Skip to content

Welcome to our store

Lounge Lovers
Previous article
Now Reading:
เทคนิคเลือกซื้อ ตู้เก็บของในครัว ให้ตอบโจทย์ความความต้องการของทุกบ้าน
Next article

เทคนิคเลือกซื้อ ตู้เก็บของในครัว ให้ตอบโจทย์ความความต้องการของทุกบ้าน

เทคนิคเลือกซื้อ ตู้เก็บของในครัว ให้ตอบโจทย์ความความต้องการของทุกบ้าน

ตู้เก็บของในครัว เป็นส่วนประกอบสำคัญของห้องครัวที่ต้องมีทุกบ้าน ยิ่งถ้าเป็นคนที่ชื่นชอบการทำอาหารด้วยแล้ว ตู้เก็บของในครัว ยิ่งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้การทำอาหารของเราง่ายมากขึ้น เพราะ ตู้เก็บของในครัว จะเป็นตัวช่วยจัดเก็บอุปกรณ์และสิ่งของต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบและหยิบใช้งานได้ง่าย นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มพื้นที่ของห้องครัวให้มากขึ้นอีกด้วย ดังนั้นใครที่กำลังมองหาตู้เก็บของไว้ในห้องครัว ลองมาดูวิธีการเลือกและไอเดียการตกแต่งไปพร้อมกัน

1. เลือก ตู้เก็บของในครัว ที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ห้องครัว อย่างแรกเลยที่ต้องทำคือ การวัดพื้นที่ห้องครัวอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นความกว้าง ความยาว และความสูงของพื้นที่ที่ต้องการวาง ตู้เก็บของในครัว เพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจในขณะที่เลือกซื้อ เพราะถ้าหากไม่มีการพื้นที่ที่ต้องการจัดวางอาจจะเจอปัญหาหลายอย่าง เช่น ตู้ในครัวมีขนาดใหญ่จนตั้งวางไม่ได้ หรือตู้ในครัวมีขนาดเล็กเกินไปจนไม่สมดุลกับห้องครัว เป็นต้น นอกจากนี้ควรเลือกตู้ในครัวที่มีช่องเก็บภายในหลายช่อง หรือมีพื้นที่ใช้สอยตรงตามความต้องหรือจุดประสงค์ เช่น ถ้าจะไว้เก็บภาชนะขนาดใหญ่อย่างหม้อหรือกระทะ ก็ควรตรวจดูว่าขนาดช่องภายในของตู้สามารถวางภาชนะขนาดใหญ่ได้หรือไม่ เพื่อให้การจัดเก็บของภายในตู้มีระเบียบและมีประสิทธิภาพ

2. เลือกประเภทของ ตู้เก็บของในครัว ให้เหมาะสมกับการใช้งาน จะเน้นไปที่ความสะดวกสบายในการหยิบจับสิ่งของและภาชนะ ดังนั้นเพื่อความเหมาะสมของพื้นที่ใช้สอยจึงอาจจะเลือกประเภทของตู้ในครัว ดังนี้

เลือกประเภทของ ตู้เก็บของในครัว ให้เหมาะสมกับการใช้งาน

ตู้วางของในครัว แบบแขวนผนัง เป็นสไตล์ที่เหมาะสำหรับคนที่ต้องการประหยัดพื้นที่ใช้สอย เนื่องจากตู้ในครัวแบบแขวนผนังหรือตู้ลอย จะช่วยประหยัดพื้นที่ใช้สอยในครัวค่อนข้างมาก ช่วยให้มีพื้นที่เพิ่มเติมในการจัดวางของชิ้นอื่น ๆ โดยตู้ในครัวแบบลอยจะมีพื้นที่ใช้สอยในการจัดเก็บอุปกรณ์ไว้เหนือศีรษะ เมื่อต้องการทำอาหารก็จะเอื้อมหยิบอุปกรณ์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีประตูเปิดและปิดที่ช่วยเก็บรักษาอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้อย่างมิดชิด เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก

ตู้วางของในครัว แบบตั้งพื้น เป็นสไตล์ที่ได้รับความนิยมมาโดยตลอด ซึ่งตู้ในครัวประเภทนี้จะเน้นความแข็งแรงและคงทน มีพื้นที่จัดเก็บภาชนะและอุปกรณ์ต่าง ๆ ได้เป็นสัดส่วน โดยตู้ในครัวจะมีทั้งแบบลิ้นชักและประตูบานพับสำหรับเปิดและปิด ทำให้สามารถหยิบอุปกรณ์และของใช้ได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว ส่วนภายในตู้มีการแบ่งสัดส่วนสำหรับจัดเก็บภาชนะในครัวได้อย่างเป็นระเบียบ เช่น มีพื้นสำหรับจัดเก็บช้อนส้อม มีพื้นที่สำหรับจัดเก็บจานชาม เป็นต้น

ตู้วางของในครัว แบบล้อเลื่อน ถ้าหากห้องครัวมีพื้นที่จำกัดและรูปลั๊กสำหรับเสียบเครื่องใช้ไฟฟ้าน้อย ซึ่งทำให้ไม่สะดวกในการใช้งาน ตู้ในครัวแบบล้อเลื่อนจะตอบโจทย์ในเรื่องของการเคลื่อนย้ายได้สะดวกมากยิ่งขึ้น เช่น เมื่อต้องการทำอาหารก็สามารถเคลื่อนย้ายตู้ที่วางเครื่องใช้ไฟฟ้าไปเสียบบริเวณที่มีรูปลั๊กไฟได้ และหลังจากใช้งานเสร็จก็สามารถเคลื่อนย้ายตู้ในครัวเข้าประจำที่ได้ นอกจากนี้ยังสามารถขยับออกมาทำความสะอาดตรงบริเวณพื้นที่ที่ต้องการได้อย่างรวดเร็วและง่าย รวมถึงพื้นห้องไม่เป็นรอยขีดข่วนจากการเคลื่อนย้าย เพราะตู้ในครัวมีล้อเลื่อน

