Skip to content

Welcome to Lounge Lovers Store

Lounge Lovers
Previous article
Now Reading:
6 เทคนิคเลือก เก้าอี้ ทำงานให้เหมาะกับสรีระ เพื่อให้ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม

6 เทคนิคเลือก เก้าอี้ ทำงานให้เหมาะกับสรีระ เพื่อให้ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม

6 เทคนิคเลือก เก้าอี้ ทำงานให้เหมาะกับสรีระ เพื่อให้ห่างไกลออฟฟิศซินโดรม

ปัญหาอันดับต้นๆ ของมนุษย์ออฟฟิศ รวมถึงคนที่ต้องนั่งทำงานกับหน้าจอหรือหน้าโต๊ะคอมฯ เป็นประจำวันละหลายชั่วโมง ก็คืออาการปวดหลัง เมื่อยล้า ปวดเกร็งตามคอ บ่า ไหล่ ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการของออฟฟิศซินโดรม (office syndrome) โดยสาเหตุหลักของอาการนี้ นอกจากการต้องนั่งท่าเดิมติดต่อกันเป็นเวลานานแล้ว การใช้เฟอร์นิเจอร์อย่างโต๊ะและ เก้าอี้ ทำงานที่ไม่เหมาะกับสรีระ ก็เป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญเช่นกัน วันนี้เราเลยจะมาแนะนำเทคนิคการเลือก เก้าอี้ ทำงานตัวใหม่ให้เข้ากับสรีระเพื่อป้องกันอาการออฟฟิศซินโดรม ซึ่งเทคนิค 6 ข้อที่ว่าจะมีอะไรบ้าง ตามไปอ่านกันเลย

เทคนิคเลือก เก้าอี้ ทำงานให้เหมาะสม มีอะไรบ้าง

เทคนิคการเลือกเก้าอี้ทำงานเพื่อป้องกันอาการปวดกล้ามเนื้อและเมื่อยล้าสะสม ซึ่งเป็นหนึ่งในอาการของออฟฟิศซินโดรม สามารถทำได้ดังนี้

เทคนิคเลือก เก้าอี้ ทำงานให้เหมาะสม มีอะไรบ้าง

1. เลือกเก้าอี้ที่ปรับระดับความสูงได้

คุณสมบัติข้อแรกของ เก้าอี้ ทำงานที่เราควรมองหา ก็คือการสามารถปรับระดับสูง-ต่ำได้ เนื่องจากความสูงของร่างกายแต่ละคนย่อมไม่เท่ากัน รวมถึงระดับของโต๊ะทำงานก็อาจแตกต่างกันไปด้วย การปรับความสูงของตำแหน่งที่นั่งจึงช่วยให้เรามีท่านั่งที่เหมาะกับอิริยาบถการทำงานมากขึ้น ทั้งนี้ ท่านั่งที่เหมาะสมในการนั่งหน้าโต๊ะทำงานก็คือเท้าทั้งสองข้างควรวางราบและแนบสนิทกับพื้น (หรือบนแผ่นรองเท้า) ส่วนเข่าควรทำมุมประมาณ 90 องศา โดยให้ต้นขาขนานกับพื้น ในขณะที่หลังเหยียดตรง ไม่งองุ้ม ซึ่งเป็นท่าทางที่ผ่อนคลายและเกร็งน้อยที่สุด

2. มีเบาะรองนั่งและพนักพิงรองรับ

ควรเลือก เก้าอี้ ทำงานที่มีเบาะนั่งนุ่มสบาย มีความแน่นแต่ไม่แข็งหรือยวบจนเกินไป และลักษณะของเบาะนั่งควรเป็นโครงสร้างที่รองรับสะโพกและส่วนก้นได้เต็มพื้นที่

นอกจากนี้ เก้าอี้ ทำงานที่ดีก็ควรมีพนักพิงที่โค้งและรองรับสรีระแผ่นหลังได้พอดี โดยส่วนบนควรมีความนุ่มและยืดหยุ่น เพื่อช่วยลดอาการเกร็งของกล้ามเนื้อหลัง คอ และบ่าไหล่ ในขณะที่ต้องนั่งทำงานเป็นเวลานาน

มีเบาะรองนั่งและพนักพิงรองรับ

3. รองรับบริเวณเอวและหลังส่วนล่าง (Lumbar Support)

โครงสร้างของ เก้าอี้ ทำงานในอุดมคตินั้นควรมีเบาะสำหรับรองรับส่วนเอวและหลังส่วนล่างในตัวด้วย เพื่อช่วยรักษาสรีระร่างกายให้ยืดตรง ไม่ค่อมลงในขณะนั่ง ซึ่งจะช่วยลดอาการปวดหลังได้ดีกว่าเดิม แต่หาก เก้าอี้ ของเราไม่มีเบาะแบบนี้ในตัว ก็สามารถหาหมอนขนาดเล็กหรือหมอนรองเอวมาเสริมเพื่อซัพพอร์ตช่วงเอวและหลังส่วนล่างได้เช่นกัน

4. มีพนักแขนและที่รองปลายแขน

อีกหนึ่งส่วนประกอบสำคัญที่ เก้าอี้ ทำงานควรมี ก็คือพนักวางแขนที่สามารถปรับสูง-ต่ำได้ โดยเฉพาะถ้าเราต้องนั่งทำงานกับหน้าจอคอมพิวเตอร์หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ การมีตัวช่วยพยุงให้ข้อศอกเป็นมุมประมาณ 90 องศา ก็จะช่วยลดอาการเมื่อยล้าจากการทำงานนานๆ ได้ดียิ่งขึ้น โดยเราแนะนำว่าส่วนข้อศอกและที่รองปลายแขนของพนักแขนนั้นควรบุด้วยวัสดุที่มีความนุ่มเล็กน้อย เช่น ฟองน้ำ ยาง หรือโฟม เพื่อให้ผู้นั่งรู้สึกสบาย วางแขนแล้วไม่เจ็บ รวมถึงส่วนปลายแขนก็ควรมีความงุ้มลงหรือโค้งเล็กน้อย ไม่เหยียดตรงเกินไป เพื่อให้รับกับรูปทรงท่อนแขน ซึ่งจะช่วยป้องกันอาการเกร็งและเมื่อยล้าของแขน บ่า ไหล่ รวมไปถึงต้นคอได้

5. เลือกวัสดุที่ระบายอากาศและมีความยืดหยุ่น

อีกหนึ่งเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม ก็คือการเลือกวัสดุของเบาะนั่งที่นุ่มสบาย มีความยืดหยุ่น และระบายอากาศได้ดี เพื่อให้เอื้ออำนวยต่อการนั่งติดต่อกันเป็นเวลานาน โดยเราอาจเลือก เก้าอี้ ที่บุด้วยผ้าหรือใยสังเคราะห์ที่มีคุณสมบัติในการระบายอากาศ รวมถึงสามารถป้องกันเหงื่อและความร้อนสะสมได้ 

นอกจากนี้ ด้านในของเบาะและพนักพิงของเก้าอี้ก็ควรทำจากวัสดุที่มีความนุ่ม แน่น และยืดหยุ่นพอควร เพื่อให้รับกับการเคลื่อนไหวของร่างกาย ตัวอย่างวัสดุที่แนะนำก็ได้แก่ เมมโมรีโฟมและยางพารา เป็นต้น

เลือกวัสดุที่ระบายอากาศและมีความยืดหยุ่น

6. ความมั่นคงและการเคลื่อนไหว

เพื่ออำนวยความสะดวกในขณะนั่งทำงาน เก้าอี้ ทำงานของเราจึงควรเป็นแบบที่สามารถเคลื่อนที่ได้และหมุนได้รอบตัว เพื่อให้เราเข้าถึงอุปกรณ์ต่างๆ บนโต๊ะได้ง่ายดายยิ่งขึ้น แต่ทั้งนี้ ก็ควรเลือก เก้าอี้ ที่มีฐานล้อที่แข็งแรงและเสถียร มีล้อที่ไม่ฝืดหรือสะดุดขณะเลื่อน เพื่อความปลอดภัยและการเคลื่อนไหวที่คล่องตัวนั่นเอง

คำแนะนำเพิ่มเติมในการป้องกันออฟฟิศซินโดรม

นอกเหนือจากการเลือก เก้าอี้ ทำงานแล้ว การปรับเปลี่ยนไลฟสไตล์และอิริยาบถในการทำงานก็มีส่วนสำคัญในการป้องกันออฟฟิศซินโดรมเช่นกัน ยกตัวอย่างเช่น

  • การเปลี่ยนท่านั่งเป็นระยะ หรือลุกขึ้นเดินยืดเส้นยืดสายทุกๆ 30-60 นาที เพื่อพักกล้ามเนื้อจากความตึงเกร็ง
  • การจัดโต๊ะทำงานให้อยู่ในระดับสายตา และอยู่ในระยะที่เหมาะสม เพื่อให้เราไม่ต้องก้มหรือเงยมากเกินไปในขณะทำงาน
  • การออกกำลังกายและยืดกล้ามเนื้อเป็นประจำ จะช่วยลดอาการปวดเมื่อยล้า และป้องกันออฟฟิศซินโดรมได้
คำแนะนำเพิ่มเติมในการป้องกันออฟฟิศซินโดรม

เก้าอี้ ทำงานถือเป็นอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่เราต้องใช้เป็นประจำในขณะนั่งทำงาน การเลือก เก้าอี้ ที่ถูกต้องตามหลักสรีรศาสตร์และเหมาะสมกับกิจกรรมที่ทำตามเทคนิค 6 ข้อที่เรากล่าวมานี้ รวมไปถึงการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์และท่าทางการนั่งทำงาน จึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่จะช่วยป้องกันเราจากอาการปวดหลัง อาการเมื่อยล้าตามคอ บ่า ไหล่ รวมไปถึงปัญหาออฟฟิศซินโดรมในอนาคต

Cart

Close

Your cart is currently empty.

Start Shopping

Select options

Close