พรมปูพื้นห้องนั่งเล่น แบบหิน กำลังได้รับความนิยมและเป็นกระแสอยู่ในช่วงนี้ หลายคนให้ความสนใจและอยากลองใช้งาน พรมปูพื้นห้อง ไม่เก็บฝุ่น แบบหิน แต่อาจจะยังไม่รู้รายละเอียด ข้อดี ข้อเสีย และวิธีการดูแลทำความสะอาด พรมปูพื้นห้อง ไม่เก็บฝุ่น แบบหิน ถ้าอย่างนั้นมาดูกันชัด ๆ ว่าพรมเช็ดเท้าแบบหินนี้ จะมีประสิทธิภาพที่แตกต่างจากพรมเช็ดเท้าแบบเดิม ๆ อย่างไร ติดตามไปพร้อมกันเลย
พรมปูพื้นห้อง ไม่เก็บฝุ่น แบบหิน คืออะไร
ก่อนอื่นเลยมาทำความรู้จักกับ พรมปูพื้นห้อง ไม่เก็บฝุ่น แบบหิน หรือ Diatomite Mat คือพรมเช็ดเท้าที่ทำมาจากวัสดุหินมวลเบาหรือดินเบา ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่คิดค้นริเริ่มโดยประเทศญี่ปุ่น มีส่วนผสมของไดอะตอมไมต์ที่เกิดจากการสะสมของแร่หินภูเขาไฟธรรมชาติทับถมกันมานานจนกลายเป็นแร่หินธรรมชาติ พรมปูพื้นห้อง ไม่เก็บฝุ่น แบบหินที่ผลิตจากวัสดุเหล่านี้จะมีสัดส่วนของแร่ภูเขาไฟประมาณ 60-70 เปอร์เซ็นต์ จึงช่วยทำให้สามารถดูดซึม ดูดความชื้น และซับน้ำได้ไว รวมถึงมีคุณสมบัติพิเศษคือระเหยตัวได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ไม่ก่อให้เกิดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และเชื้อโรคต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งกลิ่นอับชื้น กลิ่นไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ เหมือนพรมเช็ดเท้าแบบเดิม ๆ ส่วนวิธีการใช้งาน พรมปูพื้นห้อง ไม่เก็บฝุ่น แบบหิน เหมือนกับพรมเช็ดเท้าทั่วไป แต่เพียงแค่มีผิวสัมผัสที่แตกต่างออกไป ไม่อ่อนนุ่มหรือสบายเท้าเหมือนพรมเช็ดเท้าทั่วไปที่มีให้เลือกหลายสไตล์ ขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์และความชื่นชอบของผู้ตกแต่ง ทุกวันนี้ พรมปูพื้นห้อง ไม่เก็บฝุ่น แบบหินมีการพิมพ์ลวดลายต่าง ๆ ลงไปบนพื้นผิว นอกจากเพื่อความเรียบหรูแล้วยังเพื่อความสวยงาม ดูน่าสนใจ และดึงดูดให้ใช้งานมากขึ้น
ข้อดีและข้อเสียของ พรมปูพื้นห้อง ไม่เก็บฝุ่น แบบหิน
ส่วนใหญ่แล้ว พรมปูพื้นห้องนั่งเล่น พรมปูพื้นห้องนอน พรมปูพื้นห้องรับแขก จะคุ้นหน้าคุ้นตาหรือใช้งานกันมานาน จะมีสัมผัสที่อ่อนนุ่มสบายเท้า ซึ่งมักจะทำมาจากผ้าหรือเส้นใยสังเคราะห์ แต่ในปัจจุบันนี้พรมเช็ดเท้ามีการพัฒนาด้วยการทำมาจากแร่ใยหินหรือหินมวลเบาที่เป็น พรมปูพื้นห้อง ไม่เก็บฝุ่น และให้ความรู้สึกแตกต่างไปจากพรมเช็ดเท้าแบบเดิม ๆ ดังนั้นมาดูกันว่า พรมปูพื้นห้อง ไม่เก็บฝุ่น แบบหินจะมีข้อดีและข้อเสียอะไรบ้าง?
อย่างแรกเลย พรมปูพื้นห้อง ไม่เก็บฝุ่น แบบหิน สามารถซับและดูดซึมน้ำได้อย่างรวดเร็ว ทำให้เท้าแห้งสนิทภายในไม่ถึง 1 นาที ซึ่งใช้ระยะเวลาเร็วกว่า พรมปูพื้นห้องนั่งเล่น พรมปูพื้นห้องนอน หรือ พรมปูพื้นห้องรับแขก แบบเดิม ๆ นอกจากนี้ยังไม่มีกลิ่นเหม็น กลิ่นอับชื้นคอยกวนใจ ที่สำคัญคือไม่ก่อให้เกิดเชื้อราและเชื้อแบคทีเรีย ถึงแม้ว่าพื้นผิวของ พรมปูพื้นห้อง ไม่เก็บฝุ่น แบบหิน จะเป็นหินขัด แต่ก็ทำให้เกิดคราบหรือลื่นจนไม่ปลอดภัยต่อการใช้งาน ดังนั้นจึงไม่ต้องกังวลเรื่องอุบัติเหตุระหว่างการใช้งาน ส่วนวิธีการดูแลทำความสะอาดก็ง่ายมาก ๆ ไม่จำเป็นต้องซักทำความสะอาดเลย สามารถใช้ได้กับพื้นทุกชนิด ไม่ว่าจะเป็นพื้นกระเบื้อง พื้นไม้ พื้นหินปูน หรือพื้นหินอ่อน เรียกได้ว่านอกจากจะมีดีไซน์ที่เรียบหรู ดูมินิมอล และเป็นมิตรต่สิ่งแวดล้อมแล้ว ยังเหมาะกับบ้านหรือสถานที่ที่มีเด็กและผู้สูงอายุอาศัยอยู่อีกด้วย
ส่วนข้อเสียของ พรมปูพื้นห้อง ไม่เก็บฝุ่น แบบหินนั้น อย่างที่ทราบกันแล้วว่า หลายคนมักคุ้นชินกับสัมผัสจากพรมเช็ดเท้าที่ทำจากผ้าหรือใยสังเคราะห์ จึงอาจต้องปรับความรู้สึกจากพรมที่นุ่มสบายเท้าเป็นสัมผัสที่แข็งแทน อย่างไรก็ตามหากใช้พรมเช็ดเท้าแบบหินไปนาน ๆ การซึมซับน้ำอาจช้าลงตามการใช้งาน ดังนั้นแนะนำให้ใช้กระดาษทรายขัดทำความสะอาด เพื่อให้กลับมาใช้งานได้เหมือนเดิม และด้วยความที่เป็นพรมเช็ดเท้าแบบหินควรระมัดระวังเรื่องการกระแทกหรือแตกหัก เนื่องจากพรมเช็ดเท้าประเภทนี้มีราคาที่สูงกว่าพรมเช็ดเท้าทั่วไปนั่นเอง
วิธีการดูแลทำความสะอาดพรมเช็ดเท้าแบบหิน
สำหรับการใช้งานครั้งแรกแนะนำให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาด ๆ ทำความสะอาดพื้นผิวก่อน จากนั้นให้นำไปตากแดดประมาณ 2-3 ชั่วโมง เพื่อไม่ให้มีความชื้นสะสม เมื่อใช้งานพรมเช็ดเท้าแบบหินไประยะหนึ่งอาจเกิดคราบที่พื้นผิว ทำให้ไม่สามารถดูดซับน้ำได้ดีเหมือนเดิม การทำความสะอาดคราบธรรมดาให้ล้างด้วยน้ำสะอาด แล้วนำไปตากแดดประมาณ 3-4 ชั่วโมง ก็พร้อมใช้งานได้เหมือนเดิม ส่วนคราบสกปรกหรือรอยด่างให้ใช้ผงซักฟอกขัดทำความสะอาดคราบ แล้วนำไปตากแดดเหมือนกัน แต่ถ้าเป็นคราบฝังแน่นอาจขัดออกด้วยสก็อตไบรต์ที่ชุบน้ำยาขัด ขัดเบา ๆ ให้สะอาด แล้วล้างน้ำอีกครั้ง และนำไปตากแดดประมาณ 3-4 ชั่วโมงเช่นกัน สุดท้ายหากเป็นรอยเปื้อนที่เช็ดล้างไม่ออกด้วยผงซักฟอก แนะนำให้ใช้กระดาษทรายเบอร์ละเอียดขัดเบา ๆ ไปในทิศทางเดียวกัน ต่อด้วยล้างน้ำสะอาดอีกครั้ง และนำไปตากแดดประมาณ 3-4 ชั่วโมง เพียงเท่านี้พรมเช็ดเท้าก็กลับมาพร้อมใช้ สะอาดเหมือนใหม่อีกครั้ง
ข้อแนะนำสำหรับการใช้งาน
สิ่งที่สำคัญไม่แพ้เรื่องความสะอาดของพื้นผิวพรมเช็ดเท้าก็คือ การระมัดระวังไม่ให้พรมเช็ดเท้าหล่นหรือตกจากที่สูง อย่าให้สิ่งของต่าง ๆ โดยเฉพาะของแข็งหล่นกระแทกพรมเช็ดเท้า เพราะจะทำให้เกิดการบิ่น แตกหัก ทำให้ใช้งานได้อย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ ส่วนสถานที่ที่ไม่ควรไว้พรมเช็ดเท้าแบบหินคือบริเวณที่มีความเปียกชื้นตลอดเวลา รวมถึงไม่ใส่รองเท้าเหยียบลงบนพรมเช็ดเท้าเด็ดขาด เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งานและสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ควรทำความสะอาดอย่างน้อยเดือนละ 1 ครั้ง
พรมปูพื้นห้อง ไม่เก็บฝุ่น แบบหิน เป็นอีกหนึ่งไอเทมที่สามารถใช้สอยและตกแต่งห้องต่าง ๆ ให้สวยงาม ไม่ว่าจะเป็น พรมปูพื้นห้องนั่งเล่น หรือ พรมปูพื้นห้องนอน ก็ทำให้ชีวิตสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เพราะช่วยแก้ปัญหาพรมเช็ดเท้าแบบเดิม ๆ ที่อาจทำให้เท้าแห้งช้า พรมมีกลิ่นอับชื้นได้ง่าย นอกจากนี้ยังเสี่ยงต่อการลื่นล้มจนเกิดอุบัติเหตุได้ หากใครที่สงสัยว่าพรมเช็ดเท้าแบบหินนี้มีอันตรายหรือไม่ คำตอบก็คือไม่มีอันตราย เนื่องจากพรมทำมาจากวัสดุที่เป็นธรรมชาติ จึงทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปลอดภัยจากเชื้อราและแบคทีเรีย เรียกได้ว่าเป็นอีกตัวเลือกที่น่าใช้งานเป็นอย่างมาก