การมิกซ์วัสดุที่มีลักษณะแวววาวที่ให้ความรู้สึกเหมือน "เหล็ก" หรือการผสมผสานวัสดุรวมกับเหล็กจริง ซึ่งสีสันที่ออกมาจะมีความมันเงา สะท้อนแสงแวววาว และให้สไตล์การตกแต่งบ้านที่ดูแปลกตาไปจากเดิม เป็นอีกหนึ่งรูปแบบที่อาจจะไม่ค่อยคุ้นหูคุ้นตาเท่าใดนัก เพราะการมิกซ์แอนด์แมทซ์เฟอร์นิเจอร์เข้าด้วยกันจากวัสดุเหล่านี้ เหมือนจะเป็นเรื่องยากอยู่พอสมควร แถมรายละเอียดในการจัดแต่งโคมไฟและแสงสว่างที่ใช้เป็นส่วนประกอบภายในห้องต่างๆ ให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ สร้างบรรยากาศที่ดูน่าสนใจกลายเป็นสิ่งที่มือใหม่ไม่กล้าแหวกแนวออกมา
แต่การตกแต่งด้วยเหล่าโคมไฟที่ผลิตจากวัสดุลักษณะใกล้เคียงกับเหล็กเพื่อให้สัมพันธ์กับสไตล์ของเฟอร์นิเจอร์ ทำให้ภายนอกที่มองเห็นโดดเด่นน่าสนใจด้วยความแวววาวที่ไม่เหมือนใคร พร้อมๆ กับแสงสว่างที่นุ่มละมุน แน่นอนว่าแม้มันจะดูเป็นเรื่องยาก แต่หากได้ลองพยายามเดินออกจากกรอบของการดีไซน์แบบเดิมๆ สู่ความแปลกตาเช่นนี้ รับรองว่าโคมไฟแต่งบ้านที่ทำจากวัสดุเหล็กจะเป็นชิ้นงานศิลปะที่ดึงดูดสายตา สร้างความหรูหราให้บ้านมีเสน่ห์ในแบบที่คาดไม่ถึงกันเลยทีเดียว
2 เคล็ดลับที่จะช่วยให้การแต่งบ้านด้วยเหล็กสวยสมบูรณ์แบบไม่ต้องใช้เวลานาน
เคล็ดลับที่ 1 "ถ้าไม่เหมือนกัน ให้ใช้ความใกล้เคียง"
เคล็ดลับแรกที่ควรคำนึงถึงสำหรับการเลือกซื้อโคมไฟตกแต่งให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์เหล็ก คือการทำความเข้าใจลักษณะของวัสดุดังกล่าวก่อนว่าคุณสมบัติที่เห็นภายนอกนั้นเป็นอย่างไร การเลือกซื้อโคมไฟจึงไม่จำเป็นต้อง "เหมือน" ตรงกันแบบเป๊ะๆ ก็ได้ แต่สามารถเลือกเป็นแบบใกล้เคียง ซึ่งมีจุดหลักๆ ก็คือ
1.สี - เป็นพื้นฐานหลัก เช่น สีทอง, สีทองเหลือง, สีบรอนซ์ หรือ สีเงิน เป็นต้น โดยเลือกสีที่มีความเกี่ยวข้องกันให้มากที่สุด
2.ภาพรวมของโทนสี - โทนหรือเฉดสีคือการปรับความสว่างหรือความมืดของสี ซึ่งสามารถปรับเปลี่ยนไปตามความต้องการหรือทำให้เป็นสีเฉพาะก็ได้ ซึ่งทำให้สายตาของเรามองเห็นบ้านนั้นดูสว่าง อบอุ่น หรือดูมืด ลึกลับก็ได้
3.ความน่าดึงดูด - เลือกพื้นผิวที่ดูมีเสน่ห์น่าสนใจ รวมไปถึงสไตล์การออกแบบที่แปลกตาของโคมไฟไม่ให้ดูซ้ำซากจำเจ พื้นผิวของเหล็กที่นำมาใช้ทำเป็นโคมไฟมีหลากหลายเกรด ทั้งพื้นผิวแวววาวแบบเรียบๆ หรือจะเป็นแบบเนื้อโลหะตกแต่งลวดลายแบบต่างๆ หากเป็นแบบมันวาว มักจะให้ความสว่างมากกว่าแบบอลูมิเนียมที่มักจะไม่ค่อยมีการสะท้อนของรีเฟล็กซ์ แต่เน้นออกไปทางเนื้อสีด้านๆ มากกว่า
