที่เหมาะกับการใช้งาน ควรมีฟีเจอร์การปรับระดับความสูง เพื่อให้สอดคล้องกับสรีระของแต่ละคน กิจกรรมที่ทำ และสภาพแวดล้อมขณะใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น การปรับระดับเก้าอี้ให้พอดีกับความสูงของโต๊ะหรือระดับหน้าจอคอมพิวเตอร์ จะช่วยให้นั่งทำงานได้อย่างผ่อนคลายและป้องกันอาการปวดเกร็งกล้ามเนื้อได้ 

3. ตรวจสอบการรองรับสรีระ

เก้าอี้ที่รับกับสรีระและเหมาะกับอิริยาบถในการทํางาน ควรมีทั้งพนักพิงหลัง ที่วางแขน และส่วนที่รองรับพื้นที่เอวและหลังส่วนล่าง (lumbar support) ซึ่งอุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยลดความตึงเครียดของร่างกายขณะนั่งนานๆ และป้องกันอาการปวดเมื่อยที่เกิดจากความเกร็งของกล้ามเนื้อในระยะยาวได้

4. พิจารณาวัสดุที่ใช้

วัสดุสำหรับทำเก้าอี้เออร์โกโนมิคควรเป็นชนิดที่มีความทนทาน ระบายอากาศได้ดี และดูแลทำความสะอาดง่าย ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งานระยะยาว ยกตัวอย่างวัสดุที่นิยมใช้ก็อย่างเช่น หนังแท้ หนังเทียม และผ้าตาข่าย เป็นต้น

สิ่งที่ควรทำในการเลือกซื้อ เก้าอี้สุขภาพ (DOs)

5. คำนึงถึงการออกแบบ

นอกเหนือจากโครงสร้างของเก้าอี้ที่สามารถรองรับสรีระได้ดีแล้ว เก้าอี้สุขภาพ ยังควรมีดีไซน์ที่สวยงามและเข้ากันได้ดีกับการตกแต่งบ้านหรือออฟฟิศ ยกตัวอย่างเช่น หากเป็นห้องสไตล์โมเดิร์นที่เน้นภาพลักษณ์ทันสมัยและดูเป็นมืออาชีพ ก็อาจเลือกเก้าอี้ทำงานที่มีดีไซน์เรียบง่าย ในโทนสีขาว สีดำ หรือสีพื้น ที่ให้ภาพลักษณ์เรียบหรูแบบโมเดิร์นมินิมอล

6. ตรวจสอบความทนทาน

เก้าอี้สุขภาพ นั้นควรมีโครงสร้างที่แข็งแรง ทนทาน ทำจากวัสดุที่มีคุณภาพสูง เช่น โลหะที่ผ่านการเคลือบกันสนิม หรือพลาสติกเกรดสูงที่มีความแน่นหนา รวมถึงชิ้นส่วนของข้อต่อต่างๆ ก็ควรมีความมั่นคงและใช้งานได้อย่างไม่สะดุด ทั้งนี้ก็เพื่อให้ทนทานต่อการใช้งานในระยะยาว โดยเราสามารถทราบชนิดของวัสดุที่ใช้ไปจนถึงความสามารถในการรับน้ำหนักของเก้าอี้ได้ด้วยการสอบถามข้อมูลจากทางผู้ผลิต/ผู้จัดจำหน่าย หรืออ่านจากรีวิวที่น่าเชื่อถือ

7. หาข้อมูลเกี่ยวกับการรับประกัน

ก่อนเลือกซื้อเก้าอี้เออร์โกโนมิคควรตรวจสอบเงื่อนไขการรับประกันสินค้าอย่างรอบคอบ เช่น การส่งซ่อม ส่งเคลม อุปกรณ์เสริม และบริการหลังการขาย รวมถึงระยะเวลาในการรับประกัน เพื่อให้มั่นใจว่าเราจะได้ใช้สินค้าที่มีคุณภาพ คุ้มค่ากับการลงทุน และไม่เกิดปัญหาภายหลังการใช้งาน

สิ่งที่ไม่ควรทำในการเลือกซื้อ เก้าอี้สุขภาพ (DON’Ts)

1. ซื้อเก้าอี้โดยไม่ทดลองนั่ง

การซื้อสินค้าทางออนไลน์โดยไม่ได้ทดลองนั่งก่อนอาจทำให้เราได้ เก้าอี้สุขภาพ ที่ไม่ตรงกับสรีระหรือรูปแบบการใช้งานของตัวเอง อย่างไรก็ตาม หากจำเป็นต้องซื้อสินค้าโดยไม่ได้ไปทดลองด้วยตัวเอง การศึกษาข้อมูลและดูรีวิวอย่างรอบด้านก็จะช่วยป้องกันข้อผิดพลาดในการเลือกซื้อได้เช่นกัน

2. มองข้ามความสำคัญของการปรับระดับ

ฟีเจอร์การปรับระดับสำหรับเก้าอี้เออร์โกโนมิคนั้นมีความสำคัญมากกว่าที่ใครหลายคนคิด เพราะการนั่งทำงานในระดับความสูงที่ไม่เหมาะสม หรือไม่สัมพันธ์กับระดับสายตา อาจทำให้เกิดอาการปวดเมื่อยเรื้อรังและนำไปสู่กลุ่มอาการออฟฟิศซินโดรมได้

3. มองหาสินค้าที่ราคาต่ำเกินไป

สินค้าที่ราคาถูกและดีย่อมเป็นตัวเลือกที่ใครหลายคนมองหา แต่การเลือกซื้อเก้าอี้ที่ราคาถูกมากๆ โดยไม่สนใจพิจารณาคุณภาพก็อาจทำให้เราเสียเงินไปโดยไม่คุ้มค่า และยังเสียสุขภาพในภายหลังด้วย ดังนั้น การลงทุนซื้อเก้าอี้จึงควรดูให้ดีว่าราคากับคุณภาพนั้นสอดคล้องสมเหตุสมผลกันหรือไม่

4. มองข้ามเรื่องวัสดุและคุณภาพการผลิต

บางคนอาจสนใจแต่ดีไซน์ที่สวยเก๋หรือฟังก์ชันที่จัดเต็ม จนละเลยเรื่องคุณภาพของวัสดุและการผลิตไป ซึ่งการซื้อเก้าอี้ที่ใช้วัสดุคุณภาพต่ำหรือบอบบางเกินไป จะทำให้เก้าอี้ขาดความทนทาน พังเสียหายได้ง่าย ไม่เหมาะกับการใช้งานในระยะยาว แถมยังอาจส่งผลเสียต่อสุขภาพของเราได้ด้วย

5. ลืมนึกถึงการดูแลทำความสะอาด

แม้ เก้าอี้สุขภาพ หลากหลายรุ่นจะมีดีไซน์ที่สวยงามและนั่งสบาย แต่หากเราเผลอเลือกชนิดวัสดุที่ดูแลทำความสะอาดยาก เช่น ผ้าประเภทที่อับชื้นง่ายและมักอมฝุ่น ก็อาจทำให้เก้าอี้ดูเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ และอาจไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพของผู้ใช้งานอย่างเราๆ ในภายหลัง

6. ละเลยขนาดและความสูงที่พอเหมาะ

ขนาดและความสูงของเก้าอี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งที่เราไม่ควรมองข้าม เพราะหากไม่พิจารณาให้ดีก่อนเลือกซื้อ เราก็อาจได้เก้าอี้ที่ตัวเล็กเกินไปจนนั่งไม่สบาย หรือใหญ่เทอะทะเกินไปจนไม่เหมาะกับพื้นที่ หรือบางทีเก้าอี้ก็อาจสูงหรือเตี้ยเกินไปจนคนใช้งานรู้สึกเมื่อยล้าได้เช่นกัน ซึ่งทั้งนี้ทั้งนั้น การเลือกเก้าอี้ที่เหมาะสมก็ควรอิงจากขนาดร่างกายและความสูงของเราเป็นหลัก

สิ่งที่ไม่ควรทำในการเลือกซื้อ เก้าอี้สุขภาพ (DON’Ts)

การลงทุนกับไอเทมที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ อย่าง เก้าอี้สุขภาพ หรือเก้าอี้เออร์โกโนมิคนั้น  เราควรมีการศึกษาข้อมูลอย่างรอบด้านโดยพิจารณาสิ่งที่ควรทำ (DOs) และไม่ควรทำ (DON’Ts) ในบทความนี้ประกอบไปด้วย เพื่อให้เราสามารถเลือกซื้อเก้าอี้ที่เหมาะสมกับสรีระ ตรงตามการใช้งาน และคุ้มค่ากับการลงทุนได้อย่างไม่ผิดพลาด

 

 

Cart

Close

Your cart is currently empty.

Start Shopping

Select options

Close