ถ้าพูดถึงเฟอร์นิเจอร์ที่ถูกยกขึ้นหิ้งให้เป็นไอเทมสุดคลาสสิค ตู้เก็บของไม้ ย่อมเป็นหนึ่งในนั้นอย่างไม่ต้องสงสัย เพราะไม่ว่าผ่านมากี่ยุคสมัย ตู้ที่ทำจากไม้ในรูปแบบและดีไซน์ต่างๆ ก็ไม่เคยเสื่อมมนต์ขลัง ทั้งยังเป็นเครื่องเรือนที่ช่วยยกระดับการตกแต่งแทบทุกสไตล์ให้ดูอบอุ่น มีเสน่ห์ และกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติมากขึ้น โดย ตู้เก็บของไม้ ที่เราคุ้นเคยกันก็มีหลากหลายแบบและฟังก์ชัน ไม่ว่าจะเป็น ตู้เก็บของอเนกประสงค์ไม้ ตู้คอนโซล ตู้เคาน์เตอร์ และ ตู้เก็บจานชาม ในครัว ซึ่งมีวัตถุประสงค์การใช้งานที่ต่างกัน และแน่นอนว่าย่อมมีข้อพิจารณาในการเลือกซื้อที่แตกต่างกันไปด้วย วันนี้เราเลยจะมาพูดถึงสิ่งที่ควรรู้และเทคนิคในการเลือกซื้อตู้ไม้สำหรับใช้งานส่วนต่างๆ ของบ้าน ซึ่งจะมีอะไรบ้าง เราไปดูกันเลย
ตู้เก็บของไม้ สำหรับจัดเก็บของทั่วไป
สำหรับ ตู้เก็บของอเนกประสงค์ไม้ ที่ใช้จัดเก็บสิ่งของภายในตัวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นตู้โชว์ ชั้นวางหนังสือ หรือตู้เก็บของอื่นๆ สิ่งสำคัญที่สุดก็คือฟังก์ชันในการจัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบ คุณสมบัติของตู้ที่เราเลือกจึงควรสอดคล้องกับการใช้งานและตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ ยกตัวอย่างเช่น
- ตู้โชว์ ตู้สำหรับวางไอเทมประดับตกแต่งนั้นควรมีดีไซน์สวยงามเข้ากับห้อง และเปิดเผยให้ผู้คนชื่นชมของที่อยู่ข้างในได้ ตู้ไม้หรือชั้นไม้แบบเปิดโล่งจึงเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับสิ่งของที่ไม่ได้หรูหราราคาแพงหรือเสี่ยงต่อการตกแตกเสียหายมากนัก แต่หากของสะสมของเราเป็นเครื่องแก้ว เครื่องลายคราม หรือจานชามเซรามิกสุดหรู ก็ควรเลือกเก็บในตู้ไม้ที่มีบานกระจก ซึ่งออกแบบมาสำหรับเป็นตู้โชว์โดยเฉพาะ
- ตู้หนังสือไม้ สำหรับตู้และชั้นวางหนังสือ ใจความสำคัญอยู่ที่การสามารถรับน้ำหนักได้ดี เนื่องจากหนังสือหลายเล่มนั้นมีน้ำหนักค่อนข้างมาก จึงอาจทำให้ตู้ที่มีความบอบบาง อย่างตู้ไม้อัดหรือชั้นไม้กระดานแผ่นบางๆ เกิดการโค้งงอ เอียง หรือหักได้ ตู้ไม้สำหรับเก็บหนังสือจึงควรทำจากวัสดุที่แข็งแรงทนทาน อย่างไม้เนื้อแข็งหรือไม้อัดยางแผ่นหนา หรือเสริมโครงโลหะที่มั่นคงเพียงพอ รวมถึงควรมีการเคลือบผิวเพื่อป้องกันความชื้น กันแมลงและเชื้อรา เพราะหากมีปลวก/มอดกัดแทะ หรือเชื้อราขึ้นที่ตู้แม้เพียงน้อยนิด หนังสือของเราก็อาจเสียหายทั้งตู้ได้เช่นกัน
