หลายคนให้ความสำคัญกับการตกแต่งภายในตัวบ้านให้ได้สไตล์และมีดีไซน์ที่โดดเด่น แต่เรื่องแสงภายในตัวบ้านหรือบริเวณบ้านก็สำคัญเช่นกัน เพื่อให้การเข้ามาพักอาศัยมีความผ่อนคลายสบายตาน่าอยู่
เริ่มจากห้องนอนการตื่นจากการหลับใหลในช่วงเช้าอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ตลอดวันนั้นดีกับสภาพจิตใจ ฉะนั้นเราควรหลับนอนให้เพียงพอ ชนิดและความสว่างของแสงในห้องนอนมีผลไม่น้อยเลยต่อความรู้สึกของผู้พักอาศัย บางคนอาจใช้ห้องนอนมากว่าการนอนในตอนกลางคืน เช่น บางคนใช้ห้องนอนงีบกลางวัน บ้างก็ทำงาน บ้างก็ใช้เป็นห้องอ่านหนังสือหรือทำกิจกรรมต่าง ๆ ก่อนที่เราจะนอนไปด้วย ในตอนกลางวันเมื่อแสงธรรมชาติ ช่วยให้เราเห็นบรรยากาศในห้องได้ชัดเจน เราจึงเห็นสีสันได้อย่างชัดเจน แต่ในเวลากลางคืน ก่อนที่เราจะนอนหลับนั้น แสงจากโคมไฟในห้องก็เป็นอีกอย่างหนึ่งที่มีผลอย่างมากต่อบรรยากาศของห้องนอน ที่เราจัดวางโคมไฟตั้งโต๊ะตามจุดต่าง ๆ ตามการใช้งาน หรือ โคมไฟติดผนังที่ให้แสงสว่างที่เพียงพอและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัวทำให้ห้องนอนของเรามีสไตล์มากยิ่งขึ้น
การเลือกใช้โคมไฟตั้งโต๊ะสำหรับคนที่ชอบหอบงานมาทำที่บ้านหรือในห้องนอน
การเลือกใช้โคมไฟขั้นตอนแรกควรคำนึงถึงแสงสว่างที่เหมาะกับการทำงานนั่นก็คือ การเลือกใช้แสงไฟสีขาว หรือที่เรียกว่าแสง day light แต่แสงที่เหมาะกับกิจกรรมเบา ๆ ก่อนนอน คือ แสงกึ่งเหลืองกึ่งขาว (cool white) ไปจนถึงแสงสีเหลืองส้ม(warm white) นั่นเองการตกแต่งภายในห้องนอนแสงที่ใช้หากไม่จำเป็น ก็ไม่ควรจะให้มันสว่างจ้าไปทั้งห้อง ควรเน้นไปที่บริเวณที่เราต้องใช้งานจริง ๆ มากกว่า เช่นบริเวณหน้าตู้เสื้อผ้า หน้าประดูห้อง หรือหัวเตียงเพียงเท่านั้น หากเราลองสังเกตพวกห้องนอนตามโรงแรมต่างๆ ส่วนใหญ่จะมีไฟส่องสว่างที่หน้าตู้เสื้อผ้า โต๊ะเครื่องแป้ง เท่านั้น นอกจากจะทำให้บรรยากาศดูผ่อนคลายลงแล้ว ยังประหยัดค่าไฟภายในบ้านแล้วยังช่วยโลกได้อีกด้วย
ส่วนใหญ่ในสมัยนี้นิยมเลือกใช้หลอดไฟฟลูออเรสเซนต์ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่ดี เพราะหลอดไฟฟลูออเรสเซนต์จะมีเงาที่ไม่คมชัดมาก เป็นเงาฟุ้ง ๆ ทำให้บรรยากาศในห้องดูฟุ้งไปด้วย ความจริงแล้ว หลักการต่างๆ ไม่ยากเลย แค่ให้แสงเฉพาะจุดที่เราจะใช้งานจริง ๆ ไม่รบกวนคนที่อยู่ร่วมห้องกับเราด้วย วิธีการเลือกหลอดไฟ ที่ให้แสงนวลตาไม่ให้เงาคมชัดเกินไป ก็ไม่ใช่เรื่องยากหากจะตกแต่งด้วยตนเอง
โฟกัสจุดที่ต้องการแสงสว่างด้วยโคมไฟตั้งโต๊ะสำหรับการใช้งานตามที่ต้องการ
การออกแบบบรรยากาศภายในบ้านของเรา ภายในห้องนอนควรรู้สึกสงบและอบอุ่น อีกทั้งควรให้ความรู้สึกผ่อนคลาย เพราะเป็นห้องที่ใช้ในการพักผ่อนอย่างแท้จริง ดังนั้นแสงไฟในห้องนอนจึงควรใช้แสงไฟที่ไม่สว่างจัด เช่น โคมไฟแชนเดอเลียร์, ไฟซ่อนผนัง, ไฟฝังฝ้า หรือจะเป็นหลอดไฟในบ้านทั่ว ๆ ไปก็ได้ แต่ไม่ควรให้แสงอ่อนมากเกินไป หากมีการอ่านหนังสือควรใช้แสงสว่างให้เพียงพอ หรือมีโคมไฟตั้งโต๊ะตรงหัวนอนเสริม
ต่อมาเป็นห้องทำงาน คือห้องที่ต้องใช้สมาธิมาก มีความเงียบสงบ ผ่อนคลายสบาย ๆ และแสงสีไม่จัดจ้าน จะช่วยให้รู้สึกผ่อนคลายได้มากกว่า ดังนั้นแสงที่ใช้ในห้องทำงานจึงควรเป็นแสงธรรมชาติ หรือหลอดไฟแสงสีขาว เพื่อให้สีภายในห้องไม่ผิดเพี้ยน โดยเฉพาะเมื่อต้องเพ่งสายตากับคอมพิวเตอร์นาน ๆ ส่วนห้องนั่งเล่นคือจุดสำคัญ ที่มีไว้รับแขกและใช้ทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว เรียกว่าเป็นห้องอเนกประสงค์ที่สามารถปรับเปลี่ยนแสงไฟได้หลากหลายให้ตรงกับความต้องการ แต่ควรให้มีแสงสว่างมากหน่อย หรือหากอยากให้มีความนุ่มนวลสวยงาม อาจใช้แสงไฟนวล ๆ จากหลอดสีส้ม หรือแสงไฟเฉพาะจุดที่เน้นงานศิลปะ ภาพวาด หรือต้นไม้ก็ได้ ต่อมาคือส่วนของห้องน้ำเป็นอีกหนึ่งห้องที่มีความสำคัญสำหรับทุกคนในบ้าน ดังนั้นเพื่อให้ห้องน้ำไม่เกิดความอับชื้น มองเห็นทางเดินได้ชัดเจน ไม่ลื่นล้ม ควรเลือกแสงไฟที่สว่าง หากเปิดให้แสงธรรมชาติถ่ายเทผ่านเข้ามาได้มากยิ่งดี ห้องสุดท้ายสำหรับห้องครัวที่เราใช้ประกอบอาหาร ควรใช้แสงไฟสว่างตั้งแต่แสงปกติไปจนถึงสว่างเป็นพิเศษ และควรเปิดช่องให้มีอากาศถ่ายเท มีแสงจากธรรมชาติเข้ามามากที่สุด เนื่องจากในห้องครัวไม่ควรเป็นจุดอับ ควรเพิ่มแสงสว่างใต้เครื่องดูดควัน หรือใต้ตู้เก็บของชั้นบนด้วย
แต่ละห้องของบ้าน ก็ย่อมมีสไตล์การตกแต่งและความต้องการในการใช้งานที่ต่างกัน ซึ่งแสงจากโคมไฟก็เป็นอีกส่วนหนึ่งที่บ่งบอกถึงฟีลลิ่งของแต่ละห้องได้เป็นอย่างดี ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนที่ต้องมีโคมไฟติดผนังสีเหลืองนวลเพื่อความอบอุ่น หรือโคมไฟตั้งโต๊ะตามจุดที่น่าสนใจเพื่อให้ห้องต่าง ๆ ภายในบ้านมีบรรยากาศที่เหมาะสมน่ารื่นรมย์ใจ