หัวใจของการจัดโคมไฟภายในบ้าน ซึ่งประโยชน์หลักก็เพื่อช่วยเติมแสงสว่างให้บ้านดูน่าอยู่อาศัย มองเห็นสภาพแวดล้อมรอบด้านได้ชัดเจน ปลอดภัย และช่วยเติมเสน่ห์ในยามค่ำคืน แสงสว่างจึงสามารถเนรมิตบ้านที่แสนธรรมดาให้งดงามขึ้นมาได้ แถมยังสะท้อนสไตล์ของผู้พักอาศัยได้อีกด้วย เช่นเดียวกันคนที่หลงใหลในการอ่านหนังสือ ชอบใช้วันหยุดอยู่กับบ้านเพื่ออ่านหนังสือ หรือหากมีเวลาว่างก็ใช้เวลาไปกับการอ่านหนังสืออยู่ตามห้องต่างๆ
การจัดแสงสว่างจึงควรคำนึงถึงระดับความสว่างที่พอดีให้เหมาะสำหรับการอ่านหนังสือด้วย ไม่เพียงแค่ช่วยให้ดวงตาถูกใช้งานอย่างทะนุถนอมเท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างบรรยากาศให้ทุกมุมของบ้านดูนุ่มนวล เติมเต็มความสุขในพื้นที่อันแสนสุขด้วยการอ่านหนังสือเล่มโปรดได้แบบไม่ต้องรู้สึกเมื่อยล้าสายตาได้ในทุกๆ วัน
ประเภทของโคมไฟที่ควรนำมาติดตั้งสำหรับอ่านหนังสือ
บางทีทางเลือกที่สำคัญที่สุดที่จะช่วยให้คุณเลือกโคมไฟอ่านหนังสือได้อย่างถูกต้องมากที่สุด แน่นอนว่าถ้าเป็นไปได้ก็ควรเลือกโคมไฟที่ติดตั้งอยู่เหนือศีรษะขึ้นไป ให้คุณเห็นการกระจายตัวของแสงสว่าง แต่ไม่เห็นตัวหลอดไฟแบบตรงๆ เนื่องจากในขณะที่การอ่านในแสงสลัวๆ จะไม่มีผลในระยะยาวต่อวิสัยทัศน์ จะทำให้กล้ามเนื้อตารู้สึกอึดอัดและอ่านหนังสือไม่ได้นาน ซึ่งการแต่งบ้านส่วนใหญ่ก็หาได้คำนึงถึงเรื่องนี้
ดังนั้นโคมไฟที่แนะนำให้เลือกใช้ หากไม่สะดวกมากนัก และเป็นการเพิ่มแสงสว่างแบบง่ายๆ ภายในพื้นที่ๆ ใช้อ่านหนังสือ ก็ควรเป็นโคมไฟตั้งโต๊ะ ซึ่งมีขนาดไม่ใหญ่ เลือกเป็นชนิดที่ออกแบบมาให้ปรับหมุน และควรมีโป๊ะโคมไฟที่ช่วยปรับแสงให้สะท้อนลงข้างล่างบนพื้นที่อ่านหนังสือพอดี โดยที่แสงไม่กระจายออกไปนอกห้อง เพื่อช่วยให้สายตารับกับแสงสว่างที่พอดีในการอ่านหนังสือ
ระดับการกระจายแสงและความสว่างของโคมไฟที่เหมาะสม
สิ่งนี้สำคัญเช่นเดียวกัน คือทิศทางการกระจายแสงจากหลอดไฟ โคมไฟที่ดีแสงจะต้องส่องสว่างมุ่งเน้นไปยังหนังสือของคุณเป็นอันดับแรก แสงสว่างที่ดีจะต้องกระจายตัวอย่างสม่ำเสมอไปทั่วทั้งห้อง แต่ความผิดพลาดของคนส่วนใหญ่คือการเปิดไฟเพียงแค่พื้นที่เล็กๆ ในห้องมืด สาเหตุนี้ทำให้คุณอ่านหนังสือแล้วรู้สึกอึดอัด
