เคยสังเกตและลองตั้งคำถามหรือไม่ว่าทำไมทุกบ้านจะต้องมีโคมไฟด้วยทั้งที่ก็มีหลอดไฟให้แสงสว่างอยู่แล้ว ที่จริงแล้วลองสำรวจบ้านดูให้ดี ในบ้านของเรามักจะมีมุมที่แสงจากหลอดไฟส่องไปไม่ถึง บางครั้งเราก็ใช้ไฟเฉพาะจุดที่สามารถเปิดปิดได้โดยง่าย หรือบางทีเราอาจจะใช้ไฟเป็นครั้งคราว เช่น ห้องนอนที่เราจะเปิดโคมไฟในตอนที่ลุกไปเข้าห้องน้ำกลางดึก เป็นต้น นั่นจึงเป็นเหตุผลที่สำคัญที่ทำให้แต่ละบ้านจะต้องมีโคมไฟนั่นเอง ซึ่งโคมไฟที่ใช้กันนั้นก็มีหลายแบบให้เลือกตามความชอบและความเหมาะสมกับดีไซน์ของบ้านและการใช้งาน เช่น โคมไฟเพดาน โคมไฟระย้า โคมไฟห้อย โคมไฟตั้งโต๊ะ โคมไฟตั้งพื้น โคมไฟติดผนัง ทีนี้เรามาดูกันว่าโคมไฟนั้นสำคัญอย่างไรต่อบ้านเรา
โคมไฟ ไอเท็มแต่งบ้านที่มีประโยชน์มากกว่าให้แสงสว่าง
คนส่วนมากมักมองข้ามโคมไฟเมื่อกำลังจัดการสิ่งต่าง ๆ ในห้อง แม้มันเป็นสิ่งจำเป็นที่มีความสำคัญ มีพลังในเชิงบวก มีผลต่อการส้รางบรรยากาศของห้องและบ้าน สร้างความรู้สึกและช่วยในการทำกิจวัตรประจำวันประจำวัน ตั้งแต่การแต่งหน้าไปจนถึงการประกอบอาหาร โคมไฟเป็นสิ่งที่มีบทบาทเด่นในการใช้สอย
อย่างไรก็ตาม โคมไฟไม่ว่าจะเป็น โคมไฟเพดาน โคมไฟระย้า โคมไฟห้อย โคมไฟตั้งโต๊ะ โคมไฟตั้งพื้น โคมไฟติดผนัง ก็ถือเป็นของแต่งบ้านที่ช่วยทำให้บ้านดูมีดีไซน์และทันสมัย เช่น เราใช้ตะเกียงแบบบิวต์อินถูกต่อเติมด้วยโคมไฟแตกต่าง ๆ โคมไฟครอบที่ไม่เข้าชุดกันและโคมไฟที่ช่วยให้ห้องดูครึกครื้นห้องรูปแบบล้ำยุคหลาย ๆ ห้องมักจะมุ่งเน้นไปที่การใช้ดวงไฟแนวบิวต์อิน เป็นต้น ซึ่งมักพบในโครงของการแอบไฟไว้ในหลืบผ้าเป็นแถว โคมไฟแบบฝังบนราง และแม้กระทั่งไฟที่ฝังไว้ที่พื้น แต่สำหรับแบบบาร์ซาร์แล้วมักชอบการกลับไปใช้วิธีที่ง่าย ๆ มากกว่า เหมือนกันโคมไฟตั้งโต๊ะแบบปกติ โคมไฟติดผนัง โคมไฟระย้าและโคมไฟเกี่ยวกับการประดับบ้าน
ส่วนในห้องนอนของนั้นเราสามารถใช้แสงสว่างโดยทั่วไป เช่น โคมไฟตรงกึ่งกลางเพดาน โคมไฟติดผนัง ไฟซ่อน และดาวน์ไลท์สามารถให้แสงพื้นฐานได้ การสร้างสรรค์พื้นที่ภายในห้องด้วยการแต่งแต้มแสงไฟด้วยโคมไฟนอกจากจะมีประโยชน์ที่ช่วยในการส่องสว่างแล้ว แสงไฟที่สวยงามยังมีส่วนช่วยเติมเต็มให้บรรยากาศภายในห้องมีความอบอุ่นที่เหมาะกับการผ่อนคลายมากยิ่งขึ้นอีกด้วย
