แสงสว่างถือเป็นหนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดในการตกแต่งภายในสถาปัตยกรรมทุกรูปแบบ เนื่องจากแสงสว่างภายในห้องนั้นสามารถเปลี่ยนคุณลักษณะทางกายภาพของพื้นที่ให้ดีขึ้นหรือแย่ลงได้อย่างสิ้นเชิง ตัวอย่างง่ายๆ ที่ทำให้คุณเห็นภาพชัดขึ้นก็คือห้องที่ปิดไฟมืด กับห้องที่เปิดไฟสว่าง เป็นต้น อีกหนึ่งแง่มุมของการจัดแสงสว่างภายในห้อง
คือการที่เราสามารถเปลี่ยนห้องที่ดูจืดชืด ให้กลายเป็นพื้นที่เจิดจรัสสวยงาม ด้วยวิธีที่แสนง่ายเพียงแค่คุณติดตั้งสวิตซ์หนึ่งตัวกับโคมไฟสวยๆ เพียงแค่นี้ก็เปลี่ยนบรรยากาศและ Mood & Tone ให้บ้านของคุณดูดีขึ้นอย่างน่าอัศจรรย์
เรื่องราวของแสงสว่างภายในบทความนี้จะนำคุณเข้าไปสู่การจัดแสงประเภทต่างๆ และนำเสนอไอเดียใหม่ๆที่เรารวบรวมจากผู้เชี่ยวชาญ ไม่ว่าจะเป็น รูปแบบการจัดแสงในการตกแต่งภายในบ้าน และเทคนิคการเลือกจัดโคมไฟในพื้นที่ต่างๆ ให้เหมาะสมต่อสภาพแวดล้อมและการใช้งาน
จากอดีตจนถึงปัจจุบัน ทุกตำรากล่าวไว้แหมือนกันว่า ประเภทของแสงสว่างหลักนั้นมีอยู่ 2 ประเภท นั่นก็คือแสงธรรมชาติและแสงประดิษฐ์
แสงธรรมชาติ
คือแสงแดดที่เป็นแหล่งกำเนิดพลังงานและเป็นแหล่งกำเนิดแสงสว่างของโลกมนุษย์ มันคือพลังที่กระตุ้นจิตใจและอิสระของชีวิตความเป็นอยู่ ในขณะเดียวกันก็ยากที่จะควบคุม โดยแสงธรรมชาตินั้นแตกต่างกันไปในทุกที่ที่คุณอาศัยอยู่ ตัวอย่างเช่น แสงจากทิศเหนือจะเย็นกว่าแสงแดดในแนวเส้นศูนย์สูตร เพราะฉะนั้นแล้วทิศทางของห้องที่หันไปรับแสงได้มากน้อย ก็ขึ้นอยู่กับช่วงเวลา รวมทั้งฤดูกาลที่เปลี่ยนแปลงไป
แสงประดิษฐ์
คือแสงที่จะเพิ่มเลเยอร์ให้กับพื้นที่ภายในห้องของคุณ ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นแสงจากโคมไฟชนิดต่างๆ เป็นหนึ่งในวิธีการเติมเต็มความอบอุ่นและแสงสว่างให้กับพื้นที่อยู่อาศัย เพราะฉะนั้นแล้วการศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับรูปแบบการตกแต่งภายในของพื้นที่และแสงประดิษฐ์ สามารถที่จะปรับเปลี่ยนสัดส่วนการสร้างมิติและการรับรู้ของห้อง โดยคำนึงถึงโคมไฟภายในบ้านทั้ง 4 ประเภท ที่จะพูดถึงต่อไปนี้
1.โคมไฟเพดาน
ถือเป็นพื้นฐานหลักของการจัดแสงสว่างให้สม่ำเสมอทั่วทั้งห้อง ซึ่งเป็นโคมไฟที่ให้ความสว่างแก่พื้นที่โดยตรง เหมาะสำหรับใช้งานเพื่อความสวยงามและความเป็นธรรมชาติ โดยลักษณะทั่วไปของแสงจากโคมไฟชนิดนี้จะเป็นแบบตรง ซึ่งควบคุมแสงสว่างด้วยการติดตั้งสวิตช์ไฟหรือสวิตช์ไฟหรี่ เพื่อเป็นการเปิด / ปิด / หรือกำหนดความสว่างของแสงได้อย่างง่ายดาย
2.โคมไฟดาวไลท์
