การตกแต่งห้องรับประทานอาหารให้สวยงาม สิ่งที่จะช่วยสร้างบรรยากาศเหล่านี้ได้ดี คงหนีไม่พ้นแสงสว่างที่ใช้โคมไฟเป็นตัวช่วย แนวคิดที่จะเปลี่ยนพื้นที่ห้องครัวที่เหลืออยู่ให้มุมเป็นมุมสำหรับโต๊ะอาหารสักโต๊ะ หรือหากมีพื้นที่มากพอ ก็สามารถกั้นแยกห้อง แบ่งสัดส่วนเป็นห้องรับประทานอาหารที่เชื่อมต่อกับห้องครัว สร้างความอบอุ่นด้วยสีนุ่มละมุนชวนน่าสนใจกับแสงสว่างที่มาจากหลอดไฟประดับเหนือโต๊ะอาหาร ช่วยเสริมความโดดเด่น ให้จานอาหารถูกประดับประดาอย่างโดดเด่น เมนูอาหารที่อร่อย หากติดตั้งโคมไฟได้เหมาะสมด้วยแล้วล่ะก็ ก็จะยิ่งทำให้เมนูต่างๆ ดูน่ากินมากยิ่งขึ้น ได้อรรถรสทั้งความสุข ความผ่อนคลาย และกลายเป็นอีกหนึ่งพื้นที่ประจำของสมาชิกในครอบครัวที่จะได้ใช้เวลาร่วมกัน

องค์ประกอบระหว่างห้องกับความสัมพันธ์ในการเลือกโคมไฟ

จะเลือกโคมไฟสำหรับห้องอาหารทั้งที อย่าเพิ่งกระโดดข้ามไปที่การโคมไฟเลยในทันที แต่ให้ลองสังเกตจากสไตล์ของห้องอาหารที่ต้องการเสียก่อน ว่าอยากให้บรรยากาศออกมาเป็นแบบไหน สำหรับบ้านไหนที่มีโต๊ะ เก้าอี้ มีมุมสำหรับรับประทานอาหารตั้งเอาไว้อยู่แล้วล่ะก็ ให้เลือกโคมไฟที่มีความเหมาะสมกับโต๊ะอาหาร และเฟอร์นิเจอร์อื่นๆ ภายในห้องด้วย ซึ่งจะช่วยทำให้เกิดองค์ประกอบที่สัมพันธ์เป็นหนึ่งเดียวกัน ภาพรวมที่ออกมาจะดูสมดุล ไม่อึดอัด ได้ขนาดโคมไฟที่เหมาะสม ไม่เล็กไม่ใหญ่จนเกินไป ทำให้เกิดความสวยงาม สามารถเลือกรูปทรงในแบบที่ต้องการได้ดั่งใจ ไม่ผิดพลาดตามมาในภายหลัง

การจัดวางตำแหน่งโคมไฟให้เหมาะสม

เมื่อเลือกประเภทของโคมไฟที่เข้ากับสไตล์ของห้องรับประทานอาหารได้แล้ว มาถึงการเลือกตำแหน่งที่เหมาะสมในการติดตั้งโคมไฟ แน่นอนว่าตามหลักการออกแบบ โคมไฟที่เข้าคู่กับห้องรับประทานอาหาร จะเป็นโคมไฟแขวนเพดาน หรือโคมไฟระย้าสวยหรู จัดวางเอาไว้ให้พอดีกับกลางโต๊ะ เพื่อให้แสงสว่างส่องได้ทั่วถึง

โดยขนาดของโคมไฟวัดมาแล้วว่าสัมพันธ์กับพื้นที่โต๊ะ แสงกระจายได้อย่างสม่ำเสมอทุกพื้นที่บริเวณที่ต้องการ ทำให้เมนูอาหารดูน่าดึงดูด ระยะความสูงของโคมไฟเหนือโต๊ะอาหารที่ดี จะต้องไม่สูงจนเกินไป เพราะแสงจะส่องสว่างได้ไม่ดี จุดเด่นจะถูกกำจัดออกไป แต่หากปล่อยให้โคมไฟต่ำเกินไป ก็เสี่ยงที่โคมจะชนกับศีรษะหรือส่วนบนของร่างกายเมื่อเคลื่อนไหวได้ ดังนั้นระยะวัดจากโต๊ะถึงโป๊ะโคมไฟที่ดี ควรอยู่ที่ 60-80 เซนติเมตร เป็นตำแหน่งที่ถือว่าได้แสงสว่างพอดี และอยู่ในระดับที่ไม่เกะกะด้วย ส่วนความกว้างของตัวโคมไฟ จะต้องไม่กว้างเกินขนาดโต๊ะรับประทานอาหาร และไม่ควรเล็กมากไปกว่า 1 ใน 2 ของขนาดโต๊ะด้วย

รูปแบบของโคมไฟที่ควรใช้สำหรับห้องรับประทานอาหาร

รูปแบบโคมไฟที่ใช้สำหรับตกแต่งห้องรับประทานอาหาร มีหลากหลายแนวให้เลือกใช้ ซึ่งที่ได้รับความนิยม เป็นที่สนใจ และเหมาะสำหรับมือใหม่ที่ไม่รู้จะเลือกสไตล์โคมไฟแบบไหนสำหรับการตกแต่งแล้วล่ะก็ นี่คือโคมที่จะช่วยเปลี่ยนบรรยากาศให้ห้องรับประทานอาหารของคุณดูดีขึ้นได้อย่างไม่น่าเชื่อ

1.โคมไฟระย้าแบบคลาสสิค - ส่วนมากเราอาจจะไม่ค่อยได้เห็นโคมไฟประเภทนี้ในห้องรับประทานอาหาร และไม่คิดว่านี่จะเป็นโคมที่เหมาะสมกับห้องดังกล่าวเท่าใดนัก ทว่าสิ่งนี้กลับเป็นแรงบันดาลใจที่เปลี่ยนสไตล์ของห้องอาหารให้ดูสวยแปลกตาไม่ซ้ำซาก โคมไฟระย้าเพียงชิ้นเดียว ใช้ประดับเหนือโต๊ะอาหาร แต่ใช้ความขัดแย้งเข้ามาเป็นตัวสร้างความน่าสนใจ อย่างการตกแต่งด้วยโคมไฟระย้าสุดหรูหรา แต่ตกแต่งห้องแบบลอฟท์ดิบๆ กลายเป็นความเข้ากันได้อย่างไม่น่าเชื่อ

2.โคมไฟทรงกลอง - โคมไฟประเภทนี้เรียกกันว่า Drum Pendant เป็นโคมไฟที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบความเรียบง่าย มีรูปทรงไม่ซับซ้อน ช่วยสร้างจุดเด่นได้เป็นอย่างดีที่กลางโต๊ะรับประทานอาหาร มุมมองที่ได้ออกมา จึงช่วยสร้างบรรยากาศความสบายตา รูปทรงของโคมไฟที่ดูเหมือนกลาง สามารถเลือกความโดดเด่นได้ด้วยการเล่นกับสีสัน การดีไซน์ และสีของแสงไฟที่ส่องสว่างออกมา

3.การจัดกลุ่มโคมไฟแบบหลายดวง - เป็นการจัดรูปทรงหมู่ที่เรียกกันว่า Multi-Light คล้ายๆ กับการจัดช่อดอกไม้ นำเอาโคมไฟขนาดเล็กหลายๆ ดวงมารวมกันเป็นจุดเดียวกัน สามารถจัดเรียงได้หลากหลายรูปแบบ อาจจะใช้วิธีเล่นระดับ หรือการจัดวางสูงต่ำสลับกันไป บางครั้งยังสามารถเลือกประดับช่อโคมไฟนี้ด้วยดวงไฟขนาดเล็กที่มีรูปทรงแตกต่างแต่เข้ากันได้ดี มารวมด้วยกันเป็นชิ้นงานเหนือโต๊ะรับประทานอาหาร เติมความสวยเด่นราวกับเป็นชิ้นงานประติมากรรมกันได้เลยทีเดียว

ไม่ว่าอยากจะได้ห้องอาหารสวยๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งกับห้องครัว หรือจะเป็นห้องอาหารที่แยกตัวออกมาก็แล้วแต่ สิ่งที่ทุกคนต้องการก็คือบรรยากาศในห้องดังกล่าวที่ช่วยทำให้รสชาติอาหารดูน่าดึงดูด ไม่ใช่เพียงรสชาติที่สัมผัสลิ้นเท่านั้น แต่รสชาติที่สัมผัสผ่านสายตาจากแสงสว่างจากโคมไฟก็เป็นส่วนที่ช่วยทำให้รสอาหารกลมกล่อม ได้ความสุขในการกินมากขึ้น