หลักการเลือก เก้าอี้ทานข้าว สำหรับเด็กเล็ก รู้ไหมต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง

หลักการเลือก เก้าอี้ทานข้าว สำหรับเด็ก

1.ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ

เด็กเล็กยังไม่สามารถนั่งเองได้มั่นคงเหมือนกับผู้ใหญ่ อีกทั้งเจ้าตัวเล็กยังอาจนั่งไม่นิ่ง ชอบขยับตัวไปมาระหว่างกินอาหาร เก้าอี้ทานข้าว ที่เรามองหาจึงควรมีตัวล็อคที่มั่นคง หรือเลือกเก้าอี้ที่มีเข็มขัดนิรภัย 5 จุด เพื่อป้องกันเด็กพลิกตัวตกจากที่นั่ง โดยเฉพาะถ้าเป็นเก้าอี้สูงแบบ high chair ที่เด็กอาจตกลงมาได้รับบาดเจ็บได้ นอกจากนี้ เก้าอี้ยังควรมีโครงสร้างที่แข็งแรง ทนทาน เพื่อให้สามารถรับน้ำหนักเด็กโตได้ด้วย

2.ความมั่นคงของเก้าอี้

เด็กๆ มักชอบขยับตัวหรือโยกตัวไปมาในขณะกินข้าว เก้าอี้กินข้าวสำหรับเด็กจึงควรมีตัวฐานที่กว้างและมั่นคง เพื่อให้ไม่เอียงล้มหรือหงายหลังแม้เด็กๆ จะโยกตัวแรงๆ รวมถึงพื้นผิวด้านล่างขาเก้าอี้ก็ควรมีแผ่นกันลื่น ที่ช่วยป้องกันไม่ให้เก้าอี้เลื่อนไปมาในขณะใช้งานด้วย

3.ความสูงและการปรับระดับ

การเลือกความสูงของเก้าอี้อาจขึ้นอยู่กับไลฟสไตล์การทานอาหารของแต่ละบ้าน เช่น หากเรารับประทานบนโต๊ะอาหาร ก็ควรเลือกเก้าอี้กินข้าวแบบ high chair ให้กับลูกน้อย แต่หากเรานั่งทานอาหารบนพื้นหรือใช้โต๊ะอาหารตัวเตี้ย ก็สามารถเลือก เก้าอี้ทานข้าว ตัวเตี้ยให้เด็กๆ ได้เช่นกัน

ทั้งนี้ ท่านั่งทานอาหารที่เหมาะสมสำหรับเด็กคือเท้าทั้งสองควรแตะบนพื้นหรือแผ่นรองเท้าได้พอดี ดังนั้น เราจึงอาจเลือกเก้าอี้ที่สามารถปรับระดับความสูงหรือปรับตำแหน่งแผ่นรองเท้าได้ เพื่อให้เข้ากับโต๊ะอาหารและเหมาะสมกับความสูงของเด็กแต่ละช่วงวัย

4.พนักพิงและที่นั่ง

สิ่งสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่จะละเลยไม่ได้ก็คือลักษณะของเก้าอี้กินข้าว โดยเก้าอี้สำหรับเด็กจะต้องมีพนักพิงด้านหลังที่ช่วยพยุงหลังให้ตรงในขณะทานอาหาร เพื่อป้องกันการสำลัก รวมถึงต้องมีที่นั่งที่รองรับก้นเด็กได้พอดี ไม่ใหญ่เกินไปจนเสี่ยงต่อการพลิกตก และไม่เล็กเกินไปจนนั่งแล้วอึดอัด

สำหรับใครที่กลัวว่าลูกน้อยจะนั่งกินอาหารแล้วรู้สึกไม่สบาย ก็สามารถเลือก เก้าอี้ทานข้าว ที่มีเบาะรองนุ่มนิ่มได้ แต่ทั้งนี้ต้องระมัดระวังไม่เลือกเบาะที่นุ่มและยวบเกินไป หรือนั่งแล้วก้นจมลงไปในเบาะ เพราะอาจทำให้เด็กพลิกตัวในขณะนั่ง แถมยังเสี่ยงต่อการสำลักหรือเกิดอาหารติดคอได้ด้วย

