โคมไฟติดเพดานสามารถเป็นหนึ่งในแนวทางที่ช่วยสร้างความเปล่งประกายให้ห้องต่างๆ ภายในบ้านได้อย่างสมบูรณ์แบบ แถมรูปลักษณ์ที่มีความทันสมัย ทำให้บ้านดูสะอาดตาและกว้างขวาง เหมาะสำหรับห้องที่มีพื้นที่จำกัด มันจึงสามารถเป็นโคมไฟที่ติดตั้งได้ในทุกๆ ห้องที่คุณต้องการ ดังนั้นลองมาทำความรู้จักกับเจ้าโคมไฟติดเพดานที่เรียกว่า "Recessed light" พร้อมข้อควรรู้ก่อนตัดสินใจซื้อมาติดตั้ง จะได้วางแผนแนวทางได้อย่างถูกวิธี เติมเสน่ห์ให้บ้านสวย สว่างตา และความมีชีวิตชีวาที่ลงตัวในทุกๆ พื้นที่
อะไรคือโคมไฟติดเพดานแบบฝัง Recessed ?
Recessed เป็นหนึ่งในลักษณะของโคมไฟติดเพดานที่เราอาจจะคุ้นชินกับชื่อของมันว่าโคมไฟดาวน์ไลท์ การติดตั้งจะอยู่ภายในช่องเปิดของเพดาน หลังจากติดตั้งแล้ว ตัวแสงจะสว่างออกมาจากรูภายในโคมไฟที่อยู่บนเพดาน แสงที่เกิดขึ้นจะกระจายตัวลงสู่พื้นด้านล่างเป็นมุมกว้าง หรือบางลักษณะก็ถูกออกแบบให้มีพื้นที่แสงสว่างในมุมแคบๆ ได้เช่นกัน เมื่อติดตั้งแล้วเราจะมองเห็นแค่ส่วนของโครงอะลูมิเนียมที่แนบติดไปกับเพดาน ส่วนที่เหลือจะถูกฝังเอาไว้ด้านใน ปกปิดด้วยฝ้าเพดาน ทำให้ห้องดูเป็นระเบียบและไม่รกตา
หลักๆ ในการเลือกซื้อคือส่วนประกอบที่เป็นอลูมิเนียมด้านนอกที่เรามองเห็น และส่วนที่อยู่ด้านในเป็นกล่องเก็บสายไฟและเป็นตัวเชื่อมต่อกับแผ่นอลูมิเนียมด้านนอก หากจำเป็นต้องเลือกซื้อแยกชิ้นกันมา ควรเลือกชิ้นส่วนที่สามารถสวมเข้ากันได้อย่างพอดี เพราะขนาดของแต่ละอันจะมีความแตกต่างกันออกไป หากไม่มั่นใจในการเลือกซื้อ คุณจำเป็นต้องถามผู้เชี่ยวชาญ หรือพนักงานขายให้มั่นใจเสียก่อน
ทำไมจึงต้องเลือกโคมไฟติดเพดานแบบ Recessed ?
คำตอบแบบง่ายๆ ว่าทำไมคุณควรเลือกให้มันถูกใช้เป็นแสงสว่างตกแต่งภายในบ้าน นั่นก็เป็นเพราะว่าแสงไฟจาก Recessed จะช่วยสร้างความเปล่งประกายให้กับบ้านของคุณ แถมความสว่างไสวที่มาพร้อมความทันสมัย ดูมีเสน่ห์จนแทบไม่จำเป็นต้องจัดแสงภายในบ้านให้ยุ่งยากเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการช่วยส่องสว่างทุกๆ มุมห้องได้อย่างสมบูรณ์แบบ การใช้มันเป็นตัวช่วยสร้างจุดเด่นให้กับส่วนต่างๆ ของบ้านที่ต้องการด้วยลักษณะของไฟแบบ Spotlight หรือจะใช้เป็นไฟตกแต่งที่เน้นกระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกก็ได้
ขนาดของโคมไฟติดเพดานแบบฝัง Recessed แบบไหนที่ควรนำมาใช้งาน ?
