สถานการณ์ในปัจจุบันทำให้วิถีชีวิตของผู้คนเปลี่ยนไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ต้องยอมรับเลยว่า Covid-19 จำกัดพื้นที่การใช้ชีวิตของผู้คน ต้องเว้นระยะห่าง เกิดการทำงานรูปแบบใหม่ คือ work from home และการเรียนออนไลน์ ทั้งหมดล้วนแล้วแต่นับเป็น new normal ที่ยังต้องอยู่กับพวกเราทุกคนไปอีกนาน
บ้านจากที่เคยเป็นสถานที่พักผ่อนเป็นหลัก ตอนนี้ได้กลายเป็นออฟฟิศหรือห้องเรียนจำเป็น และ สมาชิกในครอบครัวต้องใช้เวลาอยู่ในบ้านด้วยกันมากขึ้น ควรต้องมีการจัดสรร ปันส่วน พื้นที่บริเวณของแต่ละจุด เพื่อให้เกิดความสวยงาม น่าอยู่ และเปลี่ยนพื้นที่ใช้สอยเดิมให้เหมาะแก่กิจกรรมของสมาชิกในบ้าน เป็นสิ่งที่สำคัญ เพื่อให้ตอบโจทย์วิถีชีวิต new normal และเพิ่มความสบายตา สบายใจ ลดความตึงเครียดจากสถานการณ์วิกฤตลงได้
- สิ่งแรกที่ต้องทำคือ การวางแผนการตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็นทั้งในส่วนของการหาแบบห้องที่ชอบ แบบเฟอร์นิเจอร์ที่ชอบ โทนสีที่อยากได้ และวิธีการตกแต่งที่เหมาะกับสภาพของห้อง หรือ แม้แต้จำนวนงบประมาณที่สามารถใช้จ่ายในการลงทุนกับการตกแต่งนี้ โดยอาจจะหาแบบที่ชอบก่อน เพื่อประเมินความเป็นไปได้ และ จะได้เลือกลงทุนกับเฟอร์นิเจอร์หรือของตกแต่งอย่างเป็นลำดับ เพื่อให้การคุมงบประมาณเป็นไปตามที่ตั้งไว้ จากควรลงทุนมาก ไปหาลงทุนน้อย โดยแบ่งประเภทสิ่งของต่างๆที่ต้องการเป็นหมวดหมู่ เช่น ของใช้จำเป็น เฟอร์นิเจอร์อำนวยความสะดวก และของตกแต่ง เป็นต้น
- เลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ที่คุ้มค่า : ในการ work from home หรือ เรียนออนไลน์นั้น โต๊ะและเก้าอี้มีส่งผลอย่างมาก เนื่องจากเราต้องใช้เวลาอยู่กับการทำงาน-เรียนเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน
- การเลือกโต๊ะ ควรเลือกโต๊ะที่ใช้งานได้สะดวก ขนาดเหมาะสมกับการใช้งานและสัมพันธ์กับขนาดห้อง ไม่ใหญ่ หรือเล็กเกินไป แต่ที่สำคัญคือ เป็นโต๊ะที่เหมาะสมกับการใช้งานของผู้ใช้จริง โดยส่วนมาก วัสดุที่นิยมเลือกซื้อโต๊ะมักเป็นโต๊ะจากวัสดุไม้ หรือ โลหะ ซึ่งอายุการใช้งานยาวนาน และ ดูแลรักษาง่าย เป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เคล็ดลับเล็กๆที่ทำให้การทำงาน-เรียนที่บ้านดูสบายขึ้น คือ การเลือกโต๊ะที่ฐานโปร่ง นอกจากจะทำให้ห้องดูโล่ง โปร่งแล้ว ยังสามารถยืดขาได้ ช่วยให้ผ่อนคลาย นั่งสบายมากขึ้น และเคลื่อนย้ายได้สะดวก
- เก้าอี้ที่ดี คือเก้าอี้ที่รับกับสรีระร่างกายได้ดี ควรมีเบาะที่รองรับร่างกายได้พอดี ตั้งแต่คอลงมาถึงบันท้าย ความสูงของเก้าอี้และโต๊ะต้องสัมพันธ์กับสรีระร่างกายของผู้ใช้ เก้าอี้ที่แนะนำจึงควรเป็นเก้าอี้ที่สามารถปรับระดับได้
- ให้ธรรมชาติช่วย : หลายๆท่านอาจจะลงทุนกับการตกแต่งจนเกินงบประมาณที่ตั้งเอาไว้ ทั้งนี้มีเคล็ดลับง่ายๆ ที่สามารถใช้ธรรมชาติมาประยุกต์ในการเสริมบรรยากาศของห้องทำงาน หรือ บรรยากาศในบ้าน โดยไม่ต้องเสียเงินเกินจำเป็น
- การเปิดหน้าต่าง รับแสงและลม ธรรมชาติเข้ามาในบ้าน ดูเป็นสิ่งเล็กน้อย แต่เปลี่ยนอารมณ์ของห้องๆนั้นได้อย่างมาก นอกเหนือจากสร้างบรรยากาศที่ดีขึ้นแล้ว การถ่ายเทอากาศที่ดี ทำให้ผู้อยู่อาศัยผ่อนคลาย ปลอดโปร่ง และลดความเครียดลงได้
- การเสริมบรรยากาศด้วยกลิ่นหอม ไม่ว่าจะเป็นการจุดเทียนหอม ห้อยเครื่องหอม หรือการวางก้านไม้หอมในบริเวณห้อง หรือตามจุดต่างๆ ก็ช่วยเสริมความน่าอยู่และผ่อนคลายในบ้านได้ง่ายๆ
- วางกระถางต้นไม้ เพิ่มสีเขียวให้บ้าน ช่วยทำให้บ้านดูสบายมากขึ้นอย่างน่าแปลกใจ ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้จริง หรือ ต้นไม้ปลอม ซึ่งเป็นกระแสนิยมจากทั้งดารา นักแสดง บุคคลมีชื่อเสียงมากมายล้วนผันตัวเองมาเป็นนักปลูกต้นไม้ ในสถานการณ์ตอนนี้ ทำให้เกิดกระแสการปลูกต้นไม้ หรือ ตกแต่งห้อง ด้วยต้นไม้เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และราคาของต้นไม้สวยงามบางชนิดนั้น พุ่งขึ้นสูงเลยทีเดียว
โดยทางจิตวิทยาแล้ว สีเขียวในห้องทำงาน หรือ ในบ้าน เป็นจุดพักสายตาที่ดีของผู้อาศัย ทำให้บริเวณนั้นดูมีชีวิตชีวาและหากเป็นต้นไม้จริงก็ช่วยในการผลิตออกซิเจนมากขึ้นอีกด้วย
- และคำแนะนำสุดท้ายคือ ธรรมชาติแห่งความสะอาดและเป็นระเบียบเรียบร้อย เมื่อบ้านสะอาดและข้าวของถูกจัดวางอย่างเป็นระเบียบ สุขอนามัยคือสิ่งสำคัญที่สุด ผู้อยู่อาศัยสามารถสัมผัสได้ถึงอารมณ์ความแตกต่างได้ทันที การอยู่สภาพแวดล้อมที่เป็นระเบียบ ช่วยให้เหนื่อยล้าน้อยลงในการทำงาน-เรียนหลายชั่วโมงต่อวัน
- เพิ่มโทนสีสบายตาในบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งบ้านด้วยเฟอร์นิเจอร์ คุมโทนเดียวกัน หรือ แขวนภาพวาดที่มีโทนภาพเข้ากับเฟอร์นิเจอร์ หรือ แม้แต่การทาสีผนัง ก็สามารถเพิ่มความสบายตาให้แก่ผู้อยู่อาศัยได้ การตกแต่งห้องด้วยเฟอร์นิเจอร์ในโทนสีเดียวกัน ที่ดูกลมกลืน มักให้ความรู้สึกสบายตา โทนสีพื้นฐานที่นิยม ได้แก่ โทนสีฟ้า หรือ สีเขียว เป็นต้น
หากเป็นนักแต่งบ้านมือใหม่ การเลือกโทนสีน้ำตาล และ earth tone หรือ เฟอร์นิเจอร์วัสดุไม้ก็เป็นตัวเลือกที่ง่ายและเพิ่มความสวยงามให้แก่บ้านได้เช่นกัน
ความชอบในการตกแต่งบ้านเป็นรสนิยมส่วนบุคคลที่แต่ละคนชื่นชอบไม่เหมือนกัน ในความสวยงามนั้น สิ่งที่เป็นหัวใจสำคัญแท้จริงที่จะเป็นตัวชี้วัดว่าบ้านหรือห้องนั้นน่าอยู่หรือไม่ คือความสบายกาย สบายใจของผู้อาศัย ในสภาวะที่มีโรคระบาดเช่นนี้ การดูแลสุขภาพร่างกายในแข็งแรง และสภาพจิตใจให้เข้มแข็ง ต่อความเคร่งเครียดในความเปลี่ยนแปลงนั้นของทั้งตนเองและสมาชิกในครอบครัว คือสิ่งที่ผู้อ่านทุกท่านควรใส่ใจเป็นสิ่งแรก และบทความนี้คงเป็นประโยชน์ต่อผู้รักการตกแต่งบ้าน ที่ต้องทำงาน-เรียน from home ไม่มากก็น้อย