เมื่อใดก็ตามที่เราคาดหวังอยากเข้าไปนั่งจิบบรรยากาศในร้านกาแฟ สิ่งที่วาดฝันเอาไว้ก็ดูเหมือนจะเป็นวิถี Slow Life หนีจากความวุ่นวายในเมืองหลวง เปิดประตูเข้าสู่ด้านใน ไม่ใช่แค่ความหอมกรุ่นและเสียงเครื่องบดกาแฟที่ดังสะเทือนไปทั่วร้าน มันชวนให้เกิดความรู้สึกที่ผ่อนคลายในแบบที่เราไม่ได้คาดหวังว่ามันจะต้องเป็นเสียงเงียบๆ และมาพร้อมกับดนตรีบรรเลง แต่สิ่งที่กลุ่มคนรักกาแฟอยากได้คือการพักผ่อน สูดกลิ่นอายกาแฟ และจิบกาแฟแก้วโปรดของตัวเองให้คาเฟอีนแผ่แทรกเข้าไปทุกอณูในร่างกายจนรู้สึกได้ถึงพลังชีวิตที่ถูกชาร์ตขึ้นมาใหม่
แน่นอนว่าคนที่ตั้งใจสร้างสรรค์ร้านกาแฟ ควรจะเน้นบรรยากาศภายในร้านไม่แพ้รสชาติของกาแฟสดที่แสนกลมกล่อมเพียงเท่านั้น หากสามารถเชื่อมความสวยงามและรสชาติของกาแฟเข้าด้วยกันได้อย่างดีแล้ว จะกลายเป็นความสมบูรณ์แบบ เราไม่ต้องเน้นการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ให้มากชิ้น แต่ไอเดียที่น่าสนใจอยู่ที่การจัดแต่งโคมไฟ เพราะร้านกาแฟไม่จำเป็นต้องตกแต่งให้สว่างจ้ามองเห็นรายละเอียดทุกพื้นที่ เราเพียงต้องการแค่แสงสว่างเฉพาะจุดและแสงสลัวๆ ทั้งในเวลากลางวันและกลางคืน ดังนั้นแนวทางการเลือกโคมไฟสำหรับร้านกาแฟจึงเป็นอีกหัวใจในการออกแบบที่ไม่ควรมองข้าม ใครกำลังมองหาไอเดียตกแต่งร้านกาแฟแบบเก๋ๆ ตอบโจทย์ลูกค้ากันอยู่ล่ะก็ นี่คือคำแนะนำที่จะช่วยให้คุณทำทุกอย่างได้ง่ายขึ้นกว่าที่คิด
เน้นเรียบง่าย แต่ทันสมัยด้วยรูปทรงโคมไฟ
สำหรับคนที่อยากได้ร้านกาแฟในเมืองที่หรูหรา ทันสมัย แต่แอบซ่อนไว้ด้วยความเรียบหรู มองดูแล้วรู้สึกได้ถึงความสบายตา สามารถเลือกตกแต่งด้วยหลอดไฟดาวน์ไลท์ฝังเพดาน เลือกโทนสีขาวสำหรับตกแต่งร้าน ไม่ว่าจะเป็นผนัง เพดาน และพื้น ส่วนเฟอร์นิเจอร์ ลองเป็นโทนสีน้ำตาลเข้มและดำ ที่จะตัดกันอย่างลงตัว ทำให้แสงสว่างจากหลอดไฟกระทบลงมาไม่สะท้อนจนดูสว่างจ้าแสบตา เพิ่มเสน่ห์สวยๆ ด้วยรูปทรงโคมไฟแบบครึ่งวงกลม เป็นสีขาวกกลางโต๊ะสีดำ ห้อยระย้าลงมาในตำแหน่งที่พอดี แสงสว่างส่องเฉพาะ ช่วยทำให้แก้วกาแฟมากเสน่ห์น่าลิ้มลองมากยิ่งขึ้น ด้วยโทนสีเรียบๆ แบบนี้ง่ายต่อการออกแบบ ตัวของหลอดไฟใช้เป็นสีส้มอุ่นๆ เพื่อตัดกับสีขาวดำ ทำให้ภายในร้านดูมีชีวิตชีวามากกว่าแสงสีขาว
ตกแต่งด้วยบรรยากาศแบบนอร์ดิก
