เมื่อพูดถึง “บ้านที่น่าอยู่” ความหมายอาจแตกต่างกันไปในแต่ละคน ไม่ว่าจะเป็น บ้านที่แม้จะเล็กแต่ก็มีครอบครัวพร้อมหน้า หรือบ้านที่อยู่แล้วเงียบสงบ เพื่อนบ้านดีมีแต่ความสบายใจ หรือบ้านที่มีแต่ของสะสมแสนรักแสนหวง หรือบ้านหลังใหญ่ ๆ ราคาแพงกลางย่านเศรษฐกิจสุดหรู คมนาคมสะดวก เป็นต้น แต่สำหรับคนรักบ้านสายรักความสะอาด ชื่นชอบความเป็นระเบียบเรียบร้อยแล้วนั้น บ้านที่น่าอยู่ น่ามอง และน่าพึงพอใจทุกครั้งที่ได้ใช้เวลาพักผ่อน คือบ้านที่เต็มไปด้วย ตู้เก็บของ มีการจัดวางข้าวของอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่วางเกะกะรกรุงรังให้รกสายตา แสดงให้เห็นถึงการดูและเอาใจใส่อย่างดีของเจ้าของบ้าน ซึ่งการที่จะจัดเก็บหรือจัดวางข้าวของต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบเข้าที่เข้าทางอย่างชัดเจน ตู้เก็บของ คือไอเทมสำคัญที่จำเป็นมาก ๆ เลยนั่นเอง โดย ตู้เก็บของ ก็มีรูปแบบที่แตกต่างกันไป มีหลายขนาด หลายดีไซน์ แล้วแต่ความชอบและความต้องการของเจ้าของบ้าน และสำหรับใครที่สนใจอยากจะจัดบ้านให้โล่งโปร่ง ไม่รกหูรกตา มองไปทางไหนก็มีแต่ความเป็นระเบียบ ลองตามไปดูชนิดของตู้สำหรับใส่ของต่าง ๆ ที่น่าสนใจกัน เพื่อจะได้เลือกได้ถูกว่าแบบไหนเหมาะกับความต้องการของคุณ
ตู้เก็บของ แบบเตี้ย ช่วยเพิ่มพื้นที่เก็บของแบบจัดเต็ม มาพร้อมสารพัดประโยชน์
มาเริ่มต้นกันที่ ตู้เก็บของ แบบเตี้ย ซึ่งเป็นประเภทสุดเบสิกของ ตู้เก็บของ ที่มักจะมีความสูงไม่มากนัก มีทั้งแบบลอยตัวซื้อมาประกอบแล้ววางได้เลยหรือแบบบิ้วอินเป็น ตู้เก็บของติดผนัง โดยเฉลี่ยแล้วจะอยู่ที่ประมาณไม่เกินช่วงหน้าอกของผู้ใช้งาน ในส่วนของความกว้างก็แล้วแต่ดีไซน์และความต้องการของผู้ใช้งานได้เลย ระดับของความแข็งแรงทนทานของ ตู้เก็บของ ขึ้นอยู่กับวัสดุและคุณภาพของการผลิตแต่ละแบรนด์ มีตั้งแต่ ไม้แท้, ไม้เทียม, พลาสติก, โลหะ เป็นต้น ในส่วนของดีไซน์การใช้งานส่วนมากแล้วจะมีทั้งแบบที่แบ่งออกเป็นลิ้นชักเป็นชั้น ๆ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในการจัดเก็บข้าวของต่าง ๆ และช่วยในการแบ่งหมวดหมู่ข้าวของได้ง่ายมากขึ้น ว่าจะเก็บของอะไรรวมอยู่ในลิ้นชักเดียวกันกับของใช้อะไร เช่น เก็บเสื้อผ้าที่ไม่จำเป็นของแขวนไม้แขวนเสื้อและสามารถพับเก็บได้ก็อาจจะแบ่งแต่ชั้นของ ตู้เก็บของ เป็นชั้นของถุงเท้า ชุดชั้นใน กางเกง ชุดนอน หรือเสื้อยืด เป็นต้น เอกสารสำคัญ ของกระจุกกระจิก ฯลฯ และมีแบบที่เป็นบานพับเปิดปิดหรือแบบบานสไลด์ซ้ายขวา เช่น ตู้เก็บของ สำหรับวางทีวีไว้ด้านบนแล้วตัวตู้เอาไว้เก็บของเล็ก ๆ น้อย ๆ หรือเอาไว้วางโชว์ของตกแต่ง หรือ ตู้เก็บของ ในครัวที่เรียกว่า ตู้เคาน์เตอร์ครัว ไว้สำหรับเก็บของใช้ในครัวเรือน เป็นต้น
ตู้เก็บของ แบบเตี้ยนี้มีความอเนกประสงค์และความอรรถประโยชน์สูง เพราะสามารถประยุกต์ไปใช้ได้ในหลาย ๆ จุดของบ้าน ไม่ว่าคุณจะตกแต่งห้องนั่งเล่น ห้องทำงาน ห้องนอน ห้องโถง ห้องของเด็ก ๆ ก็ตอบโจทย์ครบ จบทุกความต้องการเรื่องการจัดเก็บสิ่งของต่าง ๆ ในพ้นสายตาและเป็นระเบียบไม่รกรุงรัง เป็นไอเทมที่ช่วยคอมพลีทลุคของห้อง นอกจากนี้ยังสามารถหาของตกแต่งต่าง ๆ เช่น โคมไฟ แจกันดอกไม้ กรอบรูป หรืออื่น ๆ มาจัดวางบนหลัง ตู้เก็บของ แบบเตี้ย เพื่อเพิ่มสไตล์ให้กับห้องก็ยังได้อีกด้วย เรียกว่า ตู้เก็บของ แบบเตี้ย เป็นไอเทมสามัญที่จำเป็นต่อบ้านหรือที่พักอาศัยจริง ๆ แต่อยากให้ระวังในเรื่องการจัดวางของบนหลังตู้สักหน่อย เพราะหากวางมากไปหรือวางแบบไม่มีการวางแผน นึกอยากจะเอาอะไรวางพักไว้ก็วางจนลืมก็อาจทำให้ห้องดูรกและไร้ระเบียบไปเลยก็ได้
ตู้เก็บของทรงสูง เก็บของมิดชิด แนบสนิทไปกับผนัง แถมยังช่วยประหยัดพื้นที่บ้าน
อีกหนึ่งดีไซน์ของ ตู้เก็บของ ยอดนิยมในกลุ่มคนรักบ้านรุ่นใหม่ ๆ ก็คือ ตู้เก็บของทรงสูง ซึ่งจะมีลักษณะไม่กว้างมากเพื่อประหยัดพื้นที่ในการติดตั้งแต่จะมีความสูงเกินระดับสายตาขึ้นจนถึงจรดเพดาน มีทั้งแบบเฟอร์นิเจอร์ลอยตัว และเฟอร์นิเจอร์แบบบิ้วอินเป็น ตู้เก็บของติดผนัง ที่ต้องใช้ช่างมาวัดขนาดพื้นที่และติดตั้งแบบถาวรเช่นกันกับ ตู้เก็บของ แบบเตี้ย ตู้เก็บของทรงสูง สามารถเลือกดีไซน์หรือออกแบบมาให้ลงตัวกับภาพรวมสไตล์การตกแต่งของห้องได้ เพราะเป็นเฟอร์นิเจอร์จัดเก็บของที่ต้องแนบสนิทไปกับผนังและต้องไม่กินพื้นที่ จึงควรกลมกลืนไปกับห้องไม่โดดเด่นหรือสะดุดตาจนเกินไป แล้วทำหน้าที่ในการเก็บสิ่งของต่าง ๆ ที่นิยมเลยก็คือ ทำเป็นตู้สำหรับเก็บรองเท้าของคอนโดที่มีพื้นที่จำกัด หรือทำเป็นตู้สำหรับใส่ของใช้ต่าง ๆ ภายในห้องน้ำ หรือจะเป็นตู่สำหรับจัดเก็บเอกสารสำคัญต่าง ๆ ของออฟฟิศ วัสดุก็มีหลากหลายแบบขึ้นอยู่กับว่าจะนำไปติดตั้งสำหรับใช้งานที่บริเวณใดของบ้าน ถ้าหากวางในจุดที่แห้งและเย็นก็สามารถเลือกเป็นไม้ พลาสติกได้ แต่ถ้าหากวางไว้ในจุดที่ต้องโดนความชื้นบ่อย ๆ เช่น ห้องน้ำ หรือนอกอาคาร ก็ควรเลือกวัสดุที่ไม่บวมน้ำ ทนร้อนทนฝนทนชื่นและทนต่อแมลงต่าง ๆ ตู้จะได้ใช้งานได้นาน ๆ ในส่วนของดีไซน์และฟังก์ชันส่วนใหญ่แล้วมักจะถูกออกแบบเป็นบานเปิดปิดหรือบานสไลด์เพื่อให้สะดวกสบายต่อการใช้งาน ตู้ทรงสูงมักจะไม่ค่อยถูกเปิดใช้งานบ่อยเท่ากับทรงเตี้ยที่มักจะเก็บของที่ต้องหยิบออกมาใช้งานบ่อย ๆ มากกว่า แต่ตู้ทรงสูงจะเอาไว้เก็บของที่นาน ๆ ใช้ทีหรือไว้สำหรับเก็บของสำรองต่าง ๆ ไปจนถึงทำเป็นตู้โชว์ของสะสม ของแบรนด์เนม เป็นต้น
ปัจจุบันนี้ ตู้เก็บของ มีให้เลือกหลายหลายรูปแบบ ขึ้นอยู่กับความต้องการในการนำไปใช้งาน เช่นตู้ทรงเตี้ยก็จะหาซื้อง่ายเพราะราคาไม่แพงมากและมีหลายแบบหลายสีสันลายลวดลาย เหมาะสำหรับจัดเก็บของต่าง ๆ ให้เป็นระเบียบแบบง่าย ๆ หรืออย่าง ตู้เก็บของทรงสูง ขนาดไม่กว้างมากแต่เน้นความสูงเพื่อเพิ่มพื้นที่จัดเก็บในแนวตั้ง ซึ่งเหมาะกับห้องหรือบ้านที่มีพื้นที่จำกัดแต่ต้องการหาไอเทมจัดระเบียบห้องให้ดูสะอาด โล่งโปร่งแบบไม่กินพื้นที่มากนัก หรือจะเป็น ตู้เก็บของติดผนัง แบบลอยตัวติดไว้เหนือศีรษะสำหรับจัดเก็บของที่ไม่ค่อยได้ใช้งานเช่น ยาสามัญประจำบ้าน ตุนของใช้ ทั้งนี้สามารถเลือกผสมผสานตู้หลาย ๆ แบบไว้ในบ้าน หรือห้องได้ตามต้องการเพื่อเพิ่มสไตล์ให้ห้องดูไม่น่าเบื่อและเป็นระเบียบนั่นเอง