ตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้าล หรือตู้ใต้ซิงก์ เป็นเฟอร์นิเจอร์ที่จะช่วยเพิ่มพื้นที่การจัดเก็บข้าวของภายในห้องน้ำให้ดูเป็นระเบียบเรียบร้อยและเป็นสัดเป็นส่วนยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยเติมเต็มดีไซน์ของห้องน้ำให้ดูดีมีสไตล์อย่างสมบูรณ์แบบได้อีกด้วย ซึ่งตู้ใต้อ่างล้างหน้าก็มีอยู่หลายรูปแบบ ทั้ง ตู้เก็บของไม้ ตู้อะลูมิเนียมอัลลอย ตู้เก็บของสแตนเลส ทั้งที่เป็นแบบ stand-alone และแบบ built-in ในบทความนี้เราเลยจะพาไปดูเทคนิคการเลือกตู้ใต้ซิงก์ให้เหมาะกับห้องน้ำแต่ละรูปแบบ ซึ่งจะมีอะไรบ้าง เราตามไปดูกันเลย
หลักการทั่วไปในการเลือก ตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้า
สำหรับการเลือกตู้ใต้อ่างล้างหน้าให้กับห้องน้ำแบบต่างๆ มีสิ่งที่เราต้องพิจารณาดังต่อไปนี้
- สไตล์การตกแต่งโดยรวมของห้องน้ำ เช่น สไตล์โมเดิร์น มินิมอล รัสติก หรือวินเทจ เพื่อเลือกดีไซน์ของตู้ซิงก์ที่เข้ากันได้
- คุณสมบัติของตู้ที่เหมาะกับการใช้งาน เช่น มีที่เก็บของที่มีฝาปิด ความสูงที่พอดี หรือมีราวจับในกรณีที่ผู้ใช้งานเป็นผู้สูงอายุ เป็นต้น
- ให้ความสำคัญกับวัสดุที่ทนต่อความชื้นและสามารถทำความสะอาดได้ง่าย
- คำนึงถึงการจัดแสงไฟและตำแหน่งของกระจก เพื่อให้ห้องน้ำมีความสวยงามในขณะเดียวกันก็สะดวกต่อการใช้งานด้วย
เลือก ตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้า ให้เหมาะกับห้องน้ำแต่ละรูปแบบ ทำได้อย่างไร?
ห้องน้ำแต่ละรูปแบบอาจต้องการ ตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้า ที่มีลักษณะ ดีไซน์ หรือคุณสมบัติที่แตกต่างกันไป ในที่นี้เราเลยจะมาพูดถึงเทคนิคการเลือกตู้ใต้ซิงก์ให้เหมาะกับห้องน้ำแต่ละรูปแบบ ไปดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
1. ห้องน้ำขนาดเล็ก
สำหรับห้องน้ำที่มีพื้นที่จำกัด สิ่งสำคัญก็คือการเลือกเฟอร์นิเจอร์ที่ช่วยให้เราสามารถใช้พื้นที่ทุกตารางนิ้วได้เกิดประโยชน์สูงสุด ตู้ใต้อ่างของเราจึงควรมีขนาดกะทัดรัดแต่มาพร้อมพื้นที่เก็บของที่ครบครัน และอาจรวมไปถึงฟังก์ชันอื่นๆ ที่จำเป็นด้วย โดยเทคนิคที่เราแนะนำ ได้แก่
- เน้นขนาดที่ค่อนข้างเล็กกะทัดรัด โดยอาจเลือกตู้แบบติดผนังที่มีดีไซน์เพรียวบาง เพื่อให้ห้องน้ำดูโล่งและไม่กีดขวางทางเดิน
- เลือกใช้พื้นที่จัดเก็บในแนวตั้ง โดยอาจมองหาตู้ที่สูงและแคบ หรือมีพื้นที่เก็บของด้านบนอ่างล้างหน้าอีกทีหนึ่ง รวมถึงอาจใช้ชั้นวางแบบเปิดโล่งเพื่อให้ห้องน้ำดูไม่ทึบหรือแออัด
- ควรเลือกตู้ที่มีสีอ่อนหรือสีโทนกลาง เช่น สีขาว ครีม หรือเทาอ่อน ซึ่งจะช่วยให้พื้นที่เล็กๆ ดูกว้างขวางและสว่างไสวยิ่งขึ้น
- เลือกตู้ที่มีฟังก์ชันอเนกประสงค์ เช่น ตู้ที่มาพร้อมกระจกซึ่งมีที่เก็บของในตัว เพื่อประหยัดพื้นที่ด้านล่าง
2. ห้องน้ำที่มีการแยกโซนแห้งและเปียก
สำหรับห้องน้ำที่มีการแบ่งโซนแห้งและโซนเปียกชัดเจน รวมถึงไม่มีข้อจำกัดด้านพื้นที่มากนัก การเลือกตู้ซิงก์มักทำได้ค่อนข้างง่าย โดยคำแนะนำในการเลือกและการจัดวางตู้มีดังนี้
- เลือกวัสดุที่สามารถกันความชื้นได้ดีในระดับหนึ่ง เช่น ตู้เก็บของไม้ ที่ผ่านการเคลือบและปิดผนึกกันน้ำ หรือตู้ไม้อัดชนิด MDF เป็นต้น
- ควรวางตู้ไว้ในโซนแห้ง หรือห่างจากส่วนที่ใช้อาบน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้ตู้โดนความชื้นมากเกินไป
- เน้นดีไซน์ที่สามารถระบายอากาศได้ดี เช่น ตู้แบบเปิดโล่ง หรือบานตู้ที่มีช่องให้อากาศไหลเวียน ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้ภายในตู้อับชื้นและหลีกเลี่ยงการเกิดเชื้อรา
3. ห้องน้ำที่ไม่มีการแยกโซน
สำหรับห้องน้ำที่ไม่มีการแบ่งแยกโซนแห้งและโซนเปียกออกจากกันอย่างชัดเจน มีโอกาสสูงที่ตู้ซิงก์ของเรารวมถึงสิ่งของที่เก็บไว้ข้างในจะได้รับผลกระทบจากความชื้น รวมถึงคราบสบู่และน้ำยาทำความสะอาดต่างๆ ที่กระเด็นมาใส่ เทคนิคสำคัญในการเลือกตู้ใต้อ่างล้างหน้าที่เหมาะสมจึงได้แก่
- เลือกวัสดุที่ทนต่อความชื้นและดูแลทำความสะอาดได้ง่าย เช่น ตู้เก็บของสแตนเลส เกรดกันสนิม หรือตู้อะคริลิกที่ดีไซน์แข็งแรงทนทาน
- มองหาตู้ที่มีพื้นที่จัดเก็บกว้างขวาง โดยอาจมีช่องและลิ้นชักหลายจุด เพื่อให้สามารถเก็บข้าวของเครื่องใช้ ไปจนถึงอุปกรณ์ทำความสะอาดในห้องน้ำได้
- พื้นที่เก็บของควรมีส่วนที่ปิดมิดชิดด้วย เพื่อปกป้องสิ่งของบางอย่างจากความชื้น
- ควรเลือกตู้ที่มีดีไซน์มินิมอล เรียบง่าย และใช้งานได้จริงเป็นหลัก เพื่อให้เข้ากับพื้นที่โดยรวมทั้งหมด
4. ห้องน้ำในคอนโดหรืออพาร์ตเมนต์
ห้องน้ำในคอนโดและอพาร์ตเมนต์มักมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด การเลือกเฟอร์นิเจอร์ใดๆ จึงมีหลักการคล้ายกับห้องน้ำขนาดเล็กที่เรากล่าวถึงไปแล้ว แต่นอกเหนือจากนี้ ในกรณีที่ห้องพักนั้นไม่ใช่ที่อยู่ถาวรและอาจต้องมีการโยกย้ายในภายหลัง การเลือกตู้เก็บของใต้ซิงก์จึงอาจต้องให้ความสำคัญกับความสะดวกในการเคลื่อนย้ายด้วย
- เลือกตู้ใต้ซิงก์ที่มีขนาดและรูปทรงพอดีกับพื้นที่ ซึ่งอาจเป็นตู้แบบเข้ามุมที่ประหยัดเนื้อที่มากกว่า
- มองหาตู้ที่มีหลากหลายฟังก์ชันในหนึ่งเดียว เช่น ตู้ซิงก์ที่สามารถแยกเก็บของได้หลายประเภท หรือใช้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้ด้วย
- เลือกดีไซน์และวัสดุที่กะทัดรัดและมีน้ำหนักเบา เช่น ตู้ที่ทำจากสแตนเลส อะลูมิเนียม อะคริลิก หรือไม้อัดเกรดกันน้ำ ซึ่งสามารถขนย้ายได้สะดวก
- อาจเน้นดีไซน์ของตู้ที่ดูเรียบง่ายและทันสมัย เพื่อให้เข้ากันได้กับที่อยู่อาศัยสไตล์ Urban
5. ห้องน้ำขนาดใหญ่ของครอบครัว
สำหรับห้องน้ำส่วนกลางที่มีไว้ใช้งานกันทั้งครอบครัว คีย์สำคัญของตู้ใต้อ่างล้างหน้าก็คือจะต้องมาพร้อมฟังก์ชันที่ครบครัน ทนทานต่อการใช้งาน และสามารถจัดเก็บสิ่งของจำนวนมากและหลากหลายประเภทได้ โดยไอเดียในการเลือกตู้ใต้ซิงก์ที่เราแนะนำ ได้แก่
- เน้นขนาดและความจุ โดยควรเลือกตู้ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ มีพื้นที่เพียงพอ และมาพร้อมช่องเก็บหลายรูปแบบ เช่น ลิ้นชักและชั้นวางหลายๆ ชั้น เพื่อรองรับการใช้งานของสมาชิกจำนวนมาก
- ให้ความสำคัญกับความแข็งแรงทนทาน โดยเลือกโครงสร้างของตู้ที่มั่นคง แข็งแรง สามารถรับน้ำหนักได้ดี และเลือกวัสดุคุณภาพสูงที่ทนทานต่อการใช้งาน
- ดีไซน์ของตู้ควรมีความเรียบง่าย ไม่มีรายละเอียดที่ซับซ้อนมากนัก เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานและการดูแลทำความสะอาด
- ในครอบครัวที่มีเด็กเล็ก ควรเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นหลักด้วย โดยอาจเลือกการติดตั้งตู้แบบ built-in เพื่อป้องกันการล้ม และใช้ลิ้นชักแบบ soft-close หรือเสริมตัวรองด้านในเพื่อป้องกันลิ้นชักหนีบมือ เป็นต้น
ตู้เก็บของใต้อ่างล้างหน้า นั้นมีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งเหมาะกับห้องน้ำที่มีลักษณะแตกต่างกันไป เช่น ตู้เก็บของไม้ ที่มีความแข็งแรงทนทาน หรือ ตู้เก็บของสแตนเลส ที่มีน้ำหนักเบาและดูแลรักษาง่าย ใครกำลังมองหาตู้ใต้ซิงก์ที่เหมาะกับรูปแบบห้องน้ำและการใช้งาน ก็สามารถเอาไอเดียเหล่านี้ไปปรับใช้เป็นแนวทางในการเลือกซื้อได้เลย