การตกแต่งร้านกาแฟในสไตล์นอร์ดิก จะเน้นความเรียบง่าย เป็นคาเฟ่รวมตัวของคนที่รักความสงบ ต้องการที่นั่งพักให้ความผ่อนคลายในระหว่างวัน บรรยากาศของแสงไฟที่ควรออกมาจึงต้องเน้นความอบอุ่นและเชื่อมโยงกับกลิ่นอายกาแฟที่หอมกรุ่นอยู่ในร้าน เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์เป็นหินอ่อนแวววาว ตัดกับโคมไฟเปลือยที่มองเห็นหลอดแบบชัดเจน ห้อยตัวลงมาจากเพดาน เน้นส่องสว่างที่เคาน์เตอร์ชงกาแฟ เพื่อสร้างความโดดเด่นให้กับเครื่องดื่มและแก้วกาแฟที่จัดเรียงไว้ เลือกโคมฟแบบซ่อนที่มีลูกเล่นสไตล์ Indirect Light เน้นจุดเด่นที่โคมไฟบริเวณเคาน์เตอร์เป็นหลัก ในส่วนที่นั่งของลูกค้า ใช้แสงสว่างแบบดาวน์ไลท์และแสงจากภายนอกในเวลากลางวัน หากต้องการเพิ่มลูกเล่นอีกสักหน่อย ลองเลือกโคมไฟติดผนัง ติดตั้งตามเสาเพื่อไม่ให้ผนังดูโล่งจนน่าเบื่อ
ซ่อนหลอด LED เอาไว้ตามเฟอร์นิเจอร์ชั้นวาง
เติมสีสันให้มากขึ้นด้วยการติดตั้งหลอดไฟซ่อน เป็นประเภท LED เพื่อเพิ่มสีสันให้กับส่วนต่างๆ ของชั้นวางของที่ส่วนใหญ่ อาจจะดูมืดทึบ แสงสว่างส่องเข้าไม่ถึง อย่างเช่น ชั้นวางของ ตู้โชว์ ไปจนถึงกรอบรูปภายในร้านที่ต้องการเน้นความสวยงามเป็นพิเศษ ส่วนของชั้นวางที่ควรตกแต่งเพิ่มเติม อาจจะเลือกเป็นแก้วกาแฟ หรือเครื่องชงดริปที่ช่วยเพิ่มความคลาสสิคเข้ากับเงาของงานไม้ ตู้เฟอร์นิเจอร์ที่ดูธรรมดาๆ จะกลายเป็นจุดเด่นที่สวยงาม มองแล้วรู้สึกสบายตามากขึ้นมาทันที
อย่าลืมเติมลูกเล่นหน้าร้าน
สำหรับร้านกาแฟที่มีพื้นที่หน้าร้าน แนะนำให้ตกแต่งแสงสว่างแบบไฟซ่อนเอาไว้บนเพดานด้านบนและตกแต่งด้วยหลอดไฟแบบเส้นวาดให้กลายเป็นตัวอักษรชื่อหน้าร้าน ซึ่งจะโดดเด่นเป็นอย่างมากในช่วงเวลากลางคืน หลอดไฟตามโต๊ะต่างๆ ที่จัดเรียงอยู่นอกร้าน จะเน้นใช้งานในตอนกลางคืน ดังนั้นสามารถเลือกได้ทั้งแบบเป็นโคมไฟตั้งโต๊ะ หรือโคมไฟติดเพดานห้อยลงมา เน้นรูปทรงเรียบหรู โทนสีดำ และหลอดไฟแสงสีส้มนวล ส่วนรอบๆ ด้านประดับด้วยโคมไฟติดผนังแบบส่องลงหรือส่องขึ้นก็ได้ เพื่อช่วยทำให้นอกร้านดูสว่าง มีจุดเด่นเมื่อมีคนเดินผ่านไปผ่านมา
เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ร้านกาแฟของคุณดูมีสีสัน เต็มไปด้วยชีวิตชีวาในแบบที่ลูกค้าต้องการได้แล้ว แค่ให้ความสำคัญกับแสงไฟ หลอดไฟ โคมไฟ และพื้นที่การติดตั้ง รับรองว่าจะช่วยเติมความน่าเย้ายวน ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาพักผ่อนลิ้มรสกาแฟของคุณได้แบบไม่ขาดสายอย่างแน่นอน