ด้วยขนาดของโคมไฟติดเพดานชนิดนี้ที่มีให้เลือกมากมายในท้องตลาด ดังนั้นสิ่งที่คุณจำเป็นต้องคำนึงถึงให้มากที่สุดคือระดับความสว่างที่ต้องการภายในห้อง ในอดีตตามหลักมาตรฐานในการใช้งานที่เป็นที่นิยมสำหรับบ้านพักอาศัยมักจะเลือกซื้อขนาดของโคมไฟที่เข้ากันได้พอดีกับช่องบนฝ้าเพดานขนาด 6 นิ้ว ซึ่งเป็นมาตรฐานการติดตั้งในยุคนั้นๆ แต่ในสมัยใหม่จะนิยมใช้ขนาด 3-4 นิ้วเป็นหลัก เพื่อช่วยลดขนาดการเจาะช่องเพดานให้เล็กลง อย่างไรก็ตามขนาดของมันที่เล็กลงไม่ใช่องค์ประกอบเดียวที่จะบอกได้ว่าโคมไฟดังกล่าวมีประสิทธิภาพการใช้งานได้ดี แต่จะต้องดูความสามารถในการส่องสว่างร่วมกับตัวอลูมิเนียมด้านนอกที่ติดตั้งกับหลอดไฟ ดังนั้นสิ่งสำคัญคือการวัดขนาดอัตราส่วนของห้องให้มีความสัมพันธ์กับขนาดของโคมไฟด้วย เพื่อให้ความสว่างกระจายตัวได้ทั่วทั้งห้องอย่างเพียงพอ
คำศัพท์ที่ควรรู้สำหรับการเลือกซื้อโคมไฟติดเพดานแบบฝัง RECESSED
1.ช่องติดตั้ง APERTURE - คือส่วนของรูหรือโพรงด้านบนเพดานที่เป็นพื้นที่ติดตั้งโคมไฟ
2.HOUSING - คือส่วนที่เป็นกระเปาะป้องกันอุปกรณ์ต่างๆ ที่เป็นไฟฟ้าให้ถูกเก็บอยู่ด้านใน ซ่อนไว้ด้านในผนังหรือฝ้าเพดาน
3. ค่า IC - คือค่า "พิกัดการตัดกระแสลัดวงจร" มีชื่อเรียกว่า Interrupting Capacity เป็นระดับความสามารถในการตัดกระแสไฟฟ้าเมื่อเกิดไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งควรถูกติดตั้งร่วมกับโคมไฟติดเพดานและโคมไฟติดผนังทุกชนิด
4.TRIM - ส่วนประกอบด้านนอกของโคมไฟติดเพดานแบบฝัง แม่พิมพ์ที่ถูกออกแบบขึ้นมาติดอยู่กับส่วนที่เรียกว่า HOUSING มีขนาดสัมพันธ์กับช่องโหว่ของเพดาน เป็นตัวช่วยปกปิดช่องดังกล่าวให้ดูเรียบหรูสวยงามมากขึ้น
นอกจากส่วนประกอบต่างๆ ที่จะเป็นตัวช่วยให้เราเลือกซื้อโคมไฟฝังเพดานที่เหมาะสมแล้ว หลอดไฟที่ใช้ส่องสว่าง ทางที่ดีควรเลือกเป็นแบบ LED ที่แม้จะมีราคาแพง ทว่าสิ่งที่เราได้กลับมาคือพลังงานไฟฟ้าที่แสนประหยัด แถมอายุการใช้งานยาวนาน มีความปลอดภัย ความร้อนต่ำ และที่สำคัญทำให้บ้านดูทันสมัย เข้ากันกับโคมไฟแบบ Recessed ได้เป็นอย่างดีทีเดียว