ข้อดีของหลอดไฟ LED ทั้งสว่างและประหยัด
- ประหยัดพลังงาน หลอดไฟ LED เป็นหลอดไฟที่ประหยัดพลังงานมากกว่าหลอดไฟประเภทอื่นๆที่มีอยู่ในตลาดทั้งหมดซึ่งจะช่วยให้ประหยัดเงินค่าไฟฟ้าได้ตั้งแต่ 15-90% แล้วแต่ชนิดของหลอดเดิม
- มีอายุการใช้งานนาน มีอายุการใช้งานที่ยาวนานกว่าหลอดไฟแบบเดิมที่ต้องมีการเปลี่ยนใหม่บ่อยๆ เพราะความร้อนของหลอดมีมากกว่า ทำให้อายุการใช้งานจึงสั้นกว่า ฉะนั้น LED จึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า
- ออกแบบทิศทางของแสงได้ ควบคุมการกระจายแสงได้ หลอดไฟ LED ถูกออกแบบมาให้สามารถควบคุมทิศทางการกระจายแสงได้ตามที่ต้องการ โดยไม่เกิดความสูญเสียแสงสว่างไปจากหลอดในทิศทางอื่นดังนั้นคุณสามารถใช้แสงสว่างทั้งหมดที่ได้หลอดไฟ LED แบบเต็มเต็มได้เลย
- ทนต่อแรงกระแทก สั่นสะเทือน หลอด LED มีความทนทานต่อการสั่นสะเทือนมากกว่าหลอดไฟทั่วๆไป ไม่เปราะบางเหมือนหลอดไส้หรือหลอดฟลูออเรสเซนต์และยังทนต่อการสั่นสะเทือนได้อีกด้วย เช่น ลิฟต์ที่ติดตั้งในอาคารจะติดไฟประเภท LED เพราะลิฟต์นั้นจะมีอาการสั่นและเคลื่อนที่อยู่ตลอดเวลา
- ไม่มีแสง UV เพราะรังสี UV จากหลอดไฟฟ้านั้น หากได้รับอย่างต่อเนื่องจะเป็นอันตรายกับร่างกายได้ โดยเฉพาะจากหลอดฟลูออเรสเซนต์ แต่สำหรับหลอดไฟ LED ไม่มีการแผ่กระจายหรือสร้างรังสี UV ออกมาแต่อย่างใด
- หลอดไฟ LED สามารถช่วยลดความร้อนที่เกิดขึ้นที่ตัวหลอดและสูญเสียไปโดยเปล่าประโยชน์
- แสงที่ได้ไม่กะพริบ หลอดไฟฟูออเรสเซนต์แบบเดิมนั้นจะมีการกระพริบของแสงที่ความถี่ของการกะพริบ 50 Hz.พนักงานประมาณ 10-30% มีปฏิกิริยากับการกระพริบของแสงเหล่านี้ โดยอาการที่เกิดเช่น อาการปวดหัว ปวดตา หลอด LED สามารถแสดงผลการกระพริบได้ถี่มากกว่า 400 Hz โดยประมาณ ซึ่งก็เป็นความถี่เกินกว่าที่สายตาจะรับรู้ได้ ทำให้รู้สึกสบายสายตา
นี่ก็เป็นความสำคัญของโคมไฟ รวมไปถึงหลอดไฟ LED ที่สามารถนำมาใช้ในบ้าน ซึ่งโคมไฟที่เราใช้อาจเลือกใช้เป็นหลอดไฟ LED ให้แสงสว่างก็ได้ ส่วนโคมไฟทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็น โคมไฟเพดาน โคมไฟระย้า โคมไฟห้อย โคมไฟตั้งโต๊ะ โคมไฟตั้งพื้น โคมไฟติดผนัง ล้วนให้ประโยชน์และคุณค่าด้านการตกแต่งทั้งสิ้น อยู่ที่เจ้าของบ้านนั่นเองที่จะเลือกใช้แบบไหนให้ตรงตามที่ใจต้องการ