ได้เวลาเปลี่ยนพื้นบ้านโล่ง ๆ สร้างบรรยากาศให้ห้องต่าง ๆ ภายในบ้านมีสีสัน มีชีวิตชีวา และดูดีมีสไตล์ ด้วย พรมปูพื้น ซึ่งหลายคนอาจมองว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยากหรือไม่รู้ว่าจะต้องเลือกโทนสีแบบไหนให้เข้ากับเฟอร์นิเจอร์ และยิ่งประเทศไทยเป็นเมืองร้อน หลายคนอาจกังวลว่า พรมปูพื้น จะเหมาะกับสภาพอากาศที่ร้อนชื้นและมีฝุ่นเยอะหรือเปล่า วันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับโทนสีของ พรมปูพื้น และสีที่กำลังมาแรง ไม่ว่าจะตกแต่งห้องไหนก็สร้างบรรยากาศให้ดูหรูหราและอบอุ่นมากขึ้น รับรองเลยว่า ทุกคนสามารถเนรมิตห้องออกมาให้สวยโดเด่น ดูมีสไตล์ที่แตกต่างได้อย่างลงตัวแน่นอน
มัดรวมโทนสี พรมปูพื้น ที่ต้องรู้
- พรมปูพื้น โทนสีเข้ม เช่น สีน้ำตาล, สีเทาเข้ม, สีน้ำเงินเข้ม, สีดำ เป็นต้น เป็นโทนสีที่ทำให้บรรยากาศภายในห้องดูเข้ม ขรึม และมืด แต่ในขณเดียวกันก็ให้ความรู้สึกที่หรูหรา ดูเป็นทางการ ลึกลับ แต่น่าค้นหาและน่าเชื่อถือ ที่สำคัญคือบดบังหรือพลางสิ่งสกปรกและคราบต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ไม่ค่อยเห็นรอยเปื้อน ส่วนข้อเสียคือถ้าโดนแดดแรง ๆ อาจทำให้สีซีดได้
- พรมปูพื้น โทนสีอ่อน เช่น สีขาว, สีเบจ, สีครีม เป็นต้น เป็นโทนสีที่ให้บรรยากาศตรงกันข้ามกับโทนสีเข้ม คือช่วยทำให้ห้องดูสว่างและกว้างขึ้น มองแล้วรู้สึกผ่อนคลาย สบายตา ดูเป็นกันเอง แต่ข้อเสียจะมองเห็นรอยเปื้อนหรือสิ่งสกปรกได้ง่าย เมื่อใช้สอยไประยะหนึ่งหรือโดนแสงแดดแรง ๆ ปัญหาที่จะเกิดขึ้นก็คือ สีพรมจะออกเหลือง ๆ ได้ง่าย
- พรมปูพื้น โทนสีเข้มปานกลาง เป็นโทนสีที่น่าสนใจและแมทช์กับเฟอร์นิเจอร์ชิ้นอื่น ๆ ได้ง่าย ให้ความรู้สึกที่กลมกลืนไปกับส่วนประกอบอื่น ๆ ภายในห้อง และไม่ทำให้พรมดูโดดเด่นจนแย่งซีนของชิ้นอื่น
- พรมปูพื้น โทนสีสดใส เช่น สีส้ม, สีแดง, สีน้ำเงิน เป็นต้น เป็นโทนสีที่ให้ความรู้สึกตื่นเต้น สดใส ดูเป็นคนสนุกสนาน และให้ฟีลลิ่งของบ้านหรือคอนโดอบอุ่นน่าอยู่อาศัยมากขึ้น
- พรมปูพื้น ที่มีลวดลาย จะให้ความรู้สึกที่แตกต่างไปจาก พรมปูพื้น เรียบ ๆ เพราะลวดลายที่ใช้จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความชอบและสไตล์ของแต่ละคน ซึ่งสามารถบ่งบอกบุคลิกหรือสไตล์ของเจ้าของบ้านได้เป็นอย่างดี
- พรมปูพื้น อัด มีทั้งแบบ พรมปูพื้น อัดเรียบ และ พรมปูพื้น อัดลูกฟูก เป็นพรมที่นิยมใช้ในงานนิทรรศการหรืองานจัดแสดงต่าง ๆ เพราะพรมรูปแบบนี้มีราคาไม่แพง ติดตั้งง่าย และสามารถรื้อถอนได้ง่ายเช่นกัน
รวมฮิต 5 สี พรมปูพื้น มาแรง ตกแต่งห้องให้สวยถูกใจ
GRAY TONE หรือ พรมปูพื้น สีเทา เป็นสียอดฮิตที่หลายคนมักเอาไปตกแต่งบ้านหรือคอนโดสไตล์โมเดิร์น ถือว่าเป็นโทนสีสวย ดูเรียบง่าย ปูแล้วไม่สกปรกง่ายและไม่ดำหรือซีดเร็วเหมือนสีอื่น ๆ
CREAM TONE หรือ พรมปูพื้น สีครีม เป็นสียอดฮิตที่รองลงมาจากสีเทา โดยส่วนใหญ่แล้วมักจะใช้กับพื้นคอนโดหรือพื้นบ้านที่เป็นพื้นลามิเนตโทนสีวอลนัท ซึ่ง พรมปูพื้น สีที่แมทช์กับพื้นบ้านชนิดนี้ที่สุดก็คือ สีครีม
