ห้องนั่งเล่นสไตล์วินเทจที่มีกลิ่นอายย้อนยุคชวนฝันน่าจะเป็นสไตล์ในฝันของใครหลายคน แต่การเลือกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นสำคัญอย่าง โซฟารับแขก มาเติมเต็มห้องให้ลงตัวอาจไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะโซฟาวินเทจ ที่เป็นของโบราณขนานแท้นั้นมักมีราคาสูงมาก สำหรับใครที่มีงบจำกัด แล้วกำลังมองหา โซฟาสวยๆ ตัวโปรดให้กับห้องนั่งเล่นสไตล์วินเทจ เราก็มีเทคนิคดีๆ ในการเลือกและตกแต่งโซฟาในราคาประหยัดมาฝากกัน รับรองว่าเป็นมิตรต่อกระเป๋าตังกว่าเดิมแน่นอน
10 เทคนิคเลือกและตกแต่ง โซฟาวินเทจ แบบประหยัด
1. เข้าใจความเป็นวินเทจ
สไตล์วินเทจ (Vintage) หรือสไตล์ย้อนยุค เป็นการตกแต่งที่อิงตามรูปแบบที่เป็นที่นิยมในยุคสมัยต่างๆ โดยไม่ได้จำกัดเฉพาะยุคใดยุคหนึ่ง ตัวอย่างเช่น สไตล์ Victorian ที่นุ่มนวลอ่อนหวาน, Art Deco ที่เน้นความหรูหราอลังการ หรือ Mid-Century ที่มีความชิคเก๋และร่วมสมัย ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความวินเทจที่มีเอกลักษณ์แตกต่างกันไป ดังนั้น จึงต้องดูว่าเราหยิบยกสไตล์ของยุคไหนมาเป็น Ref ในการตกแต่งบ้าน แล้วจึงเลือกซื้อ โซฟารับแขก ที่แมทช์กับสไตล์ดังกล่าว
2. เลือกชุดสีแบบวินเทจ
หนึ่งในเทคนิคง่ายๆ ก็คือเราอาจเลือกซื้อโซฟาที่มีรูปลักษณ์เรียบๆ ธรรมดา สามารถหาซื้อได้ง่าย แต่มาในโทนสีที่สะท้อนความเป็นวินเทจ ยกตัวอย่างเช่น สีเหลืองมัสตาร์ด สีเขียวมะกอก สีชมพูอมเทา และสีสดใสในโทนหม่นนิดๆ เช่น สีฟ้าหม่น หรือม่วงอมน้ำตาล ซึ่งเป็นที่นิยมในช่วงหลายทศวรรษก่อนหน้านี้ หรือจะเลือก โซฟาสวยๆ ที่มาในลวดลายแบบวินเทจ เช่น ลายลูกไม้ ลายตาราง หรือลาย Paisley ก็ได้เช่นเดียวกัน
3. เลือกวัสดุและพื้นผิว
วัสดุที่สะท้อนความเป็นวินเทจได้ดีย่อมได้แก่โซฟาผ้านานาชนิด ไม่ว่าจะเป็นผ้าสักหลาด ผ้าทวีด ผ้ากำมะหยี่ ผ้าลินิน ไปจนถึงผ้าฝ้ายที่มีริ้วขรุขระหรือมีผิวสัมผัสไม่เรียบ ซึ่งผ้าแต่ละชนิดก็มีคาแรคเตอร์ที่แตกต่างกัน รวมถึงมีราคาและการดูแลรักษาที่ต่างกันด้วย เราจึงสามารถเลือกชนิดวัสดุที่เหมาะสมได้ โดยพิจารณาจากไลฟสไตล์ การใช้งาน ความสะดวกในการดูแล ตลอดจนงบประมาณที่ตั้งไว้
4. ดีไซน์และรูปทรง
ดีไซน์ของโซฟาที่พรีเซ้นท์ความเป็นวินเทจได้ดี ได้แก่ โซฟาที่มีเส้นโค้ง มีฉลุลวดลาย หรือมีดีเทลที่สื่อถึงความเก่าแก่อยู่ในองค์ประกอบต่างๆ อย่างโครงโซฟาไม้มีลวดลายสลัก ขาโซฟาที่โค้งเว้า พนักพิงและที่วางแขนที่มีความอ่อนช้อย นอกจากนี้ โซฟาในลักษณะเดย์เบด เลิฟซีท และตั่งหรือเก้าอี้ยาว (Setee) ก็เป็นรูปแบบ โซฟาวินเทจ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และยังเหมาะกับพื้นที่ที่มีขนาดเล็กด้วย
5. เลือกของเก่าหรือของมือสอง
การเลือกของเก่าหรือสินค้ามือสองเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่อาจช่วยให้เราเจอตัวเลือกดีๆ ได้ในราคาย่อมเยาว์ โดยเราอาจมองหาร้านค้าเฟอร์นิเจอร์เก่า ตลาดของมือสอง หรือตลาดออนไลน์ที่น่าเชื่อถือ ทั้งนี้ โซฟามือสองบางตัวอาจมีร่องรอยตำหนิหรือเสื่อมสภาพตามความเก่าแก่ ซึ่งเราก็สามารถซ่อมแซมให้กลับมามีสภาพสวยงามได้ เช่น การเปลี่ยนเบาะรอง หุ้มเบาะใหม่ หรือทาสีใหม่ และไม่แน่ว่าหากดวงดี เราก็อาจเจอ โซฟาวินเทจ ที่เป็นของโบราณแท้ๆ จากตลาดมือสองในราคาที่เอื้อมถึงด้วย
