ในยุคที่พื้นที่อยู่อาศัยมีจำกัดและการออกแบบภายในบ้านเน้นความโปร่งโล่ง ตู้เก็บของ แบบ Floating หรือแบบลอยตัวกำลังได้รับความนิยมอย่างมากในวงการ Interior Design ของไทย ตู้เก็บของประเภทนี้ไม่เพียงแต่ตอบโจทย์ด้านประโยชน์ใช้สอยเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างมิติให้กับห้อง ทำให้พื้นที่ดูกว้างขวางและทันสมัยมากขึ้น บทความนี้จะพาคุณไปสำรวจเทรนด์การออกแบบตู้เก็บของแบบลอยตัว ประโยชน์ที่ได้รับ รวมถึงเคล็ดลับการเลือกและติดตั้งเพื่อให้เข้ากับสไตล์การตกแต่งบ้านของคุณ
ทำไมตู้เก็บของแบบ Floating ถึงเป็นที่นิยม
สร้างภาพลวงตาให้พื้นที่ดูกว้างขึ้น
หนึ่งในข้อดีที่โดดเด่นที่สุดของตู้เก็บของแบบลอยตัวคือความสามารถในการสร้างภาพลวงตาให้ห้องดูกว้างขวางมากขึ้น เมื่อเฟอร์นิเจอร์ไม่สัมผัสพื้น สายตาจะมองเห็นพื้นที่ต่อเนื่องไปได้ไกลกว่า ทำให้ห้องดูใหญ่กว่าที่เป็นจริง นี่เป็นเทคนิคที่ Home Stylist มืออาชีพนิยมใช้ในการออกแบบห้องขนาดเล็ก โดยเฉพาะในคอนโดมิเนียมหรืออพาร์ตเมนต์ที่มีพื้นที่จำกัด
จากการสำรวจของนิตยสาร Interior Design Thailand พบว่า การใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัวสามารถเพิ่มการรับรู้เรื่องพื้นที่ได้ถึง 30% โดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงขนาดห้องจริง
ง่ายต่อการทำความสะอาด
อีกประโยชน์ที่มักถูกมองข้ามของตู้เก็บของแบบ Floating คือความสะดวกในการทำความสะอาด เมื่อตู้ลอยจากพื้น คุณสามารถทำความสะอาดใต้เฟอร์นิเจอร์ได้อย่างง่ายดาย ไม่มีฝุ่นสะสมในซอกมุมที่ยากต่อการเข้าถึง ซึ่งเป็นข้อดีสำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องภูมิแพ้หรือต้องการรักษาความสะอาดในบ้านอย่างสม่ำเสมอ
เพิ่มความทันสมัยให้กับการตกแต่ง
ตู้เก็บของแบบลอยตัวมอบลุคที่ทันสมัยและเรียบหรูให้กับห้อง ด้วยรูปแบบที่ดูเบาและมินิมอล จึงเข้ากับแนวคิดการออกแบบร่วมสมัยได้อย่างลงตัว นักออกแบบ Interior Design ชั้นนำของไทยหลายคนเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้เพื่อสร้างจุดเด่นและความน่าสนใจให้กับพื้นที่
ประเภทของตู้เก็บของแบบ Floating ที่นิยมในไทย
ตู้ทีวีแบบลอยตัว
ตู้ทีวีแบบลอยตัวเป็นหนึ่งในประเภทของตู้เก็บของแบบ Floating ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในบ้านไทย นอกจากจะเป็นที่วางทีวีแล้ว ยังมีช่องเก็บของสำหรับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ เช่น กล่องรับสัญญาณ เครื่องเล่นเกม หรือลำโพง การติดตั้งตู้ทีวีแบบลอยตัวไม่เพียงช่วยประหยัดพื้นที่ แต่ยังช่วยซ่อนสายไฟให้เป็นระเบียบอีกด้วย
ชั้นวางหนังสือแบบลอยตัว
ชั้นวางหนังสือแบบลอยตัวเป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ที่ต้องการจัดเก็บและแสดงหนังสือ รูปภาพ หรือของสะสมโดยไม่ต้องใช้พื้นที่มาก Home Stylist มักแนะนำให้ติดตั้งชั้นวางในระดับสายตาหรือสูงกว่าเล็กน้อยเพื่อสร้างจุดสนใจและใช้ประโยชน์จากพื้นที่ผนังที่มักถูกปล่อยว่าง
ตู้เก็บของในห้องน้ำแบบลอยตัว
ห้องน้ำเป็นอีกพื้นที่ที่ตู้เก็บของแบบลอยตัวได้รับความนิยมอย่างมาก เนื่องจากช่วยให้ห้องน้ำดูกว้างขึ้นและป้องกันความเสียหายจากน้ำที่อาจกระเด็นมาที่พื้น ตู้อ่างล้างหน้าแบบลอยตัวกำลังเป็นที่นิยมในการออกแบบ Interior Design ของห้องน้ำสมัยใหม่ในไทย
เคล็ดลับการเลือกตู้เก็บของแบบ Floating ให้เหมาะกับบ้านคุณ
คำนึงถึงน้ำหนักและความแข็งแรง
เมื่อเลือกตู้เก็บของแบบลอยตัว สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องคำนึงถึงน้ำหนักที่ตู้จะรับได้และความแข็งแรงของผนังที่จะติดตั้ง ผนังอิฐหรือคอนกรีตจะรับน้ำหนักได้ดีกว่าผนังยิปซัม ควรปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญเพื่อประเมินความเหมาะสมก่อนการติดตั้ง
ตามข้อมูลจากสมาคมสถาปนิกสยาม ผนังอิฐมาตรฐานสามารถรับน้ำหนักได้ประมาณ 50-70 กิโลกรัมต่อตารางเมตร ขึ้นอยู่กับวิธีการติดตั้งและอุปกรณ์ยึด
เลือกวัสดุที่เหมาะกับการใช้งาน
วัสดุของตู้เก็บของมีผลต่อทั้งความสวยงามและความทนทาน สำหรับห้องนั่งเล่นหรือห้องนอน ไม้อัด ไม้ MDF หรือไม้จริงเป็นตัวเลือกยอดนิยม ในขณะที่ห้องน้ำหรือห้องครัวควรเลือกวัสดุที่ทนความชื้น เช่น ไม้เทียมกันน้ำหรือวัสดุสังเคราะห์ที่ออกแบบมาเฉพาะ
สร้างความสมดุลในการจัดวาง
Home Stylist มืออาชีพแนะนำให้คำนึงถึงความสมดุลในการจัดวางตู้เก็บของแบบลอยตัว ไม่ควรติดตั้งในตำแหน่งที่สูงเกินไปหรือต่ำเกินไป โดยทั่วไปความสูงที่เหมาะสมคือประมาณ 75-90 เซนติเมตรจากพื้น และควรจัดวางให้สมมาตรหรือสร้างจังหวะที่น่าสนใจบนผนัง
เทคนิคการติดตั้งตู้เก็บของแบบ Floating ให้ปลอดภัย
เลือกอุปกรณ์ยึดที่เหมาะสม
การเลือกอุปกรณ์ยึดที่มีคุณภาพเป็นสิ่งสำคัญมากสำหรับการติดตั้งตู้เก็บของแบบลอยตัว ควรเลือกใช้รางแขวนหรือขอแขวนที่ออกแบบมาเฉพาะสำหรับเฟอร์นิเจอร์ประเภทนี้ และต้องมั่นใจว่าสามารถรับน้ำหนักได้มากกว่าน้ำหนักของตู้และสิ่งของที่จะเก็บในตู้
ตรวจสอบโครงสร้างผนัง
ก่อนติดตั้ง ควรตรวจสอบโครงสร้างของผนังเพื่อหาตำแหน่งของโครงเคร่าไม้หรือเหล็กที่จะช่วยรับน้ำหนักได้ดี การใช้เครื่องตรวจจับโครงเคร่า (Stud Finder) จะช่วยให้หาตำแหน่งที่เหมาะสมได้ง่ายขึ้น หากเป็นผนังยิปซัม อาจต้องใช้พุกยิปซัมพิเศษหรือเสริมโครงสร้างเพิ่มเติม
ขอความช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญ
แม้ว่าการติดตั้งตู้เก็บของแบบลอยตัวอาจดูเหมือนงานง่าย แต่การติดตั้งที่ไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่อุบัติเหตุร้ายแรงได้ หากไม่มั่นใจ ควรขอความช่วยเหลือจากช่างผู้เชี่ยวชาญหรือบริษัท Interior Design ที่มีประสบการณ์ การลงทุนกับการติดตั้งที่ปลอดภัยคุ้มค่ากว่าการเสี่ยงกับความเสียหายที่อาจเกิดขึ้น
การผสมผสานตู้เก็บของแบบ Floating กับสไตล์การตกแต่งต่างๆ
สไตล์มินิมอล
ตู้เก็บของแบบลอยตัวเข้ากับสไตล์มินิมอลได้อย่างลงตัว ด้วยรูปทรงเรียบง่าย เส้นสายที่สะอาดตา และการเน้นประโยชน์ใช้สอย เลือกตู้ที่มีสีขาว สีเทา หรือสีธรรมชาติ หลีกเลี่ยงการตกแต่งที่ฟุ่มเฟือย และเน้นพื้นผิวที่เรียบเนียน
สไตล์สแกนดิเนเวียน
สไตล์สแกนดิเนเวียนให้ความสำคัญกับความโปร่งโล่งและความอบอุ่น ตู้เก็บของแบบลอยตัวที่ทำจากไม้สีอ่อนหรือไม้สีธรรมชาติจะช่วยเสริมบรรยากาศแบบนอร์ดิก ผสมผสานกับผ้าทอธรรมชาติและพืชสีเขียวเพื่อสร้างความสมดุล
สไตล์โมเดิร์นลักซ์ชัวรี่
สำหรับบ้านที่ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์นลักซ์ชัวรี่ เลือกตู้เก็บของแบบลอยตัวที่มีวัสดุหรูหรา เช่น ไม้วีเนียร์คุณภาพสูง กระจกเงา หรือพื้นผิวเคลือบเงา เพิ่มรายละเอียดด้วยมือจับที่ออกแบบพิเศษหรือไฟ LED ซ่อนใต้ตู้เพื่อสร้างบรรยากาศหรูหรา
นวัตกรรมล่าสุดของตู้เก็บของแบบ Floating
ระบบเปิดปิดอัตโนมัติ
เทคโนโลยีล่าสุดสำหรับตู้เก็บของแบบลอยตัวคือระบบเปิดปิดอัตโนมัติ ที่ช่วยให้คุณเปิดตู้ได้ด้วยการสัมผัสเบาๆ หรือแม้แต่การสั่งงานด้วยเสียง ระบบนี้ไม่เพียงเพิ่มความสะดวกสบาย แต่ยังช่วยรักษาความสะอาดของพื้นผิวตู้โดยไม่ต้องสัมผัสโดยตรง
ตู้เก็บของอัจฉริยะ
ตู้เก็บของอัจฉริยะกำลังเป็นเทรนด์ใหม่ในวงการ Interior Design ตู้เหล่านี้อาจมาพร้อมกับระบบไฟส่องสว่างอัตโนมัติ ระบบควบคุมอุณหภูมิสำหรับเก็บของเฉพาะ หรือแม้แต่ระบบเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฮมเพื่อแจ้งเตือนเมื่อของใกล้หมด
วัสดุรักษ์โลก
ความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมกำลังส่งผลต่อการออกแบบตู้เก็บของแบบลอยตัวเช่นกัน ผู้ผลิตหลายรายหันมาใช้ไม้รีไซเคิล วัสดุทดแทนไม้ หรือวัสดุที่ย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ นอกจากนี้ สีและกาวที่ใช้ก็เป็นประเภทที่มีสารระเหยต่ำเพื่อรักษาคุณภาพอากาศภายในบ้าน
ยกระดับบ้านของคุณด้วยตู้เก็บของแบบ Floating
ตู้เก็บของแบบ Floating ไม่ใช่เพียงเทรนด์การออกแบบชั่วคราว แต่เป็นทางเลือกที่ชาญฉลาดสำหรับการใช้พื้นที่อย่างมีประสิทธิภาพและสร้างสรรค์ ด้วยความสามารถในการทำให้ห้องดูกว้างขึ้น ความสะดวกในการทำความสะอาด และความทันสมัยที่เข้ากับหลากหลายสไตล์การตกแต่ง ตู้เก็บของแบบลอยตัวจึงเป็นองค์ประกอบสำคัญในการออกแบบ Interior Design ยุคใหม่
ไม่ว่าคุณจะอาศัยอยู่ในคอนโดขนาดเล็กหรือบ้านหลังใหญ่ การเลือกใช้ตู้เก็บของแบบ Floating อย่างชาญฉลาดจะช่วยเพิ่มทั้งประโยชน์ใช้สอยและความสวยงามให้กับพื้นที่ของคุณ พร้อมกับสร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน