เคล็ดไม่ลับกับการเลือกโซฟารับแขกให้เหมาะกับบ้านสไตล์วินเทจ

หลักการเลือก โซฟารับแขก เพื่อบ้านสไตล์วินเทจ

“วินเทจ (Vintage)” เป็นคำกว้างๆ ที่ใช้พูดถึงการตกแต่งและออกแบบที่ชูเอกลักษณ์แบบย้อนยุค ซึ่งนับช่วงเวลาตั้งแต่ราวต้นศตวรรษที่ 20 ไปจนถึงยุค 1970-80 ความเป็นวินเทจจึงเป็นการควบรวมสไตล์ที่แมสในหลากหลายยุคมาไว้ ตั้งแต่วิคตอเรียน, Art Deco และสไตล์กลางศตวรรษ หรือ Mid-century modern ซึ่งในการตกแต่งบ้านแบบวินเทจนั้น เราอาจเลือกเอาเอกลักษณ์ของช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่งมาใช้ หรือจะผสมผสานจุดเด่นของหลายๆ พีเรียดมารวมเข้ากับรสนิยมส่วนตัวก็ได้ โดยไม่มีคำว่าผิด

เพราะเหตุนี้ ดีไซน์แบบวินเทจจึงมีรูปแบบที่กว้างมากๆ หากเราต้องการมองหาเฟอร์นิเจอร์อย่าง โซฟารับแขก สักตัว ก็อาจพิจารณาจากหลักการต่อไปนี้ร่วมด้วย ได้แก่

• รูปแบบ: เฟอร์นิเจอร์ยอดฮิตในแต่ละยุคอาจมีรูปแบบที่ต่างกันออกไปบ้าง อย่างไรก็ตาม ลักษณะร่วมกันที่มองปราดเดียวก็รับรู้ถึงสไตล์วินเทจ ได้แก่ รายละเอียดที่ดูวิจิตรอ่อนช้อย มีการสลักเสลาที่ปราณีต เส้นสายที่โค้งเว้าละมุนตา ไม่เรียบทื่อ มีพื้นผิวหรือ texture หลายๆ แบบผสมผสานกันอยู่ ยกตัวอย่างเช่น โซฟาหรืออาร์มแชร์ที่มีขาและโครงโค้งเว้า มีลวดลายแกะสลักตามส่วนต่างๆ เป็นต้น
• สีสัน: ชุดสีที่สื่อถึงความเป็นวินเทจอาจแตกต่างกันไปตามแต่ละช่วงเวลา โดยสีโทนอบอุ่น สีพาสเทล หรือสีอัญมณีที่ออกเข้ม จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ชวนให้ระลึกถึงอดีต ในขณะเดียวกันเฉดสีเอิร์ธโทน ไปจนถึงสีที่เข้มข้นและจัดจ้าน ก็พบได้บ่อยในการตกแต่งสไตล์ย้อนยุคเช่นเดียวกัน
• วัสดุ: การตกแต่งสไตล์วินเทจจะเน้นการใช้วัสดุจากธรรมชาติ เช่น ไม้ หิน และโลหะ ซึ่งหากมีตำหนิหรือรอยขูดขีดก็จะยิ่งช่วยสร้างรูปลักษณ์ที่เก่าแก่ให้กับเฟอร์นิเจอร์ ส่วนวัสดุบุที่เห็นได้บ่อยก็ได้แก่หนังหรือหนังกลับ ผ้าไหม และกำมะหยี่ ซึ่งค่อนข้างทนทาน ให้ภาพลักษณ์ที่ดูหรูหรา สง่างาม และคลาสสิคเหนือกาลเวลา
• ลวดลาย: ผ้าพิมพ์ลายดอกไม้ ลายทาง ลายดามาส (Damask) และลายเพสลีย์ (Paisley) ถือเป็นลวดลายยอดนิยมของยุคก่อนที่สื่อถึงความเป็นวินเทจได้เป็นอย่างดี โซฟาบุผ้าที่มีลายพิมพ์หรือลายปักเหล่านี้จึงเป็นตัวเลือกที่ช่วยเติมเต็มดีไซน์แบบยุคเก่าได้
• รายละเอียดอื่นๆ: โซฟาวินเทจ มักมีการเสริมแต่งรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ที่เป็นเอกลักษณ์ เช่น ราวจับ ปุ่มน็อต ตะขอสีแวววาว พู่ระย้า กระดุม ดิ้นเงินดิ้นทอง หรือการพับและการจับจีบผ้า ซึ่งแสดงถึงความปราณีตบรรจงและสุนทรียะแห่งยุคก่อน

ทั้งนี้ เราไม่จำเป็นต้องมองหา โซฟารับแขก ที่มีลักษณะตามเช็คลิสท์ครบทุกข้อที่ว่ามาก็ได้ เพราะเรายังสามารถสร้างบรรยากาศแบบย้อนยุคได้จากองค์ประกอบอื่นๆ ภายในห้อง เช่น วอลเปเปอร์ติดผนัง โคมไฟบนเพดาน พรมปูพื้น รวมถึงเครื่องเรือนและของตกแต่งอื่น ดังนั้น แค่โซฟาที่เราเลือกมีลักษณะตามลิสท์ข้อใดข้อหนึ่งก็เพียงพอแล้ว

ทริคการเลือก โซฟารับแขก ให้เหมาะกับบ้านสไตล์วินเทจ

อย่างที่บอกว่าในการแต่งบ้านสไตล์วินเทจ เราไม่จำเป็นต้องมีโซฟาเก่าโบราณขนานแท้ก็ได้ เพียงแค่เลือกดีไซน์ที่ไปกันได้กับสไตล์แบบย้อนยุคก็เพียงพอ ยกตัวอย่างเช่น