6. ตกแต่งแบบชิคๆ
การตกแต่งห้องให้ได้กลิ่นอายย้อนยุค ไม่ใช่แค่การเลือกเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่ให้ได้ดีไซน์ตรงตามธีมเท่านั้น แต่การเลือกของตกแต่งชิ้นเล็กชิ้นน้อยที่ได้แรงบันดาลใจมาจากสไตล์วินเทจ ก็เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่ใช้ได้ผลดีเหมือนกัน ตัวอย่างเช่น ผ้าคลุมโซฟาแสนอบอุ่น หมอนอิงที่มีสีและลวดลายแบบวินเทจ ไปจนถึงองค์ประกอบข้างเคียง อย่างโต๊ะกลาง โต๊ะข้าง และพรมปูพื้น ซึ่งไอเทมสิ่งละอันพันละน้อยเหล่านี้จะช่วยเติมเต็มดีไซน์ให้ห้องนั่งเล่นของเราดูลงตัวยิ่งขึ้น
7. Mix & Match มุม โซฟารับแขก
การตกแต่งแบบวินเทจไม่จำเป็นต้องใช้ของเก่าแก่โบราณไปเสียทั้งหมด อย่ากลัวที่จะผสมผสานของใหม่ที่มีดีไซน์ทันสมัยเข้ากับข้าวของวินเทจที่ให้อารมณ์เก่าแก่ย้อนยุค เช่น เราสามารถแมทช์โซฟารูปทรงดั้งเดิมหรือดีไซน์เรียบๆ เข้ากับภาพเขียนเก่า หรือแจกันโบราณ ให้ดูเก๋ไก๋และให้บรรยากาศที่ชวนรำลึกถึงอดีตได้เช่นกัน
8. DIY ให้เข้ากับสไตล์วินเทจ
สำหรับใครที่มีฝีมือด้านงานช่างหรือการประดิดประดอย ก็สามารถเปลี่ยนโซฟาตัวเดิมที่ดูเรียบง่ายธรรมดาให้กลายเป็น โซฟาวินเทจ เก๋ๆ ได้เชนกัน เช่น การเปลี่ยนผ้าคลุมโซฟาให้มีสีสันและลวดลายแบบย้อนยุค การทาสีโครงและขาโซฟาใหม่ หรือการตกแต่งขอบเบาะรองนั่งด้วยดิ้นหรือผ้าลูกไม้ ซึ่งวิธีเหล่านี้ย่อมช่วยเซฟค่าใช้จ่ายได้มากกว่าการซื้อโซฟาตัวใหม่ที่มีดีไซน์แบบวินเทจตามต้องการ
9. สัดส่วนและการจัดวาง
การจัดแต่งห้องสไตล์วินเทจ มักเน้นบรรยากาศที่ดูอบอุ่น เชื้อเชิญ และสนิทชิดเชื้อ โซฟาที่เราเลือกจึงควรมีขนาดที่ได้สัดส่วนพอเหมาะกับพื้นที่ โดยหลีกเลี่ยงโซฟาที่ขนาดใหญ่หรือมีดีไซน์ที่เทอะทะเกินไป จนทำให้ห้องแลดูแคบและอึดอัด ในขณะเดียวกันก็ไม่ควรเลือกโซฟาที่ขนาดเล็กเกินไป ซึ่งอาจทำให้ห้องดูว่างโล่งและขาดความผสานกลมกลืมตามที่สไตล์วินเทจควรจะเป็นได้
10. จัดแสงให้ได้กลิ่นอายแบบย้อนยุค
การจัดแสงภายในพื้นที่ให้มีบรรยากาศอบอุ่นและขับเน้น nostalgic vibe เป็นอีกหนึ่งคีย์สำคัญของการแต่งห้องสไตล์วินเทจ ในมุมโซฟาจึงอาจเลือกประดับประดาด้วยโคมไฟตั้งพื้นแบบโบราณ ตะเกียงแบบวินเทจ หรือโคมระย้าที่ดูวิจิตรงดงามและสะท้อนถึงความรุ่มรวยของยุคก่อน โดยอาจเพิ่มการใช้แสงไฟในโทนอุ่นหรือแสงสลัวราง ซึ่งจะช่วยเติมกลิ่นอายเก่าแก่และชวนคิดถึงอดีตให้แก่ห้องได้
การเลือก โซฟารับแขก สำหรับห้องนั่งเล่นสไตล์ย้อนยุค ไม่จำเป็นต้องใช้ โซฟาวินเทจ ที่เป็นของโบราณราคาสูงเท่านั้น แต่ยังสามารถเลือก โซฟาสวยๆ ในราคาประหยัดมาเติมเต็มดีไซน์ให้กับห้องได้เช่นกัน ซึ่งเทคนิคที่ว่ามานี้ก็จะช่วยให้เราเลือกโซฟามาประดับห้องในสไตล์วินเทจได้อย่างลงตัว โดยที่กระเป๋าตังไม่รั่วด้วยนั่นเอง