แม้ว่าความทันยุคทันสมัยเป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ปรารถนา แต่ก็ยังมีคนรักบ้านอีกหลายคนที่หลงใหลในสไตล์สุดคลาสสิกของดีไซน์ย้อนยุคแบบวินเทจ ได้อารมณ์เหมือนนั่งไทม์แมชชีนย้อนกลับไปอยู่ในยุคสมัยก่อนราว ๆ สักปี 1970 – 1980 ซึ่งการแต่งบ้านสไตล์วินเทจหรือสไตล์ย้อนยุค คือ การผสมผสานกันระหว่างความคลาสสิกของรูปแบบดีไซน์ในยุคสมัยเก่าก่อนที่ถูกนำมาจัดวางให้ลงตัวกับรูปแบบของบ้านยุคปัจจุบัน สามารถแต่งให้สื่อได้ทั้งความเก๋ชิค ดูเท่มีสไตล์ หรือจะแต่งให้ได้อารมณ์หวานนุ่มนวลละมุนละไมแบบย้อนยุคก็ทำได้เช่นกัน ซึ่งการตกแต่งภายในส่วนใหญ่เน้นการตกแต่งด้วยลวดลายคลาสสิก ๆ มีความอ่อนช้อย อย่างเช่น ลายกราฟิกต่าง ๆ ลายดอกไม้ ลายตาราง แต่งผนังด้วยลายอิฐหรือไม้ เฟอร์นิเจอร์ที่เข้ากับสไตล์นี้ก็จะทำจากวัสดุไม้หรือโลหะเป็นส่วนใหญ่แต่จะเน้นรูปทรงและดีไซน์แบบสมัยก่อนมากกว่า นอกจากนี้บ้านสไตล์วินเทจเองก็จะมีเอกลักษณ์โดดเด่นชัดเจนอีกอย่างคือในเรื่องสีสันหลัก ๆ มักจะเป็นสีอ่อนไม่ฉูดฉาดแต่มอบความหรูหราในแบบพอดี ๆ ซึ่งสีที่นิยมของสไตล์นี้ก็อย่างเช่น สีขาว สีครีม สีเหลือง สีน้ำตาล ให้ความรู้สึกอบอุ่นแบบร่วมสมัย หรือถ้าจะตกแต่งด้วยสีสดใสก็จะใช้เฉดที่อ่อนลงมาไม่จัดจ้านจนเกินไป เรามาดูกันว่าการเติมความวินเทจให้กับบ้านนั้นสามารถทำได้อย่างไรบ้าง
ตกแต่งภายในเติมกลิ่นอายย้อนยุค
เริ่มต้นกันที่การตกแต่งภายในด้วยเฟอร์นิเจอร์สไตล์วินเทจให้เข้ากับส่วนต่าง ๆ ของบ้าน ซึ่งหลัก ๆ แล้วเฟอร์นิเจอร์ที่ตอบโจทย์และตรงกับสไตล์วินเทจจะทำจากวัสดุไม้ โลหะหรือผ้าเป็นส่วนใหญ่ รูปทรงหรือดีไซน์การออกแบบก็จะไม่ได้เป็นแบบเรียบง่ายดูมินิมอล หรือเป็นทรงเลขาคณิตซะทีเดียว แต่จะมีความโค้งเว้า โค้งงอน ประณีตสวยงามในทุกรายละเอียด อย่างการแต่งห้องรับแขกก็อาจจะจัดวางพวกโซฟาหรืออาร์มแชร์เดี่ยว ๆ ที่บุด้วยผ้ากำมะหยี่ลายดอกไม้สีอ่อน ๆ หรือถ้าไม่ชอบลวดลายมากจนเกินไปก็ให้ใช้โซฟาหนังสีเรียบ ๆ แล้วตกแต่งเพิ่มเติมด้วยหมอนอิงลายวินเทจมีผ้าระบายลูกไม้ล้อมรอบแทน โต๊ะไม้อ่านหนังสือดีไซน์อ่อนช้อยทำด้วยไม้ที่บางครั้งอาจจะมีร่องรอยถลอกแบบตั้งใจเพื่อให้ดูเก่าและย้อนยุคสมใจ สำหรับโต๊ะกาแฟก็เปลี่ยนเป็นหีบไม้ทรงสี่เหลี่ยมหรือใช้กระเป๋าเดินทางแบบโบราณใบใหญ่ ๆ วางแจกันดอกไม้ปิดท้ายก็จะได้โต๊ะกาแฟที่ดูเก๋ไม่ซ้ำใคร
ในส่วนของโซนรับประทานอาหารหรือห้องกินข้าว ถ้าอยากจะแต่งให้ย้อนยุคก็อาจจะเปลี่ยนไปใช้โต๊ะกินข้าวทำจากไม้สีเข้มแล้วคลุมด้วยผ้าปูโต๊ะลวดลายวินเทจ เช่น ลายดอกไม้ ลายตาราง ลายกราฟิก หรือจะเปิดเผยโชว์ให้เห็นลวดลายตามธรรมชาติของเนื้อไม้ไปเลยก็ได้ แล้วค่อยตกแต่งเพิ่มเติมด้วยจานชามแก้วที่วาดลวดลายโบราณ วางตู้เก็บจานหรือตู้เก็บของทำจากไม้ก็จะช่วยเสริมภาพลักษณ์ของสไตล์นี้ หรือจะเปลี่ยนห้องครัวให้ดูย้อนยุคได้แบบง่าย ๆ ด้วยการผสมผสานเครื่องครัวอุปกรณ์ครัวที่ทันสมัยกับการตกแต่งภายในสไตล์วินเทจ อาทิ เปลี่ยนพื้นเคาน์เตอร์ครัวหรือโต๊ะสำหรับเตรียมอาหารให้กลายเป็นพื้นไม้หรือทำจากไม้ทั้งหมด ทาสีให้ดูเก่า ติดราวเหล็กหรือไม้สำหรับแขวนอุปกรณ์ครัว วางแจกันต้นไม้ตามชั้นวางของ เป็นต้น
สำหรับสาว ๆ ที่หลงใหลกลิ่นอายแห่งอดีต ต้องไม่พลาดการเติมความคลาสสิกอ่อนหวานให้กับห้องนอนด้วยเตียงนอนโครงไม้หรือโครงเหล็กดัดดีไซน์โค้งมน แต่งวอลเปเปอร์ลายดอกไม้บนผนังด้านใดด้านหนึ่ง หรือจะโชว์ฝีมือลงมือวาดลวดลายหมู่มวลดอกไม้อ่อนช้อยในแบบของตัวเองลงบนผนังฝั่งหัวนอนก็จะได้ห้องสไตล์วินเทจที่เป็นเอกลักษณ์ไม่ซ้ำแบบใคร เพิ่มเฟอร์นิเจอร์ดีไซน์วินเทจอย่าง ตู้เสื้อผ้าลิ้นชักที่ทำจากไม้หรือโต๊ะเครื่องแบบวินเทจสักชิ้น อย่าลืมคัดสรรโทนสีอ่อน ๆ ให้ดูนุ่มนวลสบายตาเท่านี้ก็คอมพลีทแล้ว
มาถึงส่วนของห้องน้ำกันบ้าง ลองตกแต่งภายในห้องน้ำด้วยอ่างล้างหน้ารูปทรงโบราณ หรืออ่างอาบน้ำย้อนยุคแบบมีขาตั้งสลักลวดลายสไตล์วินเทจ โคมไฟทำจากโลหะ หรือจะอาศัยแสงจากภายนอกแล้วใช้เทียนไขจุดเพิ่มความสว่างในห้องน้ำแทนระบบไฟฟ้าในบางครั้งก็น่าจะช่วยเพิ่มบรรยากาศโรแมนติก สงบและผ่อนคลายราวกับการอาบน้ำท่ามกลางแสงจันทร์ในยุคสมัยก่อนได้อย่างดีเลยทีเดียว
แต่งห้องเก๋ด้วยของตกแต่งสไตล์วินเทจ
ของประดับตกแต่งก็ถือเป็นอีกจุดเด่นของสไตล์นี้ ถ้าบ้านใครมีพื้นที่ไม่ได้มากพอ ก็อาจจะเติมความวินเทจให้บ้านด้วยพร็อพเสริมต่าง ๆ แทน ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพกรอบไม้แบบโบราณ นาฬิกาติดผนังแบบอะนาล็อกวาดลวดลายวินเทจ กรงนกทำด้วยเหล็กดัด แจกันดอกไม้ที่ทำจากสังกะสีรูปทรงเหมือนเหยือกน้ำ หรือถังตักน้ำใบเล็ก ๆ วางตกแต่ง ก็จะยิ่งขับเน้นให้ความเป็นวินเทจชัดเจนมากยิ่งขึ้นแบบง่าย ๆ สังเกตได้ว่าสไตล์นี้จะไม่ค่อยนิยมใช้สีเข้มทึบอย่างสีโทนดำ ดังนั้นแต่ถ้าแต่งด้วยพร็อพเสริมต่าง ๆ ไปแล้วดูหวานหรือเลี่ยนจนเกินไปแนะนำให้เบรกด้วยเฟอร์นิเจอร์สีกลาง ๆ อย่างเช่น โซฟาบุผ้าสีขาวหรือสีอ่อน ๆ ห้องก็จะดูสบายตามากขึ้น พวกวัสดุสำหรับพื้นบ้านหรือผนังก็เป็นสิ่งสำคัญ ถ้าใครมีพื้นที่เหลือและมีงบประมาณมากพอแนะนำให้ปูพื้นไม้ ตกแต่งผนังห้องด้วยกระเบื้องลวดลายวินเทจหรือวอลเปเปอร์ลายอิฐบล็อกสีขาวสะอาดตา รับรองว่าบ้านของคุณจะสวยเพอร์เฟคพร้อมอวดโฉมให้กับแขกผู้มาเยือนอย่างแน่นอน
จากที่แนะนำกันมาคงสังเกตได้ว่า การตกแต่งภายในให้ได้บรรยากาศย้อนยุคนั้นไม่จำเป็นต้องนำของเก่าโบราณคร่ำครีจริง ๆ มาแต่งบ้านเสมอไป เพียงแค่เลือกดีไซน์หรือเนื้อวัสดุของเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลัก ๆ ให้มีกลิ่นอายของยุคสมัยก่อน แล้วใช้พร็อพเสริมมาประดับตกแต่งเพิ่มเติมบางส่วนหรือเพียงแค่บางมุมเท่านั้นก็เปลี่ยนบ้านให้วินเทจได้แล้ว แถมยังผสมกลมกลืนไปกับรูปแบบของโครงสร้างบ้านยุคปัจจุบันรวมถึงเข้ากับการแต่งสไตล์อื่น ๆ ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย