
โต๊ะกลางรับแขก เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญ ที่นอกจากในเรื่องฟังก์ชันการใช้งานแล้ว ยังเป็นตัวกำหนด Mood & Tone ให้กับการตกแต่งพื้นที่นั่งเล่นด้วย ซึ่งโต๊ะกลางนั้นมีด้วยกันหลากหลายดีไซน์และวัสดุ เช่น โต๊ะกลางโซฟาไม้ โต๊ะกลางหินอ่อน โต๊ะกลางโลหะ และ โต๊ะกลางโซฟากระจก โดยแต่ละรูปแบบก็ย่อมมีจุดเด่นและเหมาะกับสไตล์การตกแต่งบ้านที่แตกต่างกันไป สำหรับใครที่กำลังมองหาวิธีการเลือกและตกแต่งโต๊ะกลางให้แมทช์กับการตกแต่งบ้านสไตล์ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นโมเดิร์น วินเทจ หรือร่วมสมัย ในบทความนี้เราก็มีทริคดีๆ มาฝากกัน
ทริคเลือกและตกแต่งโต๊ะกลางรับแขกตามสไตล์การแต่งห้อง
ห้องสไตล์โมเดิร์น
การตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นจะเน้นองค์ประกอบที่เรียบง่าย เส้นสายดูสะอาดตา เฟอร์นิเจอร์ที่มีดีไซน์ปราดเปรียวทันสมัย และมีความมินิมอล โต๊ะกลางที่เหมาะกับห้องสไตล์โมเดิร์นจึงควรเป็นโต๊ะทรงเรขาคณิตที่ค่อนข้างโฉบเฉี่ยวเพรียวบาง ไปจนถึงรูปทรง abstracts ที่ดูแปลกแหวกแนวก็ได้เช่นกัน โดยวัสดุที่แนะนำก็ได้แก่ ไม้สีอ่อน รวมไปถึงกระจกและโลหะที่มีพื้นผิวเรียบแวววาว
ในส่วนของการตกแต่งโต๊ะกลาง ก็ควรคงคอนเซ็ปท์มินิมอล หรือ ‘น้อยแต่มาก’ โดยเลือกของตกแต่งที่โดดเด่นเพียงชิ้นเดียว เช่น แจกันขนาดใหญ่ กระถางต้นไม้ งานปั้น หรือชิ้นงานศิลปะที่ดูแปลกตาล้ำสมัย นอกจากนี้ หากต้องการวางสิ่งของหลายอย่างไว้บนโต๊ะ ก็สามารถหาถาดหรือแผ่นรองเก๋ๆ สักชิ้นมาใช้ช่วยในการจัดระเบียบก็ได้

ห้องสไตล์วินเทจ
ห้องสไตล์วินเทจหรือสไตล์ย้อนยุคมักเน้นการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่เป็นของเก่า หรือชิ้นงานที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากของโบราณและรูปแบบที่เป็นที่นิยมในยุคสมัยต่างๆ ตัวอย่างเช่น โต๊ะกลางไม้ที่มีสีซีด มีลวดลายแกะสลัก มีรายละเอียดที่สลับซับซ้อน หรือขาโต๊ะที่มีลักษณะเว้าโค้งและมีฉลุลวดลาย ไปจนถึง โต๊ะกลางรับแขก ที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์
ในการตกแต่งโต๊ะกลางให้มีกลิ่นอายวินเทจ ก็สามารถเลือกไอเทมตกแต่งที่เป็นของวินเทจหรือดูเก่าแก่ ตัวอย่างเช่น นาฬิกาเก่า เครื่องลายคราม ของที่ตกทอดมาจากครอบครัว หรือวางหนังสือปกเก่าเรียงซ้อนกัน เพื่อสร้างบรรยากาศหวนรำลึกถึงอดีต นอกจากนี้ เรายังสามารถเพิ่มดีเทลเล็กๆ ได้ ด้วยการใช้ผ้าปูโต๊ะลายหรือผ้ารองจานลูกไม้ เพื่อเติมความน่ารักอ่อนหวานให้กับพื้นที่

