Skip to content

Welcome to our store

Lounge Lovers
Previous article
Now Reading:
8 ข้อผิดพลาดในการเลือกและวางโต๊ะกลางรับแขก ถ้าอยากให้ห้องดูสวยแพง ควรเลี่ยง!

8 ข้อผิดพลาดในการเลือกและวางโต๊ะกลางรับแขก ถ้าอยากให้ห้องดูสวยแพง ควรเลี่ยง!

 8 ข้อผิดพลาดในการเลือกและวางโต๊ะกลางรับแขก ถ้าอยากให้ห้องดูสวยแพง ควรเลี่ยง!

โต๊ะกลางรับแขก จัดว่าเป็นเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นหน้าเป็นตาของห้องรับแขกและห้องนั่งเล่นของบ้าน ซึ่งปัจจุบันก็มีดีไซน์ของโต๊ะกลางให้เราเลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โต๊ะกลางโซฟาไม้ โต๊ะกลางหินอ่อน โต๊ะกลางกระจก โต๊ะกลางวงกลม วงรี หรือสี่เหลี่ยม อย่างไรก็ตาม การเลือกโต๊ะกลางที่พลาดหรือการจัดวางแบบพังๆ ก็อาจเป็นการดาวน์เกรด ทำให้ห้องที่ควรจะสวยหรูกลับดูไม่แพง หรือชวนให้มองแล้วรู้สึกอึดอัดได้ หากไม่อยากให้ดีไซน์ดูหมองเหมือนห้องมีตำหนิ เรามาดูกันดีกว่าว่าข้อผิดพลาดอะไรที่เราควรหลีกเลี่ยงบ้าง

8 ข้อผิดพลาดในการเลือกและวางโต๊ะกลางรับแขก

  1. ไม่สนใจเรื่องความสูง
  2. แม้ โต๊ะกลางรับแขก ของเราจะสวยหรูดูดีแค่ไหน แต่หากไม่ใช่ความสูงที่เหมาะสม เมื่อวางเข้าคู่กับโซฟาก็คงจะดูผิดที่ผิดทาง โดยโต๊ะกลางควรมีความสูงพอๆ กับเบาะที่นั่งของโซฟา หรือเตี้ยกว่าขอบบนของเบาะนั่งไม่เกิน 1-2 นิ้ว เพราะหากโต๊ะกลางสูงหรือเตี้ยเกินไป นอกจากจะทำให้มุมรับแขกของเราดูไม่เนียนตาแล้ว ก็ยังเป็นอุปสรรคต่อการใช้งานวางและหยิบสิ่งของอีกด้วย

  3. ไม่ใส่ใจเรื่องสัดส่วน
  4. เมื่อได้ความสูงของโต๊ะกลางที่เหมาะสมแล้ว อีกเรื่องที่ต้องคำนึงถึงก็คือขนาดความกว้างและความยาวของโต๊ะที่ได้สัดส่วนพอดีกับโซฟา โดยโต๊ะกลาง ไม่ว่ารูปทรงใดก็ตาม ควรมีความยาวอยู่ที่ราวๆ ⅔ ของความยาวโซฟา เช่น ถ้าโซฟาของเรายาว 96 นิ้ว โต๊ะกลางก็ควรมีความยาวประมาณ 64 นิ้ว เป็นต้น อย่างไรก็ตาม เราอาจไม่จำเป็นต้องคำนวณตัวเลขเป๊ะๆ เพียงแค่กะสัดส่วนด้วยสายตา หากว่าโต๊ะกลางไม่ดูยาวหรือสั้นเกินไปเมื่อเทียบกับโซฟาก็เป็นอันใช้ได้

8 ข้อผิดพลาดในการเลือกและวางโต๊ะกลางรับแขก

  1. ไม่คำนึงถึงการสัญจรภายในห้อง
  2. เราคงพอนึกภาพออกว่าห้องที่วางเฟอร์นิเจอร์แออัดกันจนเต็มและแทบไม่มีทางเดินนั้นน่าอึดอัดขนาดไหน ซึ่งนั่นก็เป็นข้อผิดพลาดข้อที่ 3 ที่เราควรหลีกเลี่ยง หากต้องการให้การสัญจรในห้องเป็นไปโดยสะดวก เราควรจะวางโต๊ะกลางให้ห่างจากโซฟาไว้ประมาณ 12 - 18 นิ้ว ซึ่งเป็นระยะที่พอจะเดินผ่านได้ รวมถึงควรเว้นระยะระหว่างโต๊ะกลางกับชั้นวางทีวี หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่อื่นๆ ไว้ประมาณ 24 - 30 นิ้ว เพื่อให้ห้องดูโปร่งโล่งและไม่แออัดเกินไป นอกจากนี้ การเลือกรูปทรงของโต๊ะกลางก็มีความสำคัญเช่นกัน โดย โต๊ะกลางวงกลม หรือวงรี จะมีเส้นขอบที่โค้งมน ทำให้เราสามารถเดินรอบๆ โต๊ะและสัญจรภายในห้องได้ง่าย จึงเหมาะกับห้องที่มีขนาดเล็กมากกว่าโต๊ะกลางทรงสี่เหลี่ยม

  3. โต๊ะกลางทำให้ห้องขาดสมดุล
  4. อีกหนึ่งข้อผิดพลาดในการเลือก โต๊ะกลางรับแขก คือดีไซน์ของโต๊ะกลางดูไม่สอดรับกันกับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่นๆ ภายในห้อง ยกตัวอย่างเช่น หากเรามีโซฟาที่มีดีไซน์ค่อนข้างหนา มีขาใหญ่และเตี้ย และเรายังเลือกโต๊ะกลางที่ดีไซน์หนาทึบ ไม่มีขา หรือขาเตี้ยเหมือนกัน ก็จะยิ่งทำให้พื้นห้องเราแลดูแออัดยัดเยียดและชวนให้อึดอัด ในทางตรงข้าม โต๊ะกลางที่มีดีไซน์โปร่งเบา มีขาเรียวเล็ก ยกสูงจากพื้น หรือทำจากกระจกใส กลับจะช่วยให้ห้องดูโล่งสบายตามากกว่านั่นเอง

8 ข้อผิดพลาดในการเลือกและวางโต๊ะกลางรับแขก

  1. โต๊ะกลางไม่เหมาะสมกับการใช้งาน
  2. โต๊ะกลางที่สวยแต่ใช้งานไม่ได้ย่อมเป็นการลงทุนที่ไม่คุ้มค่าและไม่ใช่ตัวเลือกที่เราอยากแนะนำ ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อโต๊ะกลางสักตัวจึงควรพิจารณาไลฟ์สไตล์ของเราก่อน หากเราเป็นคนมีข้าวของมากมาย ก็อาจเลือกโต๊ะกลางที่มีช่องหรือลิ้นชักเก็บของ หากเราชอบนั่งทำงานที่โซฟา ก็อาจหาโต๊ะกลางที่สามารถปรับระดับเป็นโต๊ะทำงานได้ หรือหากมีเด็กเล็กในบ้าน ก็อาจหลีกเลี่ยงโต๊ะกลางที่มีขอบแหลมคมซึ่งอาจทำให้บาดเจ็บได้

  3. ดีไซน์ของโต๊ะกลางไม่เข้ากับห้อง
  4. ความกลมกลืนของดีไซน์เป็นสิ่งแรกที่คนจะสนใจเมื่อเดินเข้ามาในบ้าน แม้ว่า โต๊ะกลางรับแขก ของเราจะถูกออกแบบมาอย่างดี หรือมีราคาแพงแค่ไหน แต่ถ้าไม่เข้ากันกับสไตล์โดยรวมของห้อง ก็มีแต่จะทำให้รู้สึกประดักประเดิด เช่น โต๊ะกลางที่มีลวดลายวิจิตรสลักเสลา ย่อมไม่เข้ากับห้องสไตล์โมเดิร์นจัดๆ เท่ากับโต๊ะกลางดีไซน์เรียบๆ ที่ไม่มีรายละเอียดอะไรเลย ดังนั้น ก่อนเลือกซื้อโต๊ะกลางอย่าลืมคำนึงถึงธีมการตกแต่งห้องของเราก่อนด้วย

8 ข้อผิดพลาดในการเลือกและวางโต๊ะกลางรับแขก

  1. วัสดุที่ใช้ไม่ตอบโจทย์
  2. เราจะเห็นว่าโต๊ะกลางสวยๆ นั้นทำมาจากวัสดุที่หลากหลาย ซึ่งแต่ละประเภทก็มีข้อดี-ข้อเสียแตกต่างกันไป และนี่ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เราต้องพิจารณาให้ดีถ้าไม่อยากให้มีข้อผิดพลาด ตัวอย่างเช่น หากเราไม่มีเวลาทำความสะอาดบ่อยๆ ก็ควรเลี่ยงวัสดุที่ดูแลยาก อย่างโต๊ะกลางหินอ่อน หรือถ้าที่บ้านมีเด็กและสัตว์เลี้ยง ก็ควรเลี่ยงโต๊ะกลางกระจกซึ่งมีโอกาสแตกเสียหายได้ แล้วอาจเลือกเป็น โต๊ะกลางโซฟาไม้ หรือโต๊ะกลางชนิดบุผ้า ที่ดูปลอดภัยกว่าแทน

  3. การตกแต่งโต๊ะกลางขาดเสน่ห์
  4. การตกแต่งโต๊ะกลางเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้เรื่องอื่น แม้เราจะมีโต๊ะกลางโซฟาที่สวยตรงใจแล้ว แต่ถ้าตกแต่งออกมาแล้วขาดจุดเด่น ดูไม่น่าสนใจ ก็อาจทำให้ห้องรับแขกของเราหมดเสน่ห์ลงได้ ยกตัวอย่างการตกแต่งพลาดๆ ที่ควรเลี่ยง ก็ได้แก่ การวางของตกแต่งมากชิ้นเกินไป และวางราบกับพื้นโต๊ะเสมอกันหมด โดยไม่มีการจัดเลเยอร์ หรือการเลือกของตกแต่งที่มีขนาดเท่าๆ กันหลายชิ้นมาวางอย่างกระจัดกระจาย ซึ่งกรณีนี้เราสามารถแก้ไขได้ด้วยการวางสิ่งของเป็นกลุ่ม โดยอาจใช้ถาดหรือตะกร้าช่วยในการจัดกลุ่ม รวมถึงอาจวางสิ่งของซ้อนในแนวตั้งบ้าง เช่น วางเชิงเทียนไว้บนตั้งหนังสือปกสวยๆ อีกทีหนึ่ง ซึ่งก็จะช่วยให้พื้นที่โต๊ะกลางของเรามีจุดโฟกัสสายตาและดูมีมิติยิ่งขึ้นได้

 8 ข้อผิดพลาดในการเลือกและวางโต๊ะกลางรับแขก ถ้าอยากให้ห้องดูสวยแพง ควรเลี่ยง!

และนี่ก็คือ 8 ข้อผิดพลาดในการเลือกและจัดวาง โต๊ะกลางรับแขก ที่อาจทำให้ห้องของเราหมดสวยในพริบตา อย่างไรก็ตาม การเลือกโต๊ะกลางนั้นไม่ได้มีสูตรสำเร็จตายตัว แต่ขึ้นอยู่กับความชอบและรสนิยมของเราเป็นหลัก เช่น บางคนอาจชอบโต๊ะกลางสี่เหลี่ยมมากกว่า โต๊ะกลางวงกลม แม้ห้องจะมีขนาดค่อนข้างเล็ก หรือเราอาจชอบโต๊ะกลางหินอ่อนมากกว่าโต๊ะกลางโซฟาไม้ แม้จะดูแลรักษายากกว่าก็ตาม ทั้งนี้ เราสามารถเลือกแบบที่ถูกใจได้โดยไม่ต้องกลัวผิด เพราะสำหรับเรื่องบ้านแล้ว ความสุขของผู้อยู่อาศัยย่อมเป็นสิ่งสำคัญที่สุด

Cart

Close

Your cart is currently empty.

Start Shopping

Select options

Close