LIGHT BROWN TONE หรือ พรมปูพื้น สีน้ำตาล จัดเป็นสีโทนกลาง (Neutral) หมายถึงเป็นสีที่ตกแต่งเข้าได้กับสไตล์ของบ้านหรือคอนโด โดยการเลือกใช้ พรมปูพื้น สีน้ำตาล จะเป็นการปรับสีไม่ให้ดูโดดเด่นหรือแย่งซีนของห้องจนเกินไป บรรยากาศห้องที่ได้จึงเป็นโทนที่อบอุ่นมากขึ้น
GREEN TONE หรือ พรมปูพื้น สีเขียว นิยมตกแต่งให้แมทช์กับเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นไม้ เพราะสีเขียวเป็นสีของธรรมชาติ ช่วยให้เย็นสบายตา ในขณะเดียวก็ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย
TWO TONE หรือ พรมปูพื้น สีทูโทน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสีที่กำลังมาแรงมาก ๆ โดยมีสองสีอยู่ใน พรมปูพื้นผืนใหญ่ หนึ่งผืน ส่วนใหญ่มักจะอยู่ในพรมปูที่มีลวดลาย ทั้งแบบลวดลายเส้นและการพิมพ์ภาพ สามารถใช้วางตกแต่งเป็น พรมปูพื้นห้องนั่งเล่น, พรมปูพื้นห้องรับแขก, พรมปูพื้นห้องนอน ถือว่าเป็นการสร้างบรรยากาศและสีสีนให้กับบ้านหรือคอนโดได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ถ้าอย่างนั้นแล้วพรมเช็ดเท้าควรวางตำแหน่งถึงจะดีและเหมาะสม สามารถเป็นได้ทั้งพร็อพตกแต่งห้องต่าง ๆ และไอเทมไว้ใช้สอยภายในห้องต่าง ๆ ของบ้าน
วางพรมบริเวณพื้นห้องน้ำ สามารถวางบริเวณโถสุขภัณฑ์ โดยให้เลือกพรมที่มีลักษณะเป็นตัว U ขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 45x70 เซนติเมตร, วางไว้ที่บริเวณหน้าอ่างล้างหน้าหรือหน้าประตูห้องน้ำ ขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 50x60 เซนติเมตร, วางไว้หน้าอ่างอาบน้ำหรือหน้าบริเวณที่เป็นส่วนของที่อาบน้ำ ขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 50x120 เซนติเมตร
วางพรมบริเวณพื้นห้องทำงาน เนื่องจากห้องทำงานเป็นพื้นที่ส่วนตัว ต้องการความเงียบและสมาธิสูง การเลือกตกแต่งห้องด้วยพรมสักผืน จึงต้องช่วยสร้างบรรยากาศให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยควรเลือกพรมที่สามารถดูดซับเสียงได้ระดับหนึ่ง, สามารถป้องกันไฟฟ้าสถิต และช่วยทำให้เท้าอบอุ่นได้ด้วย
วางพรมบริเวณห้องอาหาร แนะนำว่าควรเลือกพรมที่มีลักษณะเป็นขนสั้น เพราะเป็นบริเวณที่ถูกใช้งานมาก ไม่ว่าจะเป็นการกดทับจากเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นโต๊ะอาหาร, เก้าอี้, เคาท์เตอร์ครัว เป็นต้น หรือการกดทับจากการเดินไปมาบริเวณโซนอาหาร
นอกจากบริเวณดังกล่าวแล้วยังมีห้องนอน, ห้องนั่งเล่น และห้องรับแขก ที่สามารถวางพรมเช็ดเท้าได้อีกด้วย และต้องไม่ลืมดูว่าขนาดของพรมเช็ดเท้าเหมาะสมหรือสมดุลกับขนาดของห้องนั้น ๆ หรือไม่ เพื่อให้การจัดวางตกแต่งออกมาสวยงามและเป็นส่วนหนึ่งของบ้านได้อย่างกลมกลืน
เรียกได้ว่า พรมปูพื้น ทั้ง 5 สีที่เรานำฝากกันวันนี้ เป็นสีของพรมที่กำลังมาแรง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสีที่สามารถใช้ได้ตลอด ไม่ตกเทรนด์ ที่สำคัญก็คือ ไม่ว่าจะเป็น พรมปูพื้นห้องนั่งเล่น, พรมปูพื้นห้องรับแขก หรือห้องไหน ๆ ก็เข้ากับบ้านได้ง่ายมาก เนื่องจากโทนสีหรือสีของเฟอร์นิเจอร์ที่ใช้ตกแต่งบ้านกันส่วนใหญ่ก็คงหนีไม่พ้นโทนสีเหล่านี้เช่นกัน และเมื่อเลือกสีหรือโทนสีของพรมได้แล้ว ต้องไม่ลืมที่จะเลือกประเภทของพรมให้เหมาะสมกับการใช้งานด้วยนะ