เลือกโซฟารูปทรงดั้งเดิม

โซฟาที่มีรูปทรงแบบเบสิคดั้งเดิม เช่น มีพนักพิงสูง ที่วางแขนกว้าง ไม่ได้ดูประเปรียวเพรียวบางทันสมัย หรือมีกลไกที่ซับซ้อนเกินไป ก็ถือเป็นตัวเลือกหนึ่งที่ตอบโจทย์สำหรับสไตล์วินเทจ

เลือกโซฟาที่มีเบาะนั่งตอนเดียว

โซฟาที่มีเบาะนั่งหลายตอน ซึ่งสามารถถอดแยกส่วนกัน หรือแม้แต่สามารถเปลี่ยนตำแหน่งจัดวางเพื่อปรับรูปทรงได้ เป็นดีไซน์ที่ทำมาเพื่อตอบสนองไลฟสไตล์ยุคใหม่ ดังนั้น โซฟาที่มีที่นั่งตอนเดียวธรรมดา จึงค่อนข้างเข้ากับสไตล์ห้องแบบวินเทจมากกว่า

เลือกโซฟาที่ลึกหรือยาวแบบ Day bed

โซฟา 1 ที่นั่ง แบบตัวยาว ซึ่งสามารถใช้นั่งเอนหลังและเหยียดขาสบายๆ ได้ เป็นดีไซน์ที่ไม่ค่อยนิยมกันมากนักในทุกวันนี้ เนื่องจากต้องใช้เนื้อที่มาก อีกทั้งปัจจุบันเราจะนิยมโซฟาเบดตัวกะทัดรัดที่สามารถกางหรือเลื่อนออกเป็นเตียงได้มากกว่า โซฟาที่คล้าย day bed แบบนี้จึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของห้องแบบย้อนยุคไปโดยปริยาย

เลือกโซฟาที่มีโครงหนาและเบาะหนานุ่ม

โซฟาที่นิยมในยุคก่อนหน้ามักมีโครงที่ใหญ่หนา ต่างจากเฟอร์นิเจอร์ในยุคโมเดิร์นที่เน้นความโปร่งและบางเบา รวมถึงเบาะนั่งที่หนา นุ่ม ดูอบอุ่นสบาย หรือการมีหมอนอิงปักลวดลายนานาหลายๆ ใบ ก็เป็นอีกรูปลักษณ์ที่เข้ากันได้กับสไตล์วินเทจเช่นกัน

เลือกโซฟาที่ทำจากหนังหรือหนังกลับ

หนังสัตว์เป็นอีกวัสดุที่นิยมใช้ในการทำเฟอร์นิเจอร์มาทุกยุคสมัย เนื่องจากความทนทานและการให้ภาพลักษณ์ที่เรียบหรู ดูภูมิฐาน โดยเราอาจเลือกโซฟาบุหนังหรือหนังกลับสีโทนเข้มขรึม อย่างสีดำหรือน้ำตาล สำหรับห้องรับแขกสไตล์รัสติก หรือสำหรับห้องที่เน้นความงามแบบคลาสสิคอย่างสไตล์ Mid-Century Modern

เลือกโซฟาที่บุด้วยผ้ากำมะหยี่หรือผ้าลินิน

เฟอร์นิเจอร์หุ้มกำมะหยี่เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงความรุ่มรวยหรูหราในยุคอดีต อีกทั้งดีไซน์ของโซฟาหุ้มกำมะหยี่ก็มักมีความวิจิตรงดงาม ส่วนผ้าลินินก็เป็นวัสดุที่มีความทนทาน เหมาะกับการใช้บุเฟอร์นิเจอร์ที่มีการใช้งานบ่อยๆ และให้ลุคที่ดูอบอุ่น สบายๆ สไตล์โฮมมี่มากกว่า ซึ่งวัสดุทั้ง 2 ชนิดนี้จะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดูเก่าแก่ให้แก่ห้องได้

เลือกโซฟาที่มีลวดลายหรือสีสัน

โซฟาที่มีสีสันและลวดลาย เช่น ลายดอกไม้ ลายทาง และลายดามาส ถือเป็นอีกหนึ่งซิกเนเจอร์ของการตกแต่งแบบวินเทจ ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศแห่งวันวานให้กับห้องตั้งแต่แรกเห็น หากเราหาโซฟาที่มีลวดลายถูกใจไม่ได้ ก็อาจหาผ้าคลุมโซฟาที่มีสีและลวดลายตามสไตล์วินเทจมาเป็นตัวช่วยเสริมลุคความย้อนยุคได้เช่นกัน

เลือกโซฟาที่มีรายละเอียดเป็นพิเศษ

ดีเทลเล็กๆ น้อยๆ อย่างจีบผ้า กระดุม หรือดิ้นตามขอบเบาะรองนั่ง เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความดูย้อนยุคให้กับโซฟาดีไซน์ธรรมดาทั่วไป ซึ่งเราสามารถมองหารายละเอียดเหล่านี้ได้ในอาร์มแชร์และ โซฟารับแขก ทุกขนาด

จะเห็นว่าการหา โซฟาวินเทจ ให้เข้ากับบ้านสไตล์ย้อนยุคนั้นไม่ใช่เรื่องยากอย่างที่คิด เพียงแค่เราหา โซฟารับแขกหรือ โซฟา 1 ที่นั่ง ที่มีรูปแบบ แพทเทิร์น ดีไซน์ที่เข้ากันได้กับการตกแต่งแบบยุคเก่า ร่วมกับการแต่งเติมองค์ประกอบอื่นๆ ในห้อง เพียงเท่านี้ เราก็สามารถเนรมิตรบ้านในฝันแบบฉบับย้อนวันวานได้ดั่งใจแล้ว