ศิลปะที่ถูกจัดสรรผ่านงานออกแบบในกลิ่นอายที่มีการสร้างเหลี่ยมมุมถูกหยิบยกมาใช้มากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งเรียกกันในทางสถาปัตยกรรมว่า Cubism ลูกเล่นเหล่านี้จะเริ่มเห็นได้ตามการดีไซน์ของตึกรามบ้านช่อง ทรงสี่เหลี่ยมและลูกบาศก์อันเป็นเอกลักษณ์ หลังคาเปลี่ยนจากจั่วเป็นแบบเรียบ มีการตัดทอนรูปทรงให้ดูสบายหูสบายตา จนกลายเป็นความชื่นชอบของผู้คนในยุคนี้ จนกระทั่งแพร่ขยายไปถึงงานออกแบบโคมไฟ ที่ถูกสร้างสรรค์ให้มีความเชื่อมโยงกับรูปทรงเรขาคณิตมากขึ้น การจัดวางตามพื้นที่ต่างๆ ภายในบ้าน สิ่งแรกที่จะสัมผัสได้คือความเรียบง่าย ดูปลอดโปร่ง เป็นระเบียบและสะอาดตา เข้าได้กับพื้นที่บ้านในปัจจุบันซึ่งมักจะมีพื้นที่จำกัด

รสนิยมเรียบง่าย สู่คอนเซปท์โคมไฟรูปทรงเรขาคณิต

เพราะความเรียบง่ายเป็นสิ่งที่ช่วยขัดเกลาผู้คนในยุคสมัยนี้ที่ต้องเผชิญกับความวุ่นวายอยู่ตลอดเวลา การหวนคืนตัวเองสู่ความเป็นธรรมชาติ อิงแอบไปกับรูปทรงที่ลดทอนมาจากความซับซ้อน โคมไฟที่ออกแบบด้วยรูปทรงเรขาคณิตที่ดี ช่วยตอบโจทย์การทำงานในทุกพื้นที่ภายในบ้านได้ ไม่ว่าจะเป็นในห้องนอน ห้องนั่งเล่น ห้องครัว หรือห้องอาบน้ำ อันเป็นพื้นฐานองค์ประกอบที่มีอยู่ภายในบ้าน แสงไฟที่ส่องประกายออกมาจากโคมไฟ จะให้แสงที่มีความเบาสบาย นอกจากนี้ตัวโคมไฟที่ดีจะต้องมีดีไซน์ที่ไม่ปิดทึบ ได้ออกมาเป็นลูกเล่นแบบสามมิติ โดยอยู่บนจุดประสงค์ของความสวยงามกลิ่นอาย back to basic ซึ่งยังมีเรื่องของวัสดุที่นำมาใช้ผลิตโคมไฟเป็นปัจจัยที่ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกของสไตล์นี้อีกด้วย

Minimalism ในศิลปะผ่านการออกแบบโคมไฟ

Minimalism ความเรียบง่ายที่สะท้อนความน่าทึ่งเอาไว้ในตัว ในการออกแบบโคมไฟที่มีการประยุกต์กับรูปทรงเรขาคณิต ความน้อยแต่มากแบบนี้ สามารถเข้ากันได้ดีอย่างไม่น่าเชื่อ เส้นสายที่ไม่ซับซ้อน เชื่อมต่อกันจนเกิดเป็นเหลี่ยมมุม นอกจากการเล่นกับความไม่เยอะแบบนี้แล้ว การออกแบบให้โคมไฟมีการส่องประกายแสงที่มีความเป็นธรรมชาติออกมา เพื่อให้เชื่อมโยงกับสิ่งแวดล้อมรอบด้าน การสะท้อนเหล่านี้สามารถใช้ได้ทั้งในกลุ่มของโคมไฟหลัก โคมไฟสำหรับงานเฉพาะจุด หรือแม้กระทั่งโคมไฟตกแต่ง กลายเป็นผลงานสำหรับยุคโมเดิร์นที่เหมาะสมและใช้งานได้จริงทั้งในแง่ประโยชน์และเป็นของตกแต่งประจำบ้านไปในตัว

การเลือกวัสดุสำหรับงานโคมไฟรูปทรงเรขาคณิต

เราพยายามเจาะจงไปที่วัสดุที่นำมาใช้ทำโคมไฟให้เป็นพื้นผิวที่เปลือยเปล่าด้วยการเพิ่มอะไรที่มากเกินกว่าความเป็นธรรมชาติเดิมแท้ของตัวมัน ดังนั้นการเลือกโคมไฟที่ดีสำหรับรูปทรงเรขาคณิตให้เหมาะสมกับบ้านยุคโมเดิร์นในที่นี้ อาจจะต้องเริ่มจากตัววัสดุที่มีความเป็นตัวของตัวเอง หรืออาจเรียกได้ว่ามีเอกลักษณ์สะท้อนออกมาในแบบที่ไม่เหมือนใคร ยกตัวอย่างเช่น การใช้วัสดุไม้ในการออกแบบโคมไฟ การดัดโค้งงอ หรือจะทำเป็นเหลี่ยมมุมทรงลูกบาศก์แบบไหนก็ตาม แต่โครงสร้างที่เห็นคือเนื้อไม้ที่ไม่ผ่านการทาสีบดบัง เห็นริ้วลายของโทนสีที่ไม่สม่ำเสมอ หรือแม้กระทั่งการบิดงอของไม้ที่ใช้เป็นฐานโคมไฟตั้งโต๊ะ หรือโคมไฟตั้งพื้น ช่วยสร้างบรรยากาศสุดพิเศษให้บ้านของคุณในแบบที่คาดไม่ถึง

หากคุณต้องการสร้างสรรค์บ้านให้ดูมีชีวิตชีวามากขึ้น อาจจะผสมกับความคลาสสิคเล็กๆ น้อยๆ ลงไป เพื่อให้เกิดความอบอุ่น ลองเลือกโคมไฟที่ผลิตมาจากทองเหลืองหรือเงิน แน่นอนว่าต้องอยู่ในการออกแบบสไตล์ของเรขาคณิตเช่นเดิม ซึ่งวัสดุเหล่านี้จะช่วยสะท้อนความสวยงามของแสงที่ส่องออกมาจากหลอดไฟ กระทบกับตัววัสดุก่อนจะส่องกระจายไปทั่วห้อง ซึ่งจะให้แสงที่มีความพิเศษแบบเฉพาะตัว โทนสีของวัสดุที่นำมาใช้ทำโคมไฟรูปทรงเรขาคณิต โดยปกติแล้วจะเป็นสีเรียบๆ อย่างสีดำ สีขาว หรือสีตามวัสดุของมันเองอยู่แล้ว ดังนั้นเราจึงเห็นผลงานเหล่านี้แต่งแต้มได้กับทุกพื้นที่ภายในบ้าน มีความยืดหยุ่นในการนำไปติดตั้ง ใช้ประโยชน์ในการให้แสงสว่างได้ดั่งใจต้องการ ยิ่งเป็นบ้านที่ออกแบบมาในสไตล์ลอฟท์หรืออินดัสเทรียลด้วยแล้ว โคมไฟเหล่านี้ยิ่งดูกลมกลืนไปด้วยกัน เพิ่มความโดดเด่นให้บ้านดูสะดุดตา เป็นสไตล์ที่ง่ายแต่กลับมีเสน่ห์มากมายซ่อนอยู่ในแบบที่คุณเลือกแล้วจะต้องประทับใจไม่มีผิดหวังอย่างแน่นอน