โคมไฟดาวไลท์คือการเติมเต็มมิติแสงโดยรอบของพื้นที่ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในวิธีการที่ดีเยี่ยมสำหรับการจัดแสงภายในห้อง ซึ่งแบบที่หนึ่งที่กล่าวไปข้างต้นนั้นกับแบบที่สองคือโคมไฟดาวไลท์ เหมาะสำหรับการใช้งานร่วมกัน เพื่อให้แสงสว่างเกิดขึ้นในบริเวณพื้นที่ เพิ่มมิติความงาม และการจัดระดับแสงภายใน โดยเคล็ดลับของการจัดโคมไฟดาวไลท์นั้น คุณจะต้องรู้วิธีการติดตั้งพร้อมทั้งคำนึงถึงแสงและเงาที่ตกกระทบ เพื่อให้มูดแอนโทนของห้องออกมาได้อย่างนุ่มนวล ผลที่ได้ห้องของคุณจะสวยงามกว่าการใช้แสงของโคมไฟทั่วไปเพียงอย่างเดียวแน่นอน
3.แสงจากโคมไฟตั้งโต๊ะ
ตามชื่อของแสงที่เกิดจากโคมไฟชนิดเจาะจงเหล่านี้ คือแหล่งกำเนิดพลังงานแสงสำหรับการใช้งานเฉพาะด้าน เช่น การอ่านหนังสือ การทำอาหาร หรือนั่งทำงานบนโต๊ะ โดยธรรมชาติแล้วแสงไฟจากโคมไฟตั้งโต๊ะเหล่านี้ มักจะมีกำลังไฟที่ค่อนข้างแรงกว่าแสงจากโคมไฟชนิดอื่นๆ ผู้คนส่วนใหญ่จึงนิยมใช้ร่วมกับแสงสว่างโดยรอบที่เพียงพอเสมอ เพื่อหลีกเลี่ยงความเมื่อยล้าของดวงตา รวมทั้งรังสีความร้อนที่แผ่ออกมาโดยที่คุณไม่รู้ตัว
4.แสงจากโคมไฟตั้งพื้น
การจัดแสงในลักษณะนี้มีความสำคัญต่อรูปลักษณ์โดยรวมของห้องมากกว่าแสงทั่วไป เพราะแสงจากโคมไฟตั้งพื้นนั้นจะเป็นการเน้นย้ำให้ห้องน่าอยู่ ด้วยมิติของแสงและเงาที่กระจายกระทบกับเฟอร์นิเจอร์หลากหลายชิ้นภายในห้อง นอกจากนี้แสงจากโคมไฟตั้งพื้นยังเป็นองค์ประกอบสำคัญของสไตล์การตกแต่ง เพราะทุกครั้งที่จะนำเอาโคมไฟตั้งพื้นมาจัดวางภายในห้อง ก็เปรียบเสมือนคุณนำเอาเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งอีกชิ้นมาประดับบ้าน ดังนั้นคุณจะต้องคำนึงถึงสไตล์ เช่นเดียวกับสไตล์ของบ้าน
ตกแต่งภายในด้วยโคมไฟตั้งพื้น North Floor เพิ่มมิติความงามให้บ้าน
Link : https://www.loungelovers.com/collections/floor-lamp/products/north-floor-lamp
สุดท้ายนี้การจัดแสงก็เป็นหนึ่งในวิธีการตกแต่งแต่งเติมบ้าน แถมยังเป็นเคล็ดลับสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสดใสน่าอยู่ให้กับบ้าน แต่อย่างไรก็ตามก่อนที่คุณจะทำการจัดแสงหรือเลือกซื้อโคมไฟทุกครั้ง จะต้องวางแผนให้ดีเสียก่อน ว่าคุณชื่นชอบสไตล์ไหน และจะตกแต่งแบบใด เพื่อที่จะให้การออกแบบแสงออกมาได้อย่างสัมพันธ์ เพราะการจัดแสงที่ดีนั้นแต่ละห้องต้องเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่ใช่ห้องหนึ่งมืด
แล้วพอออกมาอีกห้องหนึ่งสว่าง อาจจะทำให้ผู้อยู่อาศัยเกิดความสับสนและความเมื่อยล้าของดวงตาก็เป็นได้เพราะฉะนั้นแล้วเทคนิคที่ง่ายที่สุดที่เราจะฝากไว้ ก็คือการเลือกซื้อโคมไฟที่มีสไตล์หรือโทนสีไปในทิศทางเดียวกัน และควรเลือกแสงสว่างของหลอดไฟให้เหมาะสมต่อการใช้งาน เพื่อให้ทุกพื้นที่ภายในมีแสงสว่างที่น่าดึงดูด อยู่แล้วรู้สึกผ่อนคลาย สบายใจ
credit image : pinterest