เทคนิคการจัดแสงสว่าง ด้วยโคมไฟติดผนังภายในบ้าน

โคมไฟติดผนังภายในบ้านไม่เพียงแต่จะมีประโยชน์ในด้านการใช้งานเพื่อแสงสว่างสำหรับชีวิตประจำวันเท่านั้น แต่ยังเป็นการตกแต่งบ้านเพื่อความสวยงามในตัวด้วย ซึ่งการเลือกใช้โคมไฟติดหนังก็มีดีไซน์ รูปแบบ ลูกเล่นต่างๆ และเทคนิคในการนำไปใช้ให้เหมาะกับผนังห้องแต่ละพื้นที่เพื่อเป็นการสร้างบรรยากาศที่แตกต่าง อย่างเช่นไอเดียที่นำมาฝากกันดังต่อไปนี้

โคมไฟติดผนังที่ใช้เทคนิคติดตั้งแบบ Cove Lighting 

Cove Lighting คือเทคนิคการติดตั้งโคมไฟเพดานรูปแบบหนึ่งโดยตำแหน่งของโคมไฟเพดานจะอยู่บริเวณด้านบนของผนังที่ใกล้กับเพดาน เมื่อเปิดไฟ แสงสว่างจากโคมไฟจะส่องขึ้นในทิศทางด้านบนที่กระทบกับเพดานพอดีและให้แสงสว่างโดยรวมทั่วห้องอย่างนุ่มนวล จึงเป็นเทคนิคที่เหมาะสำหรับห้องเพดานต่ำหรือบ้านชั้นเดียว เนื่องจากวิธีนี้สามารถทำให้ห้องดูสูงโปร่งขึ้นได้ ในส่วนของดีไซน์โคมไฟ ถ้าต้องการความสวยงามหลากหลายก็อาจจะเลือกรูปแบบเป็นเส้นสายผสมผสานกับดวงไฟวงกลมบนเพดานกลางห้องนั่งเล่น หรือถ้าเป็นห้องนอนก็เลือกตำแหน่งติดตั้ง Cove Lighting ที่ผนังด้านใดด้านหนึ่งหรือผนังด้านบนหัวเตียงเพื่อความมีมิติ เป็นต้น

โคมไฟติดผนังที่ใช้เทคนิคติดตั้งแบบ Valance Lighting

Valance Lighting คือเทคนิคการติดตั้งโคมไฟติดผนังในลักษณะเป็นแนวราบยาว เหมาะสำหรับห้องที่ต้องการให้การส่องสว่างของแสงท้อนขึ้นไปบนเพดานซึ่งทำให้เกิดความสว่างที่รู้สึกสบายตา มักจะติดตั้งที่ตำแหน่งเหนือหน้าต่างและตัวโคมให้หลอดไฟ LED มีโครงหรือกรอบบังแนวแสงฉากให้เข้ากับบรรยากาศพื้นที่ห้องมากขึ้น นอกจากจะใช้ตกแต่งห้องทั่วๆ ไปแล้ว ก็นิยมใช้ตกแต่งในห้องครัวโดยตำแหน่งในการติดตั้งจะอยู่บริเวณด้านล่างของคาร์บิเนทหรือลิ้นชักที่อยู่ติดผนังด้านบน เพื่อส่องแสงเฉพาะจุดเวลาใช้งานในครัวรวม เช่น ล้างจาน ทำอาหาร ในห้องแต่งตัวแบบ Walk-in Closet ซึ่งจะติดตั้งตรงกึ่งกลางผนังตู้เสื้อผ้าให้ใช้งานได้อย่างสะดวก เป็นต้น

โคมไฟติดผนังที่ใช้เทคนิคติดตั้งแบบ Canopy Lighting 

Canopy Lighting มีลักษณะคล้ายเป็นกล่องโคมไฟแบบปิดและติดตั้งให้ยื่นออกจากผนัง หรือชิ้นงานสถาปัตยกรรมในบ้าน ส่วนใหญ่มักจะติดตั้งตามห้องน้ำ บริเวณพื้นที่แต่งตัว แต่งหน้า เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า เช่น ติดตั้งตำแหน่งด้านข้างกระจก และที่นิยมกันมากๆ คือ การนำไปตกแต่งพื้นที่ในโซนกึ่งเอาดอร์ที่เชื่อมกับตัวบ้านด้วยการติดตั้งที่ผนังด้านใดด้านหนึ่งหรือทุกๆ ด้านเพื่อกระจายแสง โดยอาจเพิ่มลูกเล่นให้สวยงามมากขึ้นด้วยการนำหลอดไฟกลมสีสันต่างๆ มาตกแต่งร่วมด้วย เหมาะกับช่วงเวลาที่มีการสังสรรค์เล็กๆ ในครอบครัว ถือเป็นการเปลี่ยนบรรยากาศการพักผ่อนด้วย