- ตู้เก็บของทั่วไป ซึ่งใช้เก็บข้าวของอะไรก็ตามที่มีในบ้าน ข้อที่เราต้องพิจารณาก็คือความแข็งแรงในการรับน้ำหนัก ขนาดที่เหมาะสมกับพื้นที่ และรูปแบบที่เหมาะกับการใช้งาน ยกตัวอย่างเช่น เราต้องการตู้มาใส่อุปกรณ์กระจุกกระจิกที่แยกเป็นประเภท ก็อาจเลือกเป็นตู้ลิ้นชักที่มีช่องเล็กๆ จำนวนมาก หรือหากเราต้องการวางตู้ไว้ในพื้นที่ที่ค่อนข้างแคบ ก็อาจเลือกตู้ทรงแคบและสูง หรือตู้แบบบานเลื่อนแทนแบบบานพับ เป็นต้น
ตู้เก็บของไม้ สำหรับวางหน้าบ้าน
ตู้หน้าบ้าน หรือตู้คอนโซล เรียกว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นหน้าเป็นตาของบ้านก็ว่าได้ เพราะเป็นตู้ขนาดกะทัดรัดที่เรามักจะวางไว้บริเวณโถงทางเข้าบ้าน หรือโถงทางเดินระหว่างห้องต่างๆ โดยหน้าที่หลักของตู้คอนโซล นอกจากจะใช้เก็บของใช้กรุบกริบแล้ว ยังใช้เป็นจุดวางไอเทมตกแต่งที่ช่วยเสริมสร้างบรรยากาศและบ่งบอกความเป็นตัวเรา เช่น กรอบรูป หรือกระถางต้นไม้เก๋ๆ ดังนั้น คงไม่ผิดที่จะพูดว่าการเลือกตู้คอนโซลหรือตู้หน้าบ้านควรเน้นไปที่ดีไซน์มากกว่าความสามารถในการรับน้ำหนัก เพราะฟังก์ชันหลักนั้นคือเรื่องความสวยงามมากกว่าการใช้เก็บข้าวของจริงๆ ตู้คอนโซลไม้ที่เราเลือกจึงควรมีดีไซน์ที่เข้ากันกับบ้าน เช่น ตู้ไม้สีอ่อนเรียบๆ สำหรับบ้านสไตล์โมเดิร์นมินิมอล หรือตู้ไม้สีเข้มที่เสริมดีเทลโลหะสำหรับบ้านสไตล์ย้อนยุคหรือสไตล์รัสติก อย่างไรก็ตาม สำหรับบ้านที่มีเนื้อที่จำกัด เราก็อาจมองหาตู้คอนโซลที่สามารถใช้ประโยชน์ได้หลากหลายแทนตู้ที่เน้นดีไซน์เพียงอย่างเดียว เช่น เลือกตู้ตัวเตี้ยที่สามารถเป็นที่นั่งได้ด้วย หรือเลือกตู้เก็บรองเท้าสวยๆ มาใช้เป็นตู้คอนโซลไปเลยในคราวเดียว
ตู้เก็บของไม้ สำหรับใช้ในครัว
เมื่อพูดถึงตู้สำหรับใช้งานในครัว ไม่ว่าจะเป็น ตู้เก็บจานชาม และเครื่องครัว ตู้ใต้ซิงก์ หรือตู้เคาน์เตอร์ครัว ไม้เป็นวัสดุที่เราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษทั้งในการเลือกและการใช้งาน เนื่องจากเนื้อไม้โดยทั่วไปมักไม่ถูกกับความชื้น ความร้อนรวมไปถึงคราบมันและคราบเปื้อนต่างๆ ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมตามปกติในห้องครัวที่มีการใช้งานประจำ ดังนั้น สำหรับบ้านที่เข้าครัวทำอาหารบ่อย