ส่วนระดับความสว่างของโคมไฟที่เลือกในแต่ละคนจะมีความแตกต่างกันออกไป ดวงตาของคนจะเปลี่ยนแปลงไปตามอายุ ยิ่งอายุมากขึ้น คุณก็ยิ่งจำเป็นต้องเพิ่มระดับความสว่างมากขึ้นในการอ่านหนังสือ โดยพบว่าตามหลักแล้ว ความต้องการระดับความสว่างในการอ่านหนังสือของคนจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เปอร์เซ็นต์ต่อปี เทียบกันง่ายๆ หากคุณอายุ 10 ปี คุณจะต้องการแสงสว่างประมาณ 40 วัตต์ ส่วนในกลุ่มคนที่อายุ 60 ปีขึ้นไป จะต้องการระดับความสว่างอยู่ที่ 100 วัตต์ เป็นระดับที่เหมาะสมต่อดวงตาที่จะไม่ส่งผลเสียตามมาในภายหลัง หากเลือกค่าเป็นลูเมน
คำแนะนำก่อนตัดสินใจพลาดในเลือกซื้อโคมไฟอ่านหนังสือ
ทางที่ดีคุณควรเลือกเป็นโคมไฟประเภท Lamp shade ซึ่งจะกระจายแสงผ่านตัวโป๊ะออกมาอีกที ทำให้เกิดความรู้สึกนุ่มสบายตา ไม่มีปัญหาแสงสะท้อนที่จะกระทบกับดวงตาจนชวนหงุดหงิด โดยเฉพาะการอ่านหนังสือในกลุ่มคนสูงอายุ ดวงตาที่เสื่อมสภาพลงตามธรรมชาติมากแล้ว แม้ต้องการแสงสว่างมาก แต่อย่าลืมว่าพวกเขาไม่ได้ต้องการ "แสงสว่างจ้า" ที่ทำให้รู้สึกปวดตาอย่างหนักทันทีที่โคมไฟถูกเปิด
แสงสว่างที่ควรเลือกติดตั้งก็ควรจะเป็นแสงในโทนเหลืองอ่อนๆ อุณหภูมิสีอยู่ในกลุ่ม warmer color ซึ่งช่วยทำให้รู้สึกสบายตามากกว่าแสงสว่างในกลุ่มอุณหภูมิสี cooler color และระดับความสว่างในการใช้งานให้เน้นเลือกตามระดับที่แนะนำไว้ข้างต้น เพื่อช่วยให้แสงสว่างที่กระจายตัวออกมาไม่จ้าหรือมืดจนเกินไป
แม้จะเป็นมือใหม่ในการเลือกใช้โคมไฟตกแต่งบ้าน ที่ต้องคำนึงถึงการใช้งานอ่านหนังสือด้วยนั้น อาจจะไม่ใช่เรื่องน่ากังวลเท่าใดนัก เพียงแค่ลองพิจารณาดูว่า โคมไฟที่เลือกติดตั้งไปนั้นเหมาะสมกับการใช้งานมากน้อยแค่ไหน ดวงตาจะเป็นคนบอกให้คุณทราบด้วยตัวเอง หากแสงผิดพลาดไปจากที่คาดไว้ เมื่อใช้งานแล้วเกิดอาการปวดเมื่อยล้าดวงตา รู้สึกหงุดหงิด นั่นก็ถือว่าเป็นการจัดแสงสว่างที่ยังไม่ถูกต้อง สังเกตดูว่าแสงมากหรือน้อยเกินไป จากนั้นแค่เริ่มปรับเปลี่ยนอย่างค่อยเป็นค่อยไป รับรองว่าไม่นานบ้านจะกลายเป็นสถานที่อ่านหนังสือแบบส่วนตัวของเหล่าหนอนหนังสือได้อย่างมีความสุข