การตกแต่งภายในบ้านด้วยระบบไฟ แสงสว่างสามารถติดตั้งได้จากหลายจุด เช่น ผนังหรือเพดานและโคมไฟที่ตกแต่งประดับบ้านก็มีหลายประเภท ซึ่งนอกจากจะให้บรรยากาศของความสว่างแล้วยังเติมเต็มความสวยงามได้ทุกพื้นที่ เช่น โคมไฟเพดานแบบแชนเดอเลียร์หรือโคมระย้า ที่ดูเหมือนจะเป็นของตกแต่งที่เน้นความหรูหรา ซึ่งเมื่อก่อนมีราคาค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับโคมดีไซน์อื่น ๆ แต่ปัจจุบันมีการออกแบบที่หลากหลาย และเหมาะกับการตกแต่งบ้านได้หลากสไตล์ เช่น บริเวณโต๊ะอาหาร ห้องรับแขก โดยมีหลอดไฟ มาเป็นตัวเสริมในเรื่องแสง สี เพิ่มความระยิบระยับ ได้เป็นอย่างดี ดังรายละเอียดที่จะแนะนำต่อไปนี้
แนวคิดในการเลือกโคมไฟเพดานและแชนเดอเลียร์ให้เหมาะสมกับสไตล์การแต่งบ้าน
การตกแต่งบ้านด้วยโคมระย้าหรือแชนเดอเลียร์ ก็คือลักษณะของโคมไฟที่ติดตั้งด้วยการแขวนบนเพดาน ในอดีตเมื่อพูดถึงโคมไฟเพดานแบบแชนเดอเลียร์ ก็จะนึกถึงความหรูหรา ร่ำรวยซึ่งมักจะเห็นตามบ้าน คฤหาสน์ โรงแรมหรือสถานที่ใหญ่โตโอ่โถง แต่ในปัจจุบันนี้ ดีไซน์ของโคมไฟระย้าเรียกว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย และทำขึ้นมาจากหลายวัตถุดิบ หลายรูปแบบ สำหรับแชนเดอเลียร์ รูปแบบใหม่ ๆ ก็เช่น โคมไฟแชนเดอเลียร์ แบบโมเดิร์น ที่ใช้หลอดไฟ LED โดยสามารถเลือกแบบที่เหมาะสมกับการตกแต่งบ้านได้หลายสไตล์ เช่น โคมไฟแชนเดอเลียร์แบบคอมเทมโพรารีสำหรับบ้านที่ตกแต่งภายในแบบร่วมสมัย ซึ่งการออกแบบตัวโคมจะมีการผสมผสานของวัสดุที่ใช้ทำ นอกจากแก้ว คริสตัลแล้วก็มักจะใช้ กระดาษสา เหล็กโครเมียม ทองเหลือง มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งให้มีมิติที่แปลกใหม่ ส่วนโครงสร้างรูปทรงโดยรวมก็เน้นความร่วมสมัยแบบเรียบหรูดูดี ไม่เน้นลวดลายซับซ้อนเท่ากับงานดั้งเดิม กิ่งก้านอาจใช้เป็นโลหะ หรือวัสดุธรรมชาติ เช่น ไม้ นิยมแขวนในห้องโถงรับแขกเพดานสูง เพื่อตกแต่งและให้บรรยากาศของแสงที่นุ่มนวล อบอุ่น
แชนเดอร์เลียร์สมัยใหม่หรือโมเดิร์นจะเน้นดีไซน์ที่เรียบง่าย แปลกใหม่ แตกต่างจากแชนเดอเลียร์เลียแบบดั้งเดิมอย่างสิ้นเชิงเพราะจะไม่ใช้แก้วคริสตัลมาเป็นวัสดุในการตกแต่งแต่เน้นความสวยงามของดวงโคมน้อยชิ้นเน้นรูปทรงเรขาคณิต ไม่โค้งมนมากนัก รวมถึงวัสดุอื่น ๆ ที่มาผสมผสานกันขึ้นอยู่กับแต่ละดีไซน์ เช่น เรซิ่น เหล็ก อลูมิเนียม เชือก และด้วยรูปทรงที่เรียบง่าย อีกทั้งมีขนาดเล็กทำให้บางคนรู้สึกว่าดูแข็งเกินไป ไม่นุ่มนวล จึงเหมาะกับการตกแต่งภายในบ้านรวมทั้งคอนโดสไตล์โมเดิร์น เช่น บริเวณโต๊ะอาหาร เคาน์เตอร์ห้องครัว หรือห้องนอน
สำหรับโคมไฟระย้าแบบดั้งเดิมหรือแบบคลาสสิกที่มีมายาวนานตั้งแต่โบราณและยังคงได้รับความนิยมอยู่เสมอ ก็จะมีจุดเด่นอยู่ตรงความสวยงาม หรูหราอลังการของงานดีไซน์ซึ่งจะสังเกตได้ว่ามักจะทำเป็นชั้นหลายชั้น และมีขนาดค่อนข้างใหญ่องค์ประกอบของวัสดุคือแก้วคริสตัลกับกระจกที่เมื่อถึงเวลากลางคืนก็จะส่องประกายระยิบระยับ รับกับแสงไฟมักจะให้ตกแต่งภายในบ้านขนาดใหญ่ที่มีเพดานสูงไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ห้องโถงกลางของบ้าน ห้องรับแขก ห้องอาหาร เป็นต้น
ความสำคัญของหลอดไฟและแชนเดอเลียร์กับการแต่งบ้านเพื่อบรรยากาศสวยงาม
โคมไฟเพดานและโคมไฟแชนเดอเลียร์ทุกวันนี้ไม่เพียงแต่ได้รับการออกแบบมาเพื่อความสวยงามแต่ยังเพิ่มเติมความทันสมัย ความสะดวกสบายเข้าไปหลาย ๆ อย่างเพื่อการใช้งานภายในบ้าน เช่น หลอดไฟ ของโคมไฟแชนเดอเลียร์ ในรูปแบบของหลอด LED ซึ่งมีการพัฒนาขึ้นมาแทนหลอดไส้ เพื่อการประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่าย อีกทั้งสามารถควบคุมความสว่างของแสงไฟได้ด้วยสวิทช์หรี่ไฟหรืออาจจะเลือกใช้การควบคุมด้วยสวิทช์ไร้สายในแบบรีโมทคอนโทรลก็มีให้เลือกใช้เช่นกัน หลักการทำงานคือ ควบคุม เปิด-ปิด หลอดไฟ ในชุดของแชนเดอเลียร์โดยแบ่งเป็นเซท แทนการเปิดพร้อมกันทั้งหมด เข่น แยกตามจำนวนชั้นของตัวโคม หรือจากวงนอกเข้าไปด้านใน หรืออื่น ๆ นอกเหนือจากนี้ขึ้นอยู่กับลักษณะโครงสร้างและการออกแบบนั่นเอง
นอกจากแชนเดอร์เลียแล้ว หลอดไฟที่ติดตั้งบนเพดานชนิดอื่น ๆ ก็นำมาใช้ตกแต่งร่วมกันในบางจุด เพื่อเพิ่มความสว่างและความสวยงามได้ ซึ่งเทคนิคการติดตั้งระบบแสงสว่างเพดานบ้านยุคนี้ก็มีหลายวิธีให้เลือกตามความเหมาะสมของการตกแต่งรวมถึงระยะความสูงระหว่างพื้นถึงเพดาน กับวัสดุฝ้าเพดานที่ใช้ เช่น ระบบไฟรางในห้องนั่งเล่นเพื่อเป็นจุดให้แสงสว่างเพิ่ม บริเวณใดบริเวณหนึ่ง ไฟดาวไลท์แบบซ่อนเพดานในห้องครัว เพื่อส่องแสงสว่างขณะประกอบอาหารเหล่านี้ เป็นต้น
ทั้งหมดนี้ก็คืออีกหนึ่งความน่าสนใจของโคมไฟแชนเดอร์เลีย หรือโคมระย้า สำหรับตกแต่งบ้านที่มีภาพลักษณ์ในเรื่องของความหรูหราราคาแพงมาตั้งแต่สมัยโบราณ แต่ปัจจุบันพัฒนาการของโคมไฟประเภทนี้ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย และก็ยังคงความมีเสน่ห์เฉพาะตัว เหมาะกับการตกแต่งเพื่อความสวยงามโดยเฉพาะห้องรับแขก ห้องอาหาร ห้องโถงที่มีเพดานสูง รวมถึงการตกแต่งร่วมกับโคมไฟเพดาน และที่สำคัญคือการใช้ หลอดไฟ ซึ่งถึงแม้ว่า แชนเดอร์เลียส่วนใหญ่จะต้องใช้หลายดวงแต่ก็มีหลอด LED ที่ช่วยประหยัดไฟ ประหยัดพลังงานได้อย่างดี