วันไหนที่คุณได้ใช้เวลาอยู่บ้านแล้วลองกวาดสายตามองไปยังบ้าน มุมต่าง ๆ ของห้องแล้วรู้สึกถึงความจำเจ แลดูไม่มีชีวิตชีวา ขาดสีสัน ไม่สดชื่น หรือดูไม่เติมเต็ม ทั้ง ๆ ที่มีเฟอร์นิเจอร์ประดับตกแต่งอยู่เต็มห้องแล้วล่ะก็ แสดงว่าคุณอาจจะกำลังต้องการสร้างบรรยากาศใหม่ ๆ ให้กับบ้าน ถ้าอย่างนั้นมาลองเลือก พรมแต่งบ้าน ดี ๆ สวย ๆ สักผืนมาจัดวางดูสักหน่อยไหม เพราะ พรมแต่งบ้าน เป็นหนึ่งในไอเทมที่สามารถยกระดับปรับเปลี่ยนบรรยากาศให้บ้านของคุณดูน่าสนใจขึ้นได้อย่างรวดเร็วแบบไม่ต้องใช้เวลานานหรือไม่ต้องใช้จำนวนชิ้นมากมาย แถมยังมีประโยชน์ในแง่ของฟังก์ชันใช้สอยอีกหลายอย่าง ทั้งใช้แบ่งพื้นที่แบ่งโซนโดยที่ไม่ต้องบิ้วอินผนังมากั้นห้อง ช่วยให้พื้นที่ดูโปร่งโล่งและสามารถมองเห็นภาพรวมและความเคลื่อนไหวต่าง ๆ ในบ้านได้อย่างสบายตา อีกทั้งยังช่วยดูดซับเสียง ช่วยรักษาพื้นผิวของวัสดุปูพื้น และยังช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับบ้านอีกด้วย เรียกว่าเลือกมาใช้งานแล้วไม่ผิดหวัง และสำหรับคนที่สนใจแต่ยังไม่รู้จะเริ่มต้นยังไง วันนี้เรามีเคล็ดลับในการเลือก พรมแต่งบ้าน มาฝากกัน
รวมเช็กลิสต์ที่ต้องรู้สักนิดก่อนเลือก พรมแต่งบ้าน
มาสำรวจตัวเองกันสักหน่อยว่าคุณควรจะเลือก พรมแต่งบ้าน โดยคำนึงถึงอะไรบ้างที่ควรจะนำมาใช้ในการพิจารณาว่าคุณเหมาะกับ พรมแต่งบ้าน แบบไหน หรือควรจะซื้อดีไหม เพื่อให้การตัดสินใจนั้นคุ้มค่าคุ้มราคามากที่สุดนั่นเอง
อาจจเริ่มตั้งต้นง่าย ๆ จากการดูไลฟ์สไตล์ของตัวเองและสมาชิกในบ้านเพื่อกำหนดชนิดของพรมที่เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น หากคุณเป็นคนที่ busy กับงานอยู่ตลอดเวลา และไม่มีเวลาทำความสะอาดบ้านได้บ่อยในทุก ๆ วัน ก็ควรหลีกเลี่ยงพรมชนิดที่ถักทอแบบมี Texture ซับซ้อน เพราะพรมลักษณะขนแบบนี้จะค่อนข้างเก็บฝุ่น สะสมเศษสิ่งสกปรกและทำความสะอาดยาก หรือหากคุณเป็นคนเพื่อนเยอะหรือสมาชิกในบ้านเยอะ มีแขกแวะเวียนมาจัดปาร์ตี้สังสรรค์ หรือกินข้าวร่วมกันที่บ้านบ่อยครั้ง มีโอกาสที่จะอาหารหรือเครื่องจะหกเลอะเทอะพื้นได้ ดังนั้นพรมที่ทำจากขนสัตว์อาจจะไม่เหมาะกับบ้านของคุณนักเพราะต้องดูแลเป็นพิเศษ มีวิธีการทำความสะอาดเฉพาะตัว และจะต้องใช้งานแบบทะนุถนอมพอสมควร ไม่เหมาะกับการถูกใช้งานหนัก ๆ
ต่อมาลองสังเกตสภาพแวดล้อมนอกบ้านและปัจจัยภายนอก เช่น เป็นบ้านที่อยุ่ใกล้กับถนนใหญ่ที่มีรถพลุกพล่าน หรืออยู่ใกล้กับถนนเมนในหมู่บ้าน หรือเป็นมีพื้นดินรอบบริเวณ แสดงว่าจะต้องมีฝุ่นละออง เศษดิน เศษหิน จำนวนมากเข้ามาในบ้านบ้างในแต่ละวัน ดังนั้นหากเลือก พรมแต่งบ้าน มาวางบริเวณนี้ พรมแต่งบ้าน ก็อาจจะกลายเป็นแหล่งสะสมฝุ่นละอองได้หากเลือกไม่ถูกประเภท คุณควรเลือกพรมที่ทำความสะอาดและดูแลรักษาง่ายเพื่อลดค่าใช้จ่ายและเวลาในการดูแลรักษาความสะอาด ยกตัวอย่างเช่น พรมโพลีโพรไพลีน ซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันคราบสกปรกและรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดี หรือพรมไนลอน เป็นพรมที่ผลิตจากเส้นใยสังเคราะห์ มีความแข็งแรงคงทน มีคุณสมบัติกันน้ำ ช่วยป้องกันเชื้อราและสารเคมี อีกทั้งยังดูแลรักษาและทำความสะอาดง่ายอีกด้วย
เทคนิคเลือก พรมแต่งบ้าน ให้ลงตัวกับบ้านของคุณ
มาต่อกันที่เคล็ดลับดี ๆ ในการเลือก พรมแต่งบ้าน ให้ถูกใจและเหมาะสมกับการใช้งานดังต่อไปนี้
1. เลือก พรมแต่งบ้าน ให้เหมาะกับพื้นที่บริเวณที่ต้องการ
การเลือก [b]พรมแต่งบ้าน แน่นอนว่าจะต้องถูกนำมาใช้งานในการตกแต่งห้องต่าง ๆ ดังนั้นการเลือก พรมแต่งบ้าน ก็จะต้องแมทช์กับวัตถุประสงค์การใช้งานของแต่ละห้อง ยกตัวอย่างเช่น หากต้องการ พรมแต่งบ้าน มาใช้งานกับห้องนอน ควรเลือกเช่น พรมขนสัตว์ พรมอะคริลิก หรือพรมโพลีโพรไพลีน ซึ่งเป็นพรมที่มีลักษณะขนค่อนข้างยาว นุ่มฟู พื้นผิวสัมผัสมีความอ่อนนุ่ม ในส่วนของ พรมแต่งบ้าน สำหรับห้องนั่งเล่น ควรเลือกพรมแบบขนสั้น หรือ พรมผิวเรียบไม่ยาวมาก จะทำความสะอาดง่ายกว่า และไม่เก็บสะสมฝุ่นเท่าพรมขนยาว ๆ หรือเลือกพรมขนสังเคราะห์ที่ทอเหนียวแน่นไม่หลุดง่าย ในส่วนของห้องนอนเด็กเล็กจะเหมาะกับพรมโพลีเอทิลีน ซึ่งผลิตมาจากพลาสติกรีไซเคิล จึงไม่ก่อให้เกิดภูมิแพ้ ป้องกันคราบสกปรกได้ดี ราคาไม่แพง หรือเลือกพรมไนลอนให้กับห้องรับประทานอาหาร ซึ่งมีคุณสมบัติป้องกันคราบสกปรกได้ดี กันน้ำกันความชื้น และไม่เกิดรอยขีดข่วนง่าย และยังทำความสะอาดสะดวกอีกด้วย
2. สร้าง Mood & Tone ของห้องให้ตรงใจด้วยการเลือกสีของ พรมแต่งบ้าน