ห้องสไตล์รัสติก
การตกแต่งสไตล์รัสติก จะเน้นภาพลักษณ์ที่ดูดิบๆ ไม่ประดิดประดอยหรือพิถีพิถันมากนัก โต๊ะกลางที่เหมาะกับห้องสไตล์นี้จึงอาจเป็นโต๊ะที่ทำจากไม้เก่าหรือไม้รีไซเคิลที่หลงเหลือร่องรอยจากการใช้งาน รวมถึง โต๊ะกลางโซฟาไม้ ที่มีผิวขรุขระและขอบไม่เรียบ เพื่อเพิ่มสัมผัสที่เป็นธรรมชาติตามแบบบ้านไร่ชนบท ส่วนดีไซน์ของโต๊ะก็ควรเน้นโครงสร้างที่แข็งแรงและหนักแน่น เช่น โต๊ะหินขนาดใหญ่ หรือโต๊ะที่มีโครงและขาโต๊ะทำจากโลหะสีเข้ม เป็นต้น
การตกแต่งโต๊ะกลางในสไตล์รัสติกควรเลือกองค์ประกอบที่มีความเป็นธรรมชาติและดูเป็นงานคราฟท์ เช่น ต้นไม้ในกระถางดินเผาทำมือ งานปั้นแฮนด์เมด กระสอบผ้าป่านหรือผ้าลินินที่ไม่ฟอกสี โถหรือแจกันจากวัสดุเหลือใช้ที่บรรจุดอกไม้ป่า เป็นต้น

ห้องสไตล์ Industrial
การตกแต่งแนว Industrial จะเน้นกลิ่นอายแบบโรงงานอุตสาหกรรม เฟอร์นิเจอร์ที่เลือกใช้จึงอาจมีส่วนประกอบของวัสดุหลายชนิดผสมผสานกัน เช่น โลหะและไม้ วัสดุที่มีพื้นผิวดิบหยาบ ไม่ผ่านการปรุงแต่ง รวมถึงมีการนำวัสดุเก่ากลับมาใช้ใหม่ อย่างเช่น ไม้เก่า โครงโลหะและตัวน็อตเก่า นอกจากนี้ ดีไซน์ของโต๊ะกลางยังอาจเน้นนำเสนอฮาร์ดแวร์ อย่างเช่นโครงเหล็ก ท่อโลหะ และวัสดุที่มีรอยสนิม เป็นต้น
การตกแต่งโต๊ะกลางก็จะเน้นการนำเสนอพื้นผิวของสัจจะวัสดุที่หลากหลาย เพื่อสะท้อนความเป็นอุตสาหกรรมเช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น ถาดโลหะ เชิงเทียนโลหะ อุปกรณ์ในโรงงาน อย่างเกียร์ เฟือง รวมถึงหนังสือเก่าๆ นอกจากนี้ ยังอาจใช้ชิ้นงานศิลปะหรือภาพวาดสไตล์กราฟฟิตี้ที่มีสีสันฉูดฉาดเป็นฉากหลังก็ได้เช่นกัน

ห้องสไตล์โบฮีเมียน
ห้องสไตล์โบฮีเมียนหรือ Boho Chic จะเน้นการตกแต่งที่ดูแหวกขนบ หลุดจากกรอบความธรรมดาสามัญ และสะท้อนถึงจิตวิญญาณที่มีอิสระ เฟอร์นิเจอร์ที่เราเลือกจึงอาจมีการผสมผสานวัสดุหลายชนิด เช่น ไม้ หวาย ผ้า หนัง และโลหะ รวมถึงอาจเลือกรูปทรงที่ดูแปลกตาและไม่สมมาตร ยกตัวอย่างเช่น โต๊ะกลางที่มีรูปทรงแบบ abstract โต๊ะกลางหวายสาน หรือโต๊ะกลางบุหนังแบบ upholstery
การตกแต่งโต๊ะกลางในสไตล์นี้ อาจใช้การวางสิ่งทอต่างๆ ซ้อนทับกัน เช่น ผ้าปูโต๊ะที่มีลวดลาย แผ่นรองจานแบบถักทอ หรือถาดที่มีสีสันสดใส อาจมีการผสานความเขียวขจีด้วยกระถางต้นไม้แบบตั้งโต๊ะหรือแบบแขวน นอกจากนี้ เรายังอาจเลือกไอเทมตกแต่งที่สะท้อนวัฒนธรรมและความเป็นท้องถิ่น เช่น เครื่องปั้นดินเผา เครื่องเซรามิกวาดด้วยมือ หรือสิ่งของเก๋ๆ ที่ได้รับแรงบันดาลใจมาจากมุมต่างๆ ของโลก

ห้องสไตล์ Contemporary
การตกแต่งสไตล์ร่วมสมัยหรือ Contemporary จะเน้นการผสมผสานระหว่างความทันสมัยและความเป็นดั้งเดิม เราจึงสามารถเลือกโต๊ะกลางที่มีวัสดุและดีไซน์คล้ายคลึงกับสไตล์โมเดิร์น เช่น โต๊ะกลางโซฟากระจก ที่มีรูปแบบเรียบง่าย และเน้นประโยชน์การใช้งานเป็นหลัก รวมไปถึงโต๊ะกลางที่มีรูปทรงเป็นเอกลักษณ์
ส่วนการตกแต่งอาจเลือกสะท้อนความเป็น Contemporary ด้วยการใช้ประติมากรรมหรือชิ้นงานศิลปะร่วมสมัยเป็นไอเทมหลัก พร้อมกับผสมผสานสีสันและพื้นผิวที่แตกต่างมาไว้ด้วยกัน เช่น การวางหนังสือ แผ่นรองจานที่มีลวดลาย ที่รองแก้วทรงเรขาคณิต หรือถาดที่ดูทันสมัย เป็นต้น

ห้องสไตล์สแกนดิเนเวียน
หัวใจสำคัญของการตกแต่งสไตล์สแกนดิเนเวียน หรือสไตล์นอร์ดิก คือความเป็นธรรมชาติ เรียบง่าย และใช้ประโยชน์ได้จริง โดยปราศจากรายละเอียดปลีกย่อยที่เกินความจำเป็น โต๊ะกลางรับแขก ที่เราเลือกจึงควรมีดีไซน์ที่เรียบง่าย เส้นสายสะอาดตา และเน้นฟังก์ชันการใช้งาน โดยอาจเลือกสีในโทนอ่อน โทนกลาง หรือสีและลวดลายตามธรรมชาติของไม้ เพื่อขับเน้นความ Minimalist
การตกแต่งโต๊ะกลางก็ควรคงไว้ซึ่งความเรียบง่ายสบายตาเช่นเดียวกัน โดยเลือกวัตถุตกแต่งในโทนสี Neutral อย่างสีขาว เทา และสีพาสเทล โดยไอเทมตกแต่งอาจเป็นของเล็กๆ น้อยๆ ที่ดูไม่ฉูดฉาด เช่น กระถางหรือแจกันแบบมินิมอลที่ใส่ต้นไม้ใบสีเขียว นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการตกแต่งที่ดูเยอะเกินไปหรือดูรกรุงรัง โดยต้องให้ความสำคัญกับแสงสว่างและพื้นที่ว่างด้วย

การรังสรรค์ โต๊ะกลางรับแขก ให้แมทช์กับการแต่งบ้านแต่ละสไตล์นั้นไม่ใช่เรื่องยาก เราเพียงต้องเข้าใจจุดเด่นของสไตล์นั้นๆ แล้วจึงเลือกโต๊ะกลางกับของตกแต่งที่สะท้อนคาแรคเตอร์ดังกล่าวออกมา ตัวอย่างเช่น การเลือก โต๊ะกลางโซฟาไม้ ดีไซน์เรียบง่ายให้กับห้องสไตล์โมเดิร์นและสแกนดิเนเวียน หรือการเลือก โต๊ะกลางโซฟากระจก พื้นผิวแวววาวให้กับห้องสไตล์ร่วมสมัย ซึ่งการเลือกโต๊ะกลางตามเทคนิคเหล่านี้ก็จะช่วยสร้างพื้นที่พักผ่อนที่สอดประสานกลมกลืนและสะท้อนรสนิยมของเจ้าของบ้านได้