Tiffany Lamp อาจจะดูคล้ายชื่อมิสส์ทิฟฟานี่อะไรทำนองนี้ แต่นี่คือชื่อของโคมไฟที่มีสีสันโดดเด่นเฉพาะตัวในแบบที่ใครเห็นก็ต้องสะดุดตาแอบมอง ในปัจจุบันเราไม่ค่อยได้เห็นโคมไฟชนิดนี้เท่าใดนัก เพราะเป็นความคลาสสิคย้อนยุคที่เดินเรื่องราวผ่านประวัติศาสตร์มาให้เราได้ชื่นชม แม้จะดูเหมือนเป็นโคมไฟทั่วๆ ไป แต่กว่าจะกลายมาเป็นผลงานที่สะดุดตาเช่นนี้ล้วนมีเรื่องราวเล่าขานน่าสนใจอยู่ไม่น้อย

เอกลักษณ์ที่ดูมีสีสัน เต็มไปด้วยชีวิตชีวา หรูหราด้วยวัสดุแก้วแวววาว บางครั้งอาจเรียกในชื่อของชิ้นงานศิลปะย้อนยุคแบบนี้ว่า Stained Glass Lamp ตามวัสดุที่นำมาใช้ในการสร้างสรรค์ การออกแบบมีให้เลือกทั้งเป็นโคมไฟแขวนเพดาน โคมไฟตั้งโต๊ะ โคมไฟตั้งพื้น หรือจะเป็นโคมไฟติดผนัง ก็มีให้เลือก เหมาะกับการใช้งานได้ในทุกห้องของบ้าน ลวดลายที่แตกต่างกันออกไป เหมือนผลงานศิลปะที่สะท้อนถึงความคิดสร้างสรรค์นักออกแบบได้เป็นอย่างดี

ต้นกำเนิดของโคมไฟ Tiffany

ต้นกำเนิดของโคมไฟชนิดนี้ หากตามพื้นฐานแล้วจะเป็นโคมไฟแบบตั้งโต๊ะ และแบบตั้งพื้นเป็นชิ้นงานที่ได้รับความนิยมมากกว่าแบบอื่น สีสันจากแก้วที่ผสมสีลงไป จะถูกรวมเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว มีโทนสีมากมายให้เลือก สะท้อนจับต้องกับหลอดไฟด้านใน ส่องสว่างให้แสงที่นวลตา และมีความแปลกใหม่ไม่ซ้ำซาก

นักออกแบบสมัยก่อน สร้างสรรค์โคมไฟชนิดนี้ขึ้นมาเพื่อใช้ในการตกแต่งโดยเฉพาะ แสงสว่างที่ส่องประกายออกมาไม่ได้สำคัญเท่ากับความสวยงามอันโดดเด่นที่ประทับอยู่ตรงหน้า เหมาะแก่การนำไปใช้ติดตั้งได้กับทุกพื้นที่ภายในบ้าน

เราคงไม่ต้องกล่าวถึงขั้นตอนเริ่มต้นต่างๆ ในกระบวนการผลิตในอดีต เพราะสิ่งที่อยากให้รู้คือผู้สร้างไอเดียนี้ขึ้นมามีจุดประสงค์เพื่อสร้างงานศิลปะที่ผุดขึ้นมาในหัวของเขาเอง โดยที่ John La Farge เป็นศิลปินที่ทำให้โคมไฟชนิดโด่งดังขึ้นมา และยังคงได้รับความนิยมมาจนถึงยุคปัจจุบัน

ความหรูหราผ่านเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร

Louis Comfort Tiffany สร้างโรงงานเป็นของตัวเองเพื่อผลิตกระจกสำหรับออกแบบงานโคมไฟโดยเฉพาะ โดยทำเครื่องหมายชิ้นงานจากแก้วที่ถูกผสมสีแต่ละชิ้นว่า "Favrile" โดยเทคนิคการทำแก้วแบบนี้เป็นความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนใคร รูปแบบที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อนเลยในยุคนั้น

การทำงานที่เหมือนกับการนำเอาแก้วมาทำเป็นภาพโมเสค ออกมาเป็นภาพหลายๆ รูปแบบที่ชวนให้จินตนาการ ชิ้นส่วนของตัวหมวกโคมไฟถูกทำขึ้นอย่างแน่นหนายึดกับตัวฐาน โดยทั้งหมดทำขึ้นจากแก้วทั้งสิ้น ด้วยเทคนิคพิเศษ ทำให้ชิ้นงานมีความคงทน ไม่เปราะบางเหมือนหน้าต่าง หรือสะเทือนได้ง่าย ทำให้หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็นหมวกโคมไฟพลาสติกที่ทำขึ้นให้ใกล้เคียงกับของจริง

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ว่าทำไมตัวโคมไฟถึงเน้นความละมุนในการชิ้นงาน ความโค้งมนผ่านชิ้นแก้วแต่ละอันที่เชื่อมต่อกัน เพราะการได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติ รูปทรงของดอกไม้ ต้นไม้ เหล่าแมลง และการตัดแก้วด้วยมือ ทำให้สิ่งเหล่านี้กลายเป็นความคลาสสิคหรูหราอย่างยอดเยี่ยม

หลากหลายสไตล์การตกแต่งที่สะท้อนความหรูหราย้อนยุค

การนำมาใช้ตกแต่งบ้านในปัจจุบัน แนะนำว่าเน้นใช้งานเพื่อสร้างสรรค์บรรยากาศที่อบอุ่นผสมผสานกับความมีชีวิตชีวา โคมไฟตั้งโต๊ะแบบทิฟฟานี่ เป็นสไตล์ดั้งเดิมที่ชวนให้บ้านของคุณดูคลาสสิคและหรูหรา เหมาะกับคนที่ชอบการตกแต่งบ้านย้อนยุคเป็นอย่างมาก ต้นฉบับที่คุณลองสรรหามาใช้ จะสัมผัสได้ถึงความประณีต ตั้งข้างโซฟาภายในห้องนั่งเล่น หรือจะติดตั้งเป็นโคมไฟแขวนเพดานที่ห้องโถง ก็ดูงามสง่าไม่แพ้โคมไฟระย้าจากคริสตัลเลยทีเดียว

รูปลักษณ์ของโคมไฟแบบแขวนเพดาน ยังใช้งานได้ดีสำหรับห้องรับประทานอาหาร และพื้นที่ห้องนอนที่ช่วยสร้างความน่าดึงดูดใจ เปลี่ยนบรรยากาศให้ดูน่าผ่อนคลายได้อย่างสมบูรณ์แบบ เป็นทั้งชิ้นงานสำหรับให้แสงสว่างแบบนุ่มละมุนแล้ว ยังเป็นของตกแต่งที่น่าประทับใจอีกด้วย

ลวดลายบนตัวโคมไฟที่เชื่อมโยงกับความเป็นธรรมชาติน่าดึงดูดสายตา จนกลายเป็นผลงานทางสุนทรียศาสตร์ ในปัจจุบันยังคงมีการออกแบบพัฒนาขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เข้ากับสไตล์ยุคใหม่ แต่กระนั้นความหรูหราและคลาสสิคในประวัติศาสตร์ก็ยังคงเป็นเสน่ห์อันเข้มข้นไม่เสื่อมคลายไปจากงานฝีมือชิ้นนี้