เคล็ดลับที่ 2 พิจารณาสไตล์ของห้องก่อนติดตั้งโคมไฟ
ขนาดของห้องต่างๆ ภายในบ้านมีผลกับการเลือกโคมไฟจากวัสดุเหล็ก โดยหลักๆ พื้นที่ห้องแต่ละห้องจึงไม่ควรใช้โคมไฟในสไตล์เดียวกันทั้้งหมด โดยดูลักษณะการใช้งานของห้องหลักๆ ภายในบ้าน ดังนี้
1.ห้องอาบน้ำ - เป็นห้องแรกที่เราควรนึกถึงการมิกซ์โคมไฟโลหะที่เข้ากันกับอุปกรณ์เกี่ยวกับการใช้น้ำ ห้องอาบน้ำมักจะเป็นห้องที่มีพื้้นที่จำกัดกว่าห้องอื่นๆ การเลือกโคมไฟตกแต่งที่ดี จึงควรเลือกเป็นขนาดที่ไม่โดดเด่นจนเกินไป เลือกคุมโทนให้อยู่ในแนวเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นสีหรือรูปทรง เช่นการติดตั้งโคมไฟระย้าแบบเชิงเทียนด้วยวัสดุทองเหลือง ไม่เน้นความแวววาวมากเกินไป แถมยังทำให้ห้องดูปลอดโปร่งและสะอาดตาน่าใช้งานเป็นอย่างมาก
2.ห้องครัว - การตกแต่งแสงสว่างให้กับห้องครัวควรเลือกให้ดูมีมิติมากกว่าจะเน้นแสงสว่างจ้าเพียงอย่างเดียว เหล่าวัสดุโลหะหรือเหล็กต่างๆ ที่ถูกออกแบบให้เป็นโคมไฟแต่งบ้าน ลองจับสีสันต่างๆ เข้าด้วยกัน อย่ากลัวการผสมผสานสีต่างๆ เข้าด้วยกัน อย่างการเลือกโคมไฟทองเหลืองเป็นองค์ประกอบที่ทำให้ห้องครัวดูหรูหรา หรือจะเลือกเป็นโทนสีทองที่ทำให้ดูสวยงามนุ่มนวลไปอีกแบบ
3.ห้องนั่งเล่น - เป็นพื้นที่ๆ ควรสร้างความประทับใจให้กับแขกที่เข้ามาเยี่ยมเยียน เป็นห้องที่ควรให้ความรู้สึกผ่อนคลาย สะดวกสบายในการอยู่อาศัย ดังนั้นลองเลือกใช้เป็นโคมไฟสีทอง, สีเงิน และทองแดง เน้นความมันเงาแบบเรียบๆ ของโคมไฟโลหะ เพื่อช่วยให้ห้องดูปลอดโปร่งไม่รกตา
4.ห้องนอน - ห้องนอนคือสถานที่พักผ่อนที่ให้ความเป็นส่วนตัวสูง เป็นห้องสำคัญประจำบ้านอีกห้องหนึ่งที่ควรเลือกใช้โคมไฟที่สร้างความรู้สึกผ่อนคลาย อบอุ่น และไม่มีรีเฟล็กซ์จากโลหะที่เป็นวัสดุโคมภายนอกมากเกินไป ผสมผสานด้วยโทนสีที่เน้นให้ความอบอุ่น เช่น ทองเหลือง และทองแดง เคลือบผิวให้มีความด้านเพื่อลดการสะท้อนแสง ทำให้ห้องนอนดูนุ่มนวล ไม่สว่างจ้าจนทำลายการนอนหลับพักผ่อน
แนวทางเหล่านี้จะช่วยให้บ้านของคุณดูดีได้อย่างไม่น่าเชื่อ ที่สำคัญอย่ากลัวที่จะเริ่มต้นผสมผสานสีสันต่างๆ เข้าด้วยกัน เพียงแค่เข้าใจคุณสมบัติของโคมไฟที่ทำจากวัสดุโลหะ ซึ่งก็คือความแวววาวที่สะท้อนออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัดเป็นพิเศษ ซึ่งตกแต่งให้ถูกจุด เลือกโทนสีให้เข้ากันกับตัวห้อง ก็เพิ่มความเปล่งประกายระหว่างโคมไฟและแสงสว่างกันให้สมดุลได้ไม่ยาก