ตู้เก็บของนอกบ้านนี่แหละที่ช่วยแก้ปัญหาพื้นที่จัดเก็บไม่พอ แต่ก็มาพร้อมกับความท้าทายมากมาย ทั้งแดด ฝน ความชื้น แมลง และปัญหาอื่นๆ ที่อาจทำให้ปวดหัวได้ไม่น้อย มาดูกันว่ามีปัญหาอะไรบ้างที่มักเจอ และจะแก้ไขยังไงดี
สนิม ศัตรูตัวร้ายของตู้เก็บของนอกบ้านเหล็ก
สนิมเป็นปัญหาที่พบบ่อยมากสำหรับตู้เก็บของนอกบ้านที่วางไว้นอกบ้าน เริ่มจากจุดเล็กๆ แล้วค่อยๆ ลามไปเรื่อยๆ จนตู้พังในที่สุด วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการเคลือบผิวตู้เก็บรองเท้านอกบ้านด้วยสีกันสนิมตั้งแต่แรก และหมั่นตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ
ถ้าเจอจุดสนิมเล็กๆ ให้รีบจัดการทันที โดยใช้กระดาษทรายขัดสนิมออกให้หมด เช็ดให้สะอาด แล้วทาสีกันสนิมทับ อย่าปล่อยทิ้งไว้เพราะสนิมจะลามไปเรื่อยๆ และยิ่งซ่อมยาก
ปลวกบุก ปัญหาใหญ่ของตู้ไม้
ตู้ไม้ที่วางนอกบ้านมักเจอปัญหาปลวกรุมกิน วิธีป้องกันง่ายๆ คือการยกตู้เก็บของนอกบ้านให้สูงจากพื้น ไม่ให้สัมผัสกับดินโดยตรง และควรใช้ขาตั้งที่ทำจากวัสดุกันปลวก
นอกจากนี้ควรทาน้ำยากันปลวกรอบๆ ตู้และบริเวณที่วางตู้เป็นประจำ ถ้าเริ่มเห็นร่องรอยปลวก ให้รีบจัดการทันที อย่าปล่อยไว้เพราะปลวกจะกินลึกเข้าไปเรื่อยๆ จนตู้พังในที่สุด
น้ำรั่วซึม คราบน้ำ และความชื้น
น้ำฝนที่รั่วซึมเข้าตู้เก็บของนอกบ้านเป็นปัญหาที่พบบ่อยมาก โดยเฉพาะตู้เก็บรองเท้านอกบ้านที่วางในที่โล่งแจ้ง วิธีป้องกันที่ดีคือการเลือกตำแหน่งวางตู้ให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงจุดที่น้ำฝนสาดโดยตรง หรือทำหลังคาคลุม
การแก้ปัญหาน้ำรั่วซึมต้องหาจุดรั่วให้เจอก่อน แล้วอุดด้วยซิลิโคนหรือวัสดุกันน้ำ ส่วนคราบน้ำที่เกิดขึ้นแล้วให้ใช้น้ำยาทำความสะอาดเช็ดออก และเช็ดให้แห้งสนิท
แมลงและสัตว์รบกวน
ตู้เก็บของนอกบ้านมักกลายเป็นที่อยู่อาศัยของแมลงและสัตว์ต่างๆ ทั้งมด แมงมุม ตุ๊กแก จิ้งจก การป้องกันทำได้โดยติดยางกันแมลงรอบๆ ตู้เก็บของนอกบ้าน และใช้ตะแกรงปิดช่องระบายอากาศเพื่อกันแมลงเข้า
แม้แต่นกก็อาจมาทำรังบนตู้เก็บของมินิมอลได้ ถ้าเป็นไปได้ควรติดแผ่นกันนกหรือวัสดุที่ทำให้นกเกาะไม่ได้ไว้บนตู้ และหมั่นทำความสะอาดไม่ให้มีเศษอาหารที่จะดึงดูดสัตว์มารบกวน
ประตูตู้เก็บของนอกบ้านเสียหาย บานพับหลวม
บานประตูที่เปิดปิดบ่อยๆ มักเกิดปัญหาบานพับหลวม ลูกบิดหมุนฝืด หรือประตูปิดไม่สนิท ถ้าปล่อยไว้นานๆ อาจทำให้ประตูหลุดออกมาได้ วิธีแก้ง่ายๆ คือการขันน็อตบานพับให้แน่น และหยอดน้ำมันหล่อลื่นเป็นประจำ
ลูกบิดที่หมุนฝืดแก้ได้ด้วยการฉีดน้ำมันหล่อลื่น ถ้ายังไม่ดีขึ้นอาจต้องเปลี่ยนลูกบิดใหม่ ส่วนยางขอบประตูที่เสื่อมสภาพก็ควรเปลี่ยนใหม่เพื่อให้ปิดสนิท ป้องกันน้ำและแมลงเข้า
พื้นตู้ทรุด ขาตั้งไม่มั่นคง
พื้นดินที่ไม่เรียบหรือทรุดตัวทำให้ตู้เอียง ขาตั้งไม่มั่นคง นอกจากจะทำให้ใช้งานลำบากแล้ว ยังอาจเป็นอันตรายถ้าตู้เก็บของนอกบ้านล้มทับ วิธีแก้คือการปรับระดับพื้นให้เรียบ อาจใช้แผ่นไม้หรือวัสดุรองขาตู้ให้สูงเท่ากัน
ถ้าพื้นเป็นดิน ควรเทปูนหรือวางแผ่นปูนสำเร็จรูปก่อนวางตู้ เพื่อให้พื้นแข็งแรงและเรียบ ไม่ทรุดตัวง่าย ขาตู้ที่ชำรุดควรซ่อมหรือเปลี่ยนใหม่ทันที อย่าปล่อยให้ตู้โยกเยก
สีซีดจางเพราะแดด
แดดจัดทำให้สีตู้เก็บรองเท้านอกบ้านซีดจางเร็ว โดยเฉพาะตู้พลาสติกหรือตู้ที่ทาสีไว้ วิธีป้องกันที่ดีที่สุดคือการวางตู้ในที่ร่ม หรือทำที่บังแดด ถ้าจำเป็นต้องโดนแดด ควรเลือกใช้สีที่ทนแดดและรังสี UV
การทาสีใหม่เมื่อสีเดิมซีดจางก็เป็นทางเลือกที่ดี แต่ต้องขัดสีเก่าออกให้หมดก่อน และเลือกใช้สีที่เหมาะกับวัสดุของตู้เก็บของนอกบ้าน เช่น สีพลาสติก สีเหล็ก หรือสีไม้
การจัดการพื้นที่ใช้สอย
พื้นที่ในตู้เก็บของนอกบ้านมักไม่พอใช้ หรือจัดเก็บของไม่เป็นระเบียบ ทำให้หาของยาก และอาจทำให้ของพังเสียหายได้ การแก้ปัญหานี้เริ่มจากการจัดระเบียบ แยกประเภทของที่จะเก็บ และใช้กล่องหรือภาชนะช่วยจัดระเบียบ
การติดตั้งชั้นวางเพิ่มก็เป็นไอเดียที่ดี แต่ต้องระวังไม่ให้น้ำหนักมากเกินไป และควรยึดชั้นให้แน่นหนา ของที่ใช้บ่อยควรวางไว้ด้านหน้า ส่วนของที่ใช้นานๆ ครั้งวางไว้ด้านใน
กลิ่นอับและเชื้อรา
ความชื้นในอากาศทำให้เกิดกลิ่นอับและเชื้อรา โดยเฉพาะในหน้าฝน การระบายอากาศที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ ควรเจาะช่องระบายอากาศหรือติดพัดลมระบายอากาศขนาดเล็ก
การใช้สารดูดความชื้นหรือซิลิกาเจลช่วยลดความชื้นได้ดี แต่ต้องเปลี่ยนหรือนำไปอบใหม่เมื่อดูดความชื้นเต็มที่แล้ว นอกจากนี้การเปิดตู้เก็บของมินิมอลระบายอากาศเป็นประจำก็ช่วยได้มาก
การรับมือกับสภาพอากาศรุนแรง
ลมพายุ ฝนตกหนัก หรือน้ำท่วมอาจทำให้ตู้เสียหายได้ ถ้าอยู่ในพื้นที่ที่เจอพายุบ่อย ควรยึดตู้ติดกับผนังหรือเสาให้แน่นหนา และเลือกตำแหน่งวางตู้เก็บของนอกบ้านให้ห่างจากต้นไม้ใหญ่ที่อาจล้มทับ
ในพื้นที่น้ำท่วมบ่อย ควรยกตู้ให้สูงจากพื้น และเตรียมแผนอพยพของในตู้ไว้ด้วย อาจทำชั้นวางชั่วคราวในบ้านสำหรับย้ายของเข้ามาเมื่อมีน้ำท่วม
การบำรุงรักษาระยะยาว
การดูแลตู้เก็บรองเท้านอกบ้านอย่างสม่ำเสมอช่วยยืดอายุการใช้งานได้มาก ควรทำความสะอาดตู้เก็บของมินิมอลทุกเดือน ตรวจสอบความเรียบร้อยของตู้เก็บของนอกบ้าน เช่น รอยรั่ว บานพับ ลูกบิด และซ่อมแซมทันทีที่พบปัญหา
การลงน้ำมันบานพับและลูกบิดทุก 3-4 เดือนช่วยให้ใช้งานได้ลื่นไหล ส่วนการทาสีใหม่หรือเคลือบผิวควรทำทุก 2-3 ปี ขึ้นอยู่กับสภาพการใช้งานและการโดนแดดฝน
ตู้เก็บของนอกบ้านอาจมาพร้อมกับปัญหามากมาย แต่ถ้าเข้าใจวิธีดูแลและแก้ไขปัญหา ก็จะช่วยให้ใช้งานได้อย่างคุ้มค่าและยาวนาน การเลือกตู้เก็บของนอกบ้านที่เหมาะสมกับการใช้งานและสภาพแวดล้อม พร้อมทั้งดูแลรักษาอย่างถูกวิธี จะช่วยประหยัดทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาว