Skip to content

Welcome to Lounge Lovers Store

Lounge Lovers
Previous article
Now Reading:
8 เทคนิคเลือก พรมปูพื้น ให้สวยและปลอดภัย สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง
Next article

8 เทคนิคเลือก พรมปูพื้น ให้สวยและปลอดภัย สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง

8 เทคนิคเลือกพรมปูพื้นให้สวยและปลอดภัย สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง

 

หลายคนที่ชอบดูตัวอย่างการจัดแต่งบ้านสวยๆ จะสังเกตได้ว่า พรมปูพื้น เป็นหนึ่งในไอเทมสุดเก๋ที่ช่วยยกระดับการตกแต่งให้โดดเด่นและดูมีสไตล์ยิ่งขึ้น เนื่องจากสีสันและลวดลายที่สะดุดตาจะช่วยสร้างบรรยากาศที่แตกต่างกันให้กับห้องต่างๆ อย่างไรก็ตาม บ้านใครที่มีเด็กเล็กหรือสัตว์เลี้ยง อาจกังวลว่าไอเทมชิ้นนี้จะเหมาะกับบ้านเราหรือไม่ แล้วควรเลือกอย่างไรให้ทั้งสวยและปลอดภัยสำหรับทุกคนในครอบครัว ในบทความนี้เราเลยมีเทคนิคดีๆ ในการเลือก พรมปูพื้น สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยงมาฝากกัน

เทคนิคเลือก พรมปูพื้น เพื่อบ้านที่มีเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง

เทคนิคเลือก พรมปูพื้น เพื่อบ้านที่มีเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง

 

สิ่งสำคัญที่สุดในการเลือกข้าวของใดๆ ก็ตามสำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง อย่างน้องหมา น้องแมว ก็คือความปลอดภัย ตามมาด้วยความง่ายในการดูแลและทำความสะอาด เทคนิคการเลือก พรมปูพื้น ที่เข้ากับเงื่อนไขดังกล่าวจึงมีดังนี้

1. เลือกวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย

พรมในบ้านของเราอาจมีโอกาสเกิดคราบเลอะเทอะเปรอะเปื้อนได้ง่าย จากการที่เด็กๆ ไม่ระวังทำขนมหกใส่บ้าง หรือขนของสัตว์เลี้ยงร่วงใส่บ้าง คุณสมบัติข้อแรกที่เราต้องมองหาจึงเป็นพรมที่ทำจากวัสดุที่ดูแลและทำความสะอาดได้ง่าย เช่น พรมจากโพลีเอสเตอร์ (Polyester) ไนลอน (Nylon) หรือผ้าฝ้ายผสมสังเคราะห์ (Poly-cotton หรือ Cotton-blend) ซึ่งทนต่อการเกิดคราบเลอะเทอะ ดูดซับน้ำและคราบน้ำมันน้อยกว่าเส้นใยธรรมชาติ สามารถเช็ดทำความสะอาดได้ทันทีโดยไม่ต้องนำไปขัดหรือซักทุกครั้ง หรือสามารถซักด้วยเครื่องได้โดยพรมไม่เสียรูปทรงและสีสัน

เทคนิคเลือก พรมปูพื้น เพื่อบ้านที่มีเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง

 

2. มีความทนทานและไม่เป็นขุย

พรมปูพื้น มีความเสี่ยงจะเกิดความเสียหายหรือสึกหรอได้เร็วเช่นกัน จากการที่เด็กๆ วิ่งเล่นไปมา ลากของเล่นเสียดสี หรือโดนเล็บของน้องหมาน้องแมวขีดข่วนเป็นประจำ เราจึงควรเลือกพรมที่มีเนื้อผ้าหนาพอสมควร เพื่อป้องกันการเกิดขุย รอยขีดข่วน หรือการสึกหรอในระยะยาว ตัวอย่างเช่น พรมที่ทำจากไนลอนหรือทอจากผ้าฝ้ายผสมเส้นใยเทียม ซึ่งมีความหนานุ่มและทนทานต่อการเสียดสีเป็นพิเศษ

3. พื้นผิวไม่ลื่นไหล

พรมที่มีพื้นผิวลื่นเมื่อเดินเหยียบ อาจทำให้เด็กและสัตว์เลี้ยงลื่นล้มบาดเจ็บขณะวิ่งไปมาได้ ดังนั้น ทางที่ดีจึงควรเลือกพรมที่สามารถยึดเกาะกับพื้นได้ดีและไม่ลื่นไถล เช่น พรมที่ด้านล่างบุด้วยเทฟลอนหรือมีฉนวนกันลื่น ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันอุบัติเหตุหกล้มในขณะเดินหรือวิ่งเล่น

4. เนื้อผ้าไม่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตย์

หนึ่งในปัญหาที่เจอกันบ่อยของพรมที่มี texture เป็นขนๆ นุ่มฟู ก็คือการเกิดไฟฟ้าสถิตย์กับผิวหนัง โดยเฉพาะเมื่ออากาศแห้งมากๆ ซึ่งอาจทำให้เด็กๆ และสัตว์เลี้ยงรู้สึกเจ็บหรือตกใจได้ เราจึงควรเน้นเลือกพรมที่เนื้อผ้าหรือเคลือบด้านในไม่ก่อไฟฟ้าสถิตย์ เช่น พรมที่มีเส้นขนสั้นและเรียบ พรมที่ทำจากไนลอนและโพลีเอสเตอร์คุณภาพสูง ซึ่งผ่านการปรับปรุงคุณสมบัติให้มีการเกิดไฟฟ้าสถิตย์ต่ำ หรือพรมที่เคลือบด้วยเทคโนโลยีลดไฟฟ้าสถิตย์ (antistatic coating)

เทคนิคเลือก พรมปูพื้น เพื่อบ้านที่มีเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง

 

5. ควรเป็นพรมที่ไม่เป็นขุยหรือฝุ่นสะสมง่าย

พรมที่มีขนยาวและฟูเกินไป อาจกลายเป็นแหล่งสะสมของฝุ่นหรือสิ่งสกปรก รวมถึงพรมที่ทอจากวัสดุคุณภาพต่ำก็มักเกิดรอยขุย หรือมีเส้นใยเล็กๆ หลุดออกมา ซึ่งหากเด็กๆ และสัตว์เลี้ยงสูดดมหรือเผลอกินเข้าไป ก็อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ เราจึงควรเลือก พรมปูพื้น ชนิดขนสั้นที่ค่อนข้างเรียบ มีคุณภาพการทอที่ดี ไม่เป็นขุยง่าย เส้นใยไม่หลุดลุ่ย เพื่อสุขอนามัยที่ดีของทุกคนในบ้าน

6. มีความปลอดภัยได้มาตรฐาน

พรมสำหรับใช้ในบ้านจะต้องได้มาตรฐานความปลอดภัยและไม่ปล่อยสารพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ โดยเราสามารถดูได้จากการผ่านการรับรองความปลอดภัยต่างๆ อาทิเช่น

  • มาตรฐาน OEKO-TEX Standard 100 : เป็นมาตรฐานระดับสากลที่รับรองว่าเนื้อผ้าไม่ปล่อยสารพิษ สารก่อภูมิแพ้ และสารเคมีอันตรายในระดับที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ
  • Green Label (Thailand) : เป็นมาตรฐานจากกระทรวงอุตสาหกรรมไทย ที่รับรองว่าผลิตภัณฑ์นั้นผลิตจากวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ปราศจากสารพิษและปลอดภัยต่อสุขภาพ
  • UL (Underwriters Laboratories) : เป็นมาตรฐานจากสหรัฐอเมริกาที่รับรองความปลอดภัยด้านไฟฟ้าและคุณสมบัติกันไฟ
  • EN 71 (Europe) : เป็นมาตรฐานความปลอดภัยของผลิตภัณฑ์สำหรับเด็ก ว่าผ่านการทดสอบความปลอดภัยและไม่มีสารพิษ

7. ดีไซน์และสีสันเพื่อซ่อนคราบเปื้อน

อย่างที่รู้กันว่า พรมปูพื้น ในบ้านที่มีเด็กๆ และสัตว์เลี้ยงนั้นมักเลอะเทอะเปรอะเปื้อนได้ง่ายจากสาเหตุต่างๆ หากไม่อยากต้องคอยทำความสะอาดอยู่ตลอดเวลา ก็อาจมองหาพรมที่มีสีและลวดลายที่สามารถซ่อนคราบเปื้อนได้ดี เช่น พรมที่มีสีเข้ม มีลวดลายพิมพ์ที่ไม่เด่นชัด หรือลายแบบไมโคร ในทางกลับกัน ก็อาจหลีกเลี่ยงพรมสีขาวหรือสีพื้นโทนอ่อน รวมถึงพรมที่มีลายพิมพ์ขนาดใหญ่และโดดเด่น

เทคนิคเลือก พรมปูพื้น เพื่อบ้านที่มีเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง

 

8. ขนาดและความหนาเหมาะสม

แน่นอนว่า พรมปูพื้น นั้นควรมีขนาดที่พอดีกับพื้นที่ หรือเข้ากับการตกแต่งบ้านโดยรวม นอกจากนี้ พรมยังควรมีความหนาที่เหมาะสม เพื่อช่วยเสริมความนุ่มนวลให้เด็กๆ ได้นั่งเล่น ฝึกคลาน หรือสามารถหกล้มได้โดยไม่เจ็บ รวมถึงพรมที่หนาและนุ่มสบายยังช่วยให้ความอบอุ่นและช่วยลดเสียงรบกวนขณะสัญจรไปมาภายในห้องได้ด้วย

สรุปคุณสมบัติของ พรมปูพื้น ที่เหมาะกับบ้านที่มีเด็กและสัตว์เลี้ยง

  • วัสดุมีความทนทาน ซักและทำความสะอาดง่าย
  • มีความหนาและนุ่มกำลังดี ในขณะเดียวกันก็มีเส้นขนที่สั้นและเรียบ ไม่มีขุย
  • ผ่านมาตรฐานด้านความปลอดภัย
  • มีคุณสมบัติกันลื่น
  • สีสันและลายซ่อนคราบเลอะได้ดี

สรุปคุณสมบัติของ พรมปูพื้น ที่เหมาะกับบ้านที่มีเด็กและสัตว์เลี้ยง

แม้ พรมปูพื้น จะเป็นไอเทมที่เหมาะกับการตกแต่งบ้านแทบทุกสไตล์ แต่สำหรับบ้านที่มีเด็กเล็กและสัตว์เลี้ยง ก็อาจมีข้อจำกัดในการเลือกมากเป็นพิเศษ เทคนิคที่เราแนะนำในบทความนี้ จึงน่าจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่และคนที่เลี้ยงน้องหมาน้องแมวหรือสัตว์ต่างๆ ในบ้าน สามารถเลือกพรมที่เหมาะสมกับบ้านและตรงกับการใช้งานได้ง่ายยิ่งขึ้น

 

Cart

Close

Your cart is currently empty.

Start Shopping

Select options

Close