เชื่อไหมว่าสีสันและลวดลายของ พรมแต่งบ้าน ที่มีความแตกต่างกันไป สามารถส่งผลต่อการสร้าง Mood & Tone ให้กับห้องได้ ยกตัวอย่างเช่น พรมโทนสีอ่อน หรือสีพาสเทล เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดเล็กและแคบ เพราะจะช่วยหลอกสายตาว่าห้องดูกว้างขึ้น ใครที่อยู่คอนโดหรือมีห้องเล็ก ๆ ที่อยากจะตกแต่งให้ดูโปร่งก็แนะนำเลือกพรมสีโทนสว่าง ก็จะช่วยให้ห้องดูกว้างขวาง โล่งและสบายตามากขึ้น ส่วนพรมปูพื้นโทนสีเข้มก็จะทำให้บรรยากาศออกมาดูหรูหรา ดูสุขุม ออกแนวสไตล์โมเดิร์น หรือออกแนวลักชูรี เช่น สีคราม สีน้ำเงินเข้ม สีดำ หรือสีแดงเข้ม เป็นต้น
3. ขนาดของ พรมแต่งบ้าน ต้องเหมาะสมกับพื้นที่ใช้งาน
การคำนวณขนาดของ พรมแต่งบ้าน ก็มีความสำคัญไม่น้อยเช่นกัน เพราะถ้าเลือกซื้อมาผิดขนาดก็จะส่งผลต่อความพอเหมาะในการจัดวางตกแต่งที่ไม่ลงตัว มองแล้วทำให้ห้องดูไม่สวย เช่น มีพื้นที่ระหว่างทีวีและโซฟาค่อนข้างกว้าง แต่เลือกพรมขนาดเล็กมาวางก็ดูไม่เติมเต็ม อาจจะต้องเสียเวลาเสียเงินซื้อผืนใหม่มาเปลี่ยน ดังนั้นก่อนซื้อควรวัดขนาดพื้นที่ หรือวัดขนาดเฟอร์นิเจอร์ในบริเวณที่จะต้องจัดวางพรมให้เรียบร้อยก่อนเสมอ
เมื่อบ้านของคุณถูกตกแต่งด้วย พรมแต่งบ้าน ก็จะช่วยเพิ่มเสน่ห์ให้บ้านของคุณดูสวยมีสไตล์และยังให้สัมผัสนุ่มสบายเท้าเวลาเดินผ่านบน พรมปูพื้นผืนใหญ่ แต่ท้ายสุดแล้ว ไม่ว่าคุณจะเลือกพรมแบบไหน จะเป็น พรมปูพื้นห้องนั่งเล่น พรมสำหรับห้องทำงาน พรมสำหรับห้องรับแขก หรือพรมสำหรับห้องนอนก็ตาม เรื่องการดูแลรักษาความสะอาดคือกุญแจสำคัญที่จะทำให้พรมของคุณยังคงสวยเหมือนใหม่ไปอีกนาน ซึ่งปัจจุบันมีพรมที่ทำมาจากหลากวัสดุให้คุณเลือกไปตกแต่งห้องต่าง ๆ ของบ้านมากมาย ซึ่งพรมแต่ละชนิดนั้นก็มีวิธีทำความสะอาดที่แตกต่างกันไป ก่อนจะเลือกพรมสักผืนแนะนำให้ศึกษาข้อมูลก่อนว่า ไลฟ์สไตล์หรือวิถีชีวิตของคุณเหมาะกับพรมวัสดุแบบไหน แล้วพรมนั้นมีวิธีการทำความสะอาดหรือวิธีการดูแลเบื้องต้นอย่างไร โดยเคล็ดลับง่าย ๆ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเองในเบื้องต้นคือ พยายามระวัดระวังไม่ให้พรมถูกความเปียกชื้น ระวังไม่ให้เศษอาหารหรือเครื่องดื่มหกเลอะเทอะใส่ลงบนพื้นพรมเพื่อป้องกันกลิ่นอับไม่พึงประสงค์ที่อาจตามมาได้ นอกจากนี้ควรทำความะสอาดด้วยการดูดฝุ่นและเศษสิ่งสกปรกออกจากพรมเป็นประจำทุกวัน