โซฟารับแขก แบบผ้าถือเป็นอีกหนึ่งเฟอร์นิเจอร์ที่ได้รับความนิยมมากมาโดยตลอด ด้วยความที่สามารถแมทช์กับห้องสไตล์ต่างๆ ได้ง่าย มีดีไซน์ สีสัน และลวดลายให้เลือกหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น โซฟาวินเทจ หรือแบบโมเดิร์น แถมยังมีสัมผัสที่นุ่มสบาย แต่ปัญหาสำคัญอยู่ตรงที่หากไม่ดูแลรักษาให้ดี โซฟาสวยๆ ของเราก็อาจเปรอะเปื้อนหรือเก่าซีดได้เมื่อเวลาผ่านไป ในบทความนี้เราเลยจะมาแชร์ทริคการดูแล โซฟารับแขก บุผ้าให้ดูสวยเป๊ะเหมือนใหม่อยู่เสมอ ใครที่มีโซฟาผ้าแสนรักอยู่แล้วไม่ควรพลาด
ทำไมใครๆ ถึงรัก โซฟารับแขก บุผ้า
โซฟาผ้าเป็นไอเทมที่หลายคนหลงรักและเลือกจะนำมาวางไว้ในห้องนั่งเล่นแสนอบอุ่น เนื่องจาก โซฟารับแขก แบบผ้ามีข้อดีหลายอย่าง เช่น
- มีดีไซน์ให้เลือกมากมายหลายแบบ ตั้งแต่ โซฟาวินเทจ ที่มีดีเทล สีสัน และลวดลายต่างๆ ไปจนถึงโซฟารูปทรงและสีเรียบๆ แบบโมเดิร์น
- สามารถเข้าได้กับการตกแต่งห้องหลากหลายสไตล์ แม้จะปรับโฉมเปลี่ยนลุคให้ห้องใหม่ โซฟาผ้าตัวเดิมก็ยังสามารถเติมเต็มดีไซน์ให้ห้องได้อยู่
- ช่วยสร้างบรรยากาศที่อบอุ่นสบายๆ เชื้อเชิญ และเป็นกันเองให้กับห้อง จึงเหมาะกับห้องนั่งเล่นสุดชิลล์ของครอบครัว หรือห้องรับแขกที่ดูไม่เป็นทางการจนเกินไป
- มีสัมผัสที่นุ่มสบาย เหมาะแก่การพักผ่อน
- ค่อนข้างทนทานต่อการใช้งาน และดูแลรักษาไม่ยากมากนัก เมื่อเทียบกับโซฟาแบบบุหนัง
- มีความสวยคลาสสิคตลอดกาล ไม่เชย ไม่เอาท์ไปตามกาลเวลา จึงเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าสำหรับใครที่กำลังมองหา โซฟาสวยๆ สักตัว
ถึงแม้โซฟาบุผ้าจะมีความดีงามมากมาย แต่เรื่องการดูแลรักษาก็เป็นสิ่งที่ละเลยไม่ได้ เพราะวัสดุผ้ามักจะมีปัญหาการอมฝุ่น เมื่อมีคราบเปื้อน อย่างเช่นคราบอาหาร ก็มักจะติดแน่นบนผ้าและเช็ดออกได้ยาก รวมไปถึงความเก่าซีด หรือผ้าเปื่อยขาดหมดสภาพเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งหากเราต้องการคงสภาพโซฟาผ้าแสนรักของเราให้สวยวิ้งเหมือนใหม่ ก็ตามไปอ่าน tips การดูแลรักษาในหัวข้อถัดไปกันเลย
7 Tips ดูแลรักษา โซฟารับแขก บุผ้า
- หมั่นดูดฝุ่นบนโซฟา
สำหรับสภาพแวดล้อมที่ฝุ่นละอองเยอะแบบบ้านเรา การหมั่นทำความสะอาดเครื่องเรือนไม่ให้ฝุ่นจับเป็นสิ่งที่สำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับโซฟาผ้า เนื่องจากหากปล่อยไว้นาน อณูฝุ่นจะยึดเกาะแน่นอยู่บนเนื้อผ้า ยิ่งเราใช้งานโดยการนั่งหรือนอนทับเป็นประจำ ฝุ่นละอองก็จะยิ่งถูกดันลึกเข้าไปในเนื้อผ้า ซึ่งทำให้โซฟาผ้าของเราเสื่อมสภาพเร็วขึ้นมาก แถมยังกลายเป็นแหล่งก่อภูมิแพ้ได้อีกต่างหาก ดังนั้นทุกครั้งที่ทำความสะอาดบ้าน ก็อย่าลืมดูดฝุ่นบนโซฟาไปพร้อมกันด้วย
- ดูแลรักษาตามชนิดของผ้า
- การดูแลเบาะรองและหมอนอิงโซฟา
- การทำความสะอาดรอยเปื้อน
โซฟาที่ซื้อมาใหม่มักมีป้ายติดไว้เพื่อบอกรายละเอียดต่างๆ ซึ่งได้แก่ ชนิดของผ้า ชนิดของวัสดุภายในตัวเบาะ และการดูแลรักษา ซึ่งหากเป็นไปได้เราควรเก็บป้ายดังกล่าวไว้เพื่อการดูแลรักษาที่ถูกต้องตามชนิดของเนื้อผ้า ตัวอย่างเช่น โซฟาบุผ้าทั่วไป หรือ “W” สามารถซักหรือทำความสะอาดด้วยน้ำยาชนิดเหลว ตามด้วยการอบแห้ง หรืออบไอน้ำฆ่าเชื้อโรคได้ ส่วนโซฟาผ้าที่เป็นฝ้ายออร์แกนิค หรือ “O” ควรจะซักทำความสะอาดด้วยน้ำเย็นเท่านั้น ไม่ควรใช้ความร้อนในการอบ เป็นต้น
เบาะรองและหมอนเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้โซฟาผ้าของเราดูนุ่มฟู นั่งสบาย สำหรับเบาะและหมอนที่สามารถถอดปลอกออกได้ ก็ควรถอดซักอย่างน้อยเดือนละ 1-2 ครั้ง เพื่อกำจัดฝุ่นและไม่ให้เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรค โดยหลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาฟอกขาวที่อาจทำให้สีผ้าซีดลงได้ ส่วนเบาะและหมอนที่ถอดปลอกไม่ได้ ก็ให้ดูดฝุ่นบ่อยๆ และเช็ดด้วยน้ำยาทำความสะอาด นอกจากนี้ สิ่งสำคัญที่หลายคนมักละเลยคือการตบหมอนและจัดเบาะรองนั่งให้คืนรูปเป็นประจำ หรือทุกครั้งหลังใช้งาน ซึ่งจะช่วยให้ โซฟารับแขก ของเราดูพองฟู นุ่มสบายน่านั่ง อีกทั้งช่วยให้เบาะและหมอนที่ผ่านการใช้งานนานๆ ไม่แบนลีบผิดรูปด้วย
โซฟาผ้ามีโอกาสเกิดรอยเปื้อนและคราบฝังลึกได้ง่าย โดยเฉพาะจากอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งการลงมือจัดการทันทีที่เกิดคราบเปื้อนก็จะช่วยป้องกันการเกิดคราบถาวรได้ เทคนิคคือให้เราใช้กระดาษทิชชูสีขาวหลายๆ ชั้นชุบด้วยน้ำอุ่นวางซับบนรอยเปื้อน เพื่อให้ทิชชูดึงเอาคราบสกปรกบนผ้าออก จากนั้นจึงถอดซักหรือทำความสะอาดตามปกติ หรืออีกวิธีหนึ่งคือใช้น้ำยาทำความสะอาดเฟอร์นิเจอร์ผ้าโดยเฉพาะ ซึ่งหาซื้อได้ตามห้างสรรพสินค้าทั่วไปทั้งในรูปแบบสเปรย์ฉีดและแบบผสมกับน้ำ โดยอาจใช้ผ้าชุบน้ำยาที่ผสมแล้วเช็ดลงบนคราบให้พอหมาด แล้วใช้แปรงขนแข็งๆ ขัดเบาๆ จนคราบออกหมด จากนั้นจึงใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดซ้ำบริเวณดังกล่าวอีกทีหนึ่ง
- การป้องกันผ้าเก่าซีด
- Tip สำหรับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยง
- จ้างมืออาชีพทำความสะอาด
หากไม่อยากให้ โซฟาสวยๆ ของเราสีซีดหมองเพราะถูกแดดเลีย ก็ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแสงแดดให้ได้มากที่สุด โดยการไม่วางโซฟาในจุดที่ต้องรับแสงแดดโดยตรง และปิดม่านหน้าต่างในตอนที่มีแดดจัด หรืออาจใช้วิธีปรับเปลี่ยนเวียนตำแหน่งของโซฟา สลับตำแหน่งเบาะนั่ง หรือกลับด้านหมอนบ่อยๆ เพื่อไม่ให้จุดใดจุดหนึ่งโดนแสงแดดเลียเป็นเวลานาน ซึ่งอาจทำให้ผ้าบุโซฟามีสีซีดจางไม่สม่ำเสมอ จนดูเหมือนไม่ได้รับการดูแลรักษา
ใครที่มีน้องหมาน้องแมวคงรู้กันดีว่าวัสดุผ้านั้นเป็นตัวดึงดูดและกักเก็บขนสัตว์ชั้นเยี่ยม แถมการดูดฝุ่นธรรมดาก็ไม่สามารถกำจัดขนน้องแมวน้องหมาออกจนเกลี้ยงได้ วิธีทำความสะอาดที่ง่ายแต่ได้ผลดีก็คือการใช้ลูกกลิ้งกำจัดขนที่คุณภาพดีกลิ้งให้ทั่วโซฟาเป็นประจำทุกวัน รวมถึงการเช็ดและซักปลอกโซฟาด้วยน้ำร้อนก็จะช่วยให้เศษขนหลุดออกง่ายขึ้นได้
บางครั้งการดูดฝุ่นหรือเช็ดทำความสะอาดโซฟาด้วยตัวเอง กไม่สามารถขจัดคราบฝังลึกในบางจุดได้ เช่น ตามซอกเล็กซอกน้อย หรือในตัวเบาะรองนั่ง หากเป็นไปได้จึงควรจ้างบริษัททำความสะอาดมืออาชีพมาดีพคลีนโซฟาผ้าของเราอย่างน้อยปีละครั้ง ซึ่งกรรมวิธีแบบมืออาชีพจะช่วยให้เราสามารถทำความสะอาดในจุดที่เข้าไม่ถึงตามปกติ ช่วยขจัดคราบถาวร กำจัดกลิ่นอับ รวมถึงกำจัดเชื้อโรคสะสมบนโซฟาได้ ทำให้โซฟาผ้าตัวเดิมของเราสะอาดเอี่ยมเหมือนของใหม่อีกครั้ง แต่แม้จะจ้างมืออาชีพช่วยดูแลแล้ว เราเองก็อย่าลืมดูแลรักษาความสะอาดประจำวันให้กับโซฟาผ้าของเราอีกทีด้วย
โซฟารับแขก บุผ้าเป็นไอเทมที่ครองใจใครหลายคนมาทุกยุคทุกสมัย ด้วยดีไซน์ที่หลากหลายเข้าได้กับการตกแต่งทุกสไตล์ ทั้ง โซฟาวินเทจ หรือโซฟาแบบโมเดิร์น ซึ่งการดูแลรักษาที่เหมาะสมและสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้ โซฟาสวยๆ ของเราคงความสวยเนี้ยบเหมือนใหม่ และยืดอายุการใช้งานไปได้อีกนานแสนนาน