3. เช็กความสามารถในการรองรับน้ำหนักของ ตู้เก็บของในครัว เพราะตู้ในครัวแต่ละขนาดจะสามารถรับน้ำหนักได้แตกต่างกันออกไป ตู้ในครัวที่มีขนาดเล็กจะรับน้ำหนักได้น้อยกว่าตู้ในครัวขนาดใหญ่ และตู้ในครัวแบบแขวนผนังจะรับน้ำหนักได้น้อยกว่าตู้ในครัวแบบตั้งพื้น จึงทำให้ประสิทธิภาพในการรับน้ำหนักมีน้อยกว่า ถ้าหากมีการวางอุปกรณ์จำนวนมากจนมีน้ำหนักเยอะก็อาจจะทำให้ ตู้เก็บของอเนกประสงค์ เกิดการร่วงหล่นสร้างความเสียหายให้กับห้องครัวได้

ไอเดียการเลือก ตู้เก็บของในครัว ให้คุมโทนสไตล์มินิมอล

การตกแต่งห้องครัวด้วย ตู้เก็บของในครัว หรือ ตู้วางของในครัว สไตล์มินิมอล สามารถนำไปปรับใช้ได้กับทุกพื้นที่ โดยไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นห้องครัวเพียงอย่างเดียว โดยคอนเซปต์ของการเลือกตกแต่งห้องครัวด้วยตู้นั้น จะเป็นต้องมีการคุมโทนสีและสไตล์ ซึ่งจะแบ่งโทนสีออกเป็น 4 โทนสีด้วยกัน คือ

1. ตู้เก็บของในครัว สไตล์โทนสีขาว โดยข้อดีของการ เลือกตู้วางของโทนสีขาวจะ ให้ความรู้สึกสว่าง สบายตา แต่อาจจะมีข้อเสียคือ เกิดคราบสกปรกง่าย หากไม่ทำความสะอาดให้ดีจะมีคราบฝัง

2. ตู้เก็บของในครัว สไตล์โทนสีดำ มีความหมายถึงความสุขุม เข้ม มีความเป็นผู้ใหญ่ ซึ่งข้อดีของการเลือก ตู้เก็บของในครัว โทนสีนี้คือ ช่วยพรางตาไม่ให้เห็นรอยเปื้อนหรือคราบสกปรก แต่จะทำความสะอาดค่อนข้างยาก เพราะมองไม่เห็นคราบ

3. ตู้เก็บของในครัว สไตล์เอิร์ธโทน ได้แก่ โทนสีเทา โทนสีน้ำตาล โทนสีน้ำตาลอิฐ โทนสีเขียว โดยจะสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ นุ่มละมุน สงบ เรียบง่าย นอกจากนี้ยังสามารถหยิบโทนสีมาแมทช์ได้ง่าย เพราะเป็นโทนสีไม่ฉูดฉาด

4. ตู้เก็บของในครัว สไตล์ญี่ปุ่น จะเป็นการตกแต่งแนวผสมสานระหว่างความทันสมัยของยุโรปและความอบอุ่นแบบตะวันออก โทนสีของห้องจึงจะเน้นการใช้โทนสีขาวผสมกับโทนสีเอิร์ธโทน โทนสีอ่อน หรือโทนสีของไม้ธรรมชาติ เมื่อนำมาผสมกันจะทำให้รู้สึกสบายตา สบายใจ ห้องมีความสว่าง สะอาดตา น่าใช้งาน

ไอเดียการเลือก ตู้เก็บของในครัว ให้คุมโทนสไตล์มินิมอล

ข้อดีของการเลือก ตู้เก็บของในครัว สไตล์มินิมอล

  1. ตัวช่วยจัดระเบียบและเก็บของในห้องครัวให้เป็นที่เป็นทาง ไม่ว่าจะเป็นภาชนะหรืออุปกรณ์ทำครัวต่าง ๆ
  2. ตัวช่วยให้ห้องครัวมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่มมากขึ้น
  3. ตัวช่วยให้บ้านดูโปร่ง โล่ง สบายตา และสวยงาม

ตู้เก็บของในครัว หรือ ตู้วางของในครัว ถือว่าเป็น ตู้เก็บของอเนกประสงค์ อีกอย่างหนึ่ง ซึ่งจะช่วยจัดเก็บสิ่งของ ภาชนะ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ภายในครัวให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ดังนั้นการเลือกซื้อตู้เก็บของให้ตรงความต้องการ แนะนำว่าควรจะพิจารณาจากรูปแบบ ขนาด และความแข็งแรง ทนทานในการรับน้ำหนัก เพื่อให้ตอบโจทย์วัตถุประสงค์การใช้งาน นอกจากนี้เรื่องความสวยงามและโทนสีที่เลือกใช้ก็มองข้ามไม่ได้ เพราะสไตล์การตกแต่งนอกจากจะทำให้บ้านน่าอยู่แล้ว ยังเป็นหน้าตาให้กับเจ้าของบ้านอีกด้วย

Cart

Close

Your cart is currently empty.

Start Shopping

Select options

Close