โคมไฟติดผนังที่ใช้เทคนิคติดตั้งแบบ Bracket Lighting 

Bracket Lighting จะมีลักษณะคล้ายกับ Valance Lighting ต่างกันตรงที่ Bracket Lighting เน้นการใช้สอยแบบ Task Lighting นั่นคือ เน้นการใช้แสงสว่างได้แบบอเนกประสงค์ เหมาะกับทุกๆ พื้นที่และมีทิศทางการส่องสว่างทั้งแบบแนวตั้ง (Up) และแบบแนวดิ่ง (Down) ส่วนใหญ่จะติดตั้งเป็นโคมยื่นออกจากผนัง เมื่อติดตั้งแล้วจะส่องกระทบกับผนังด้านบนและด้านล่าง นิยมใช้ในห้องนอนเพื่อเป็นไฟอ่านหนังสือ หรือบริเวณโถงทางเดิน โถงบันได เพื่อให้แสงสว่างตอนกลางคืนและทำให้การใช้พื้นที่เหล่านี้มีความปลอดภัยมากขึ้น โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุ

โคมไฟติดผนังที่ใช้เทคนิคติดตั้งแบบ Wall Sconces Lighting

Wall Sconces Lighting ในภาพรวมจะเป็นไอเดียการตกแต่งโคมไฟติดผนังให้มีความโดดเด่น สวยงาม มีให้เลือกหลากหลายดีไซน์ โดยเฉพาะแบบวินเทจกับรูปทรงคลาสสิกที่ให้ความรู้สึกถึงยุคสมัยในอดีตที่นิยมประดับผนังด้วยเชิงเทียน สำหรับเทคนิคการติดตั้งโคมไฟชนิดนี้ จะใช้วิธียึดกับพื้นผิวกับผนังและสามารถกำหนดได้ว่าจะให้แสงสว่างมีทิศทางแบบส่องขึ้นหรือส่องลง โดยมากจะติดตั้งให้อยู่ที่ความสูงระดับเหนือศีรษะ มีหลายรูปแบบที่เหมาะกับการใช้งานในแต่ละพื้นที่ เช่น โคมไฟ Wall Sconces แบบเสียบปลั๊กที่เคลื่อนย้ายได้สะดวก แบบที่ชาร์จพลังานด้วยแบตเตอรี่ที่ไม่มีสายไฟ ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ 

โคมไฟติดผนังที่ใช้เทคนิคติดตั้งแบบ Cornice Lighting

Cornice Lighting เทคนิคการติดตั้งโคมไฟติดผนังลักษณะนี้ จะให้ความรู้สึกแบบร่วมสมัยนั่นคือ เป็นการยึดติดกับผนังแบบถาวร ซึ่งถือเป็นวิธีแบบโบราณ ไม่เหมาะกับพื้นที่ที่ต้องการเคลื่อนย้ายจุดที่ให้แสงไฟบ่อยๆ แต่ในขณะเดียวกันก็มีการออกแบบรูปลักษณ์ให้ดูทันสมัย เข้ากับบ้านโมเดิร์นยุคใหม่ได้อย่างลงตัว ดังนั้นจึงนิยมนำไปติดตั้งกับผนังด้านที่ติดกับพื้น เพื่อให้แสงสว่างยามค่ำคืนโดยแสงไฟจะส่องขึ้นทิศทางข้างบน เช่น ผนังห้องโถงทางเดินเข้าบ้าน หรือจะนำไปใช้เป็นโคมไฟสำหรับผนังนอกบ้านและบริเวณทางเดินรอบๆ บ้านด้านนอกก็เหมาะเช่นกัน 

โคมไฟติดผนังที่ใช้เทคนิคติดตั้งแบบ Luminous Wall Panels

สำหรับการติดตั้งโคมไฟติดผนังแบบ Luminous Wall Panels จะมีจุดเด่นคือเป็นกล่องแบบปิดที่ฝังลงในผนังและทำหน้าที่เป็นผนังในตัวด้วย อาจจะเรียกว่าเป็นเทคนิคการซ่อนไฟก็ได้ เพื่อเป็นการประหยัดพื้นที่และเน้นประโยชน์ใช้สอยจากแสงสว่าง อีกทั้งยังทำให้บรรยากาศของห้องดูกว้างขึ้น เหมาะกับห้องขนาดเล็กที่มีพื้นที่จำกัด หรือห้องในคอนโดมิเนียมก็เหมาะกับการใช้โคมไฟติดผนังสไตล์นี้ ซึ่งการกำหนดทิศทางของแสงและดีไซน์ที่เข้ากันได้ดีกับเฟอร์นิเจอร์ก็มีส่วนสำคัญเช่นกัน