การแต่งบ้านให้สวยงามนั้น นอกจากเจ้าของบ้านควรจะดูแลเอาใจใส่ในเรื่องการเลือกเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน ข้าวของเครื่องใช้ในแต่ละห้องแล้ว สิ่งหนึ่งที่เจ้าของบ้านไม่ควรละเลยเช่นกัน สิ่งนั้นก็คือ การเลือกสีของหลอดไฟให้เข้ากันกับบรรยากาศภายในบ้านแต่ละห้อง หลอดไฟในแต่ละแบบนั้น มีให้เลือกหลายโทนสี และแสงของหลอดไฟก็มีหลายสีด้วยเช่นกัน การเลือกสีที่เหมาะสมจะช่วยสร้างความรู้สึก อารมณ์ สร้างบรรยากาศที่จะช่วยให้ผู้ที่อยู่ภายในบ้านนั้นมีความรู้สึกผ่อนคลาย และรู้สึกสบายได้ อย่างไรก็ตามนอกจากสีของแสงไฟจะช่วยให้ความสว่างให้กับบ้านแล้ว ด้วยวิวัฒนาการทางเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำให้ผู้ผลิตได้เพิ่มความสามารถสีของแสงไฟที่ยังมีความสามารถเพิ่มเติมก็คือ สามารถวัดเป็นค่าอุณหภูมิได้ เรียกว่าหน่วยเคลวิน สีของหลอดไฟจะมีค่าเริ่มต้นตั้งแต่โทนสีส้มอ่อนๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่น ไปจนถึงระดับอุณหภูมิสูงขึ้น เป็นโทนสีฟ้า ที่จะเพิ่มความรู้สึกสดใส มากขึ้น สำหรับการเลือกแสงของหลอดไฟนั้น มีหลายแบบ ทั้งแบบ Warm White แบบ Day Light และแบบ Cool White ซึ่งจะมีรายละเอียดข้อมูลในแต่ละแบบ ดังนี้
หลอดไฟ Warm White
หลอดไฟแบบนี้จะมีอุณหภูมิสีที่ 2500-3300 เคลวิน เป็นโทนสีอุ่น ให้ความนุ่มนวล โทนออกโทนสีทองส้ม สีแบบนี้เหมาะสำหรับใช้การตกแต่งมากกว่าความต้องการแสงสว่างที่ชัดเจน เป็นแสงนวลๆ อาจจะใช้ในส่วนมุมสวนของบ้านที่มีแสงสะท้อนกับวัสดุให้แสงสีทอง ทำให้บริเวณพื้นที่ดูงดงาม นอกจากนี้ยังอาจจะเลือกใช้หลอดไฟแบบนี้ได้ทั้งในห้องนอน ห้องนั่งเล่น ไปจนถึงระเบียงของห้อง เป็นแสงที่ให้ความรู้สึกโรแมนติก ผ่อนคลาย เราจะสังเกตได้ว่าโรงแรมโดยส่วนใหญ่มักจะเลือกใช้แบบนี้ เพื่อเพิ่มความมีมิติให้กับที่พัก ดูอบอุ่น สลัวๆแต่ให้ความรู้สึกสบาย
หลอดไฟ Day Light
หลอดไฟแบบนี้ให้โทนแสงสว่างกว่าแบบแรก จะช่วยให้มองเห็นสิ่งต่างๆ ได้ชัดขึ้น เป็นแนวโทนสีฟ้า ให้ความรู้สึกสดใส มีสไตล์ที่สดชื่น โดยส่วนใหญ่หลอดไฟแบบนี้มักจะนำมาประดับตกแต่งในห้องทำงาน ห้องสำนักงาน ห้องครัว หรืออาจจะเป็นห้องนอนก็สามารถนำมาติดได้เหมือนกัน เลือกมุมที่ต้องการแสงสว่างให้เพียงพอ นอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว หลอดไฟ Day Light ยังจะช่วยเพิ่มแสงสว่างให้กับห้องได้อย่างชัดเจนอีกด้วย มักนิยมใช้ติดตั้งภายในบ้านในหลายๆ จุด
หลอดไฟ Cool White
หลอดไฟแบบนี้มีลักษณะเป็นการผสมผสานระหว่างแบบแรกกับแบบที่สอง นั่นคือ เป็นการนำเอาแบบ Warm White และ แบบ Day Light มารวมคุณสมบัติด้วยกัน มีระดับแสงที่ลดความอุ่นทั้งของแสงสีส้ม และลดความสว่างของแสงเดย์ไลท์จากสีฟ้า ทำให้เป็นสีแนวกลางๆ มีความสมดุล เป็นแสงสีขาวนวลตา ให้ความรู้สึกทั้งผ่อนคลาย สบายตาในขณะเดียวกันก็ให้แสงสว่างที่ชัดขึ้นกว่าแบบ Warm White สามารถนำหลอดไฟในลักษณะนี้ประยุกต์ใช้ได้กับทุกห้องภายในบ้าน ทั้งบริเวณภายในบ้านและนอกบ้าน เป็นแสงไฟที่จะช่วยในเรื่องความสมดุล จะว่าสว่างมากเกินไปก็ไม่ใช่ จะเป็นแนวที่ให้ความสว่างแบบพอดีๆ
จะเห็นได้ว่าทั้งสามแบบ ก็มีจุดเด่นที่แตกต่างกันไป การเลือกซื้อหลอดไฟเพื่อนำมาใช้งานนั้น ควรคำนึงถึงความเหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ เพราะนั่นจะทำให้เราได้ทั้งความสวยงามของจากโทนสี และประโยชน์จากการใช้งานของแสงสว่างที่เหมาะกับบรรยากาศในแต่ละห้อง ซึ่งเราอาจจะออกแบบให้มีความแตกต่างกันไป สามารถทำได้จากไอเดียการเลือกโทนสีหลอดไฟที่เหมาะสมนั่นเอง อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลของโทนสีนั้น เราอาจจะสรุปง่ายๆ ว่าหากต้องการบรรยากาศของบ้านที่เน้นความสว่างอย่างชัดเจนนั้น ก็สามารถเลือก หลอดไฟ Day Light ได้เลย แต่หากต้องการแสงแบบสลัวๆ ดูอบอุ่น แนวโรแมนติก ผ่อนคลายก็ควรเลือกหลอดไฟแบบ Warm White และหากยังเลือกไม่ได้ คือประมาณชอบทั้งคู่ เพื่อความสมดุลเราอาจจะเลือกใช้หลอดไฟแบบ Cool White ได้เลย อย่างไรก็ตามเราควรเลือกหลอดไฟให้เหมาะสมกับการใช้งานในแต่ละห้องจะเป็นการดีที่สุด ห้องแบบไหนเหมาะกับบรรยากาศแบบใด การเลือกหลอดไฟที่เหมาะสมทั้งการใช้งานและความสวยงาม จะช่วยเพิ่มสีสันภายในบ้านได้อย่างมากมายเลยทีเดียว