5. วัสดุที่ปลอดภัยและทำความสะอาดง่าย

แน่นอนว่าสำหรับอุปกรณ์ของใช้ของเด็กเล็กแล้ว ความปลอดภัยย่อมเป็นเรื่องสำคัญที่สุด เก้าอี้กินข้าวของลูกน้อยจึงต้องทำมาจากวัสดุที่ปลอดภัยและไม่มีผลกระทบต่อสุขภาพ เช่น เลือกไฟเบอร์กลาสหรือพลาสติกชนิด food grade ที่ปลอดสาร BPS (BPA free) หรือไม้ที่เคลือบด้วยสารที่ไม่เป็นพิษ

นอกจากนี้ วัสดุที่เราเลือกใช้ก็ควรเน้นที่ดูแลทำความสะอาดง่าย เนื่องจากการกินอาหารเลอะเทอะนั้นเป็นของคู่กันสำหรับเด็กเล็ก คุณพ่อคุณแม่จึงควรเลือกเก้าอี้ที่สามารถล้างทำความสะอาดได้บ่อยๆ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องเชื้อราหรือการเกิดสนิม รวมถึงหลีกเลี่ยงดีไซน์เก้าอี้ที่มีซอกหลืบสะสมฝุ่นและคราบสกปรกด้วย

6.ขนาดและดีไซน์ที่เหมาะสมกับวัย

เก้าอี้ทานข้าว ควรมีขนาดที่เหมาะสมกับร่างกาย เพื่อให้เด็กสามารถนั่งได้โดยไม่อึดอัด รวมถึงเข็มขัดนิรภัยก็ควรสามารถปรับระดับให้พอดีได้เช่นกัน

ดีไซน์ของเก้าอี้ควรเน้นไปที่ความปลอดภัยและสะดวกในการใช้งานเป็นหลัก โดยจะต้องไม่มีขอบมุมแหลมคม ไม่มีชิ้นส่วนที่เด็กสามารถถอดออกได้เอง รวมถึงไม่มีส่วนที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก นอกจากนี้ การเลือกเก้าอี้ที่มีดีไซน์น่ารัก สีสันสดใส หรือเป็นสีที่เด็กๆ ชื่นชอบ ก็อาจช่วยเพิ่มความสนุกในการรับประทานอาหารได้เช่นกัน

7.ความสะดวกในการเคลื่อนย้ายและเก็บรักษา

เก้าอี้กินข้าวที่เราเลือกไม่ควรมีน้ำหนักที่มากเกินไปเพราะอาจกลายเป็นอุปสรรคในการเคลื่อนย้ายและจัดเก็บ ในขณะเดียวกัน หากเราต้องการประหยัดเนื้อที่ในการเก็บ หรืออยากได้เก้าอี้ที่สามารถพกพาไปทานข้าวนอกบ้านได้ เก้าอี้กินข้าวเด็กแบบพับได้ หรือแบบที่สามารถวางซ้อนและล็อคติดบนเก้าอี้ผู้ใหญ่ได้ ก็เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน

เราจะเห็นว่าหลักการโดยรวมในการเลือก เก้าอี้ทานข้าว สำหรับเด็กเล็กตั้งแต่วัย 6 เดือนขึ้นไป ก็คือความปลอดภัย ความมั่นคง ไปจนถึงดีไซน์ที่สะดวกต่อการใช้งานและง่ายต่อการทำความสะอาดเป็นหลัก ใครที่มีเก้าอี้รุ่นไหนอยู่ในใจแล้ว ก็ลองเปรียบเทียบดูกันว่าตรงตามหลักการที่ว่ามาหรือเปล่า คุณพ่อคุณแม่จะได้เลือกเก้าอี้กินข้าวที่ตรงใจและเหมาะกับการใช้งานของลูกน้อยได้มากที่สุด