หรือใช้งานห้องครัวอย่างหนัก จึงควรเลือกตู้ไม้ที่แข็งแรง มีคุณสมบัติกันน้ำ และไม่บิดงอเมื่อสัมผัสความร้อน เช่น ตู้จากไม้อัดยาง พาร์ทิเคิลบอร์ด หรือไม้จริงชนิดที่มีความทนทานและเกิดรอยเปื้อนได้ยาก เช่น ไม้โอ๊ค รวมถึงไม้ที่ผ่านการเคลือบผิวเพื่อกันน้ำ กันเชื้อรา และกันคราบสกปรก อย่างไรก็ดี จะต้องมั่นใจว่าวัสดุเคลือบผิวหรือสีทาไม้ที่ใช้นั้นปลอดภัยสำหรับอาหารด้วย
ตู้เก็บของไม้ สำหรับใช้ในห้องน้ำ
ตู้ไม้สำหรับเก็บของและตู้ใต้ซิงก์ในห้องน้ำนั้นมีข้อพิจารณาที่คล้ายกับตู้ในห้องครัว นั่นคือควรเป็นตู้ไม้ที่ทานทนต่อความชื้น ไม่ขึ้นรา ไม่เปื่อยยุ่ย ไม่บวมผิดรูปหรือผุพังง่ายแม้ต้องสัมผัสความชื้นเป็นประจำ ตัวเลือกของวัสดุจึงคล้ายคลึงกับที่ใช้ในห้องครัว ซึ่งได้แก่ ไม้อัดยางและไม้ที่ผ่านการเคลือบกันน้ำ อย่างไรก็ตาม สำหรับห้องน้ำที่ไม่มีการแบ่งส่วนแห้ง-ส่วนเปียกชัดเจน และมีโอกาสที่ตู้เก็บของจะเปียกน้ำได้มาก ก็อาจจำเป็นต้องข้ามตู้ไม้ แล้วไปเลือกวัสดุอื่นที่ทนต่อความชื้นได้ดีกว่าทดแทน
ตู้เก็บของไม้ สำหรับใช้ภายนอกบ้าน
ตู้ไม้สำหรับใช้งานแบบ outdoor เป็นอีกข้อที่ควรพิจารณาอย่างรอบคอบก่อนเลือกซื้อ เนื่องจากสภาพแวดล้อมภายนอกบ้านย่อมต้องเผชิญกับความชื้น แสงแดด และฝุ่นละอองมากกว่าภายในตัวบ้าน ตู้เก็บของนอกบ้านจึงควรทำจากไม้ที่มีความแข็งแรงและทนต่อสภาพแวดล้อม เช่น ไม้สัก ไม้โอ๊ค หรือไม้สน ส่วนรูปแบบของตู้นั้นก็ขึ้นอยู่กับการใช้งานเป็นหลัก หากใช้เพื่อวางของทั่วไป อย่างกระถางต้นไม้หรืออุปกรณ์ทำสวนเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถใช้ชั้นวางของแบบเปิดโล่งได้ แต่หากต้องการเก็บสิ่งของที่มีมูลค่า หรือเครื่องมือที่อาจเป็นอันตรายต่อคนในบ้าน ก็ควรเลือกตู้ที่มีประตูปิดแน่นหนาและมีกุญแจล็อคได้เพื่อเพิ่มความปลอดภัย
จะเห็นว่า ตู้เก็บของไม้ ที่เหมาะจะนำมาใช้งานในส่วนต่างๆ ของบ้านย่อมมีคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป เช่น ตู้เก็บของอเนกประสงค์ไม้ ที่เน้นรูปแบบที่เหมาะสมกับสิ่งของที่ต้องการเก็บ ตู้คอนโซลที่เน้นรูปลักษณ์ดีไซน์เป็นหลัก หรือ ตู้เก็บจานชาม ในครัวซึ่งควรเลือกวัสดุที่ทนทานเหมาะกับงานครัว เป็นต้น รวมถึงอีกสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามก็คือการเลือกขนาด รูปแบบ และดีไซน์ของตู้ให้เหมาะสมกับพื้นที่และสไตล์ของบ